วช. ศูนย์ KRAC ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อคนไทย และคณะวารสารศาสตร์และสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างความร่วมมือเครือข่ายสื่อมวลชนด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน

ที่มาภาพ : สำนักงานการวิจัยเเห่งชาติ

สำนักงานการวิจัยเเห่งชาติ – วช. โดยศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อคนไทย และคณะวารสารศาสตร์และสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างความร่วมมือเครือข่ายสื่อมวลชนด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาล ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม

 

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นางสาวสตตกมล เกียรติพานิช ผู้อำนวยการกองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม 2 กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความร่วมมือเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 ณ The Botanical House พระราม 9 กรุงเทพมหานคร
 
นางสาวสตตกมล เกียรติพานิช ผู้อำนวยการกองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม 2 กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันเป็นภารกิจสำคัญที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศและส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่าง ๆ วช. จึงได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค โดยมี ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งมุ่งหวังให้ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Hub of Knowledge) ด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ โดยศูนย์ดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันให้มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงสนับสนุนการเผยแพร่องค์ความรู้ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งระดับประเทศและภูมิภาค ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของภาคสื่อมวลชนในการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ที่มาภาพ : สำนักงานการวิจัยเเห่งชาติ
ภายในงานดังกล่าวได้จัดกิจกรรมเพื่อปลุกกำลังใจการทำข่าวสืบสวนสอบสวน โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” เป็น Keynote Speaker ในหัวข้อ “ความร่วมมือในการสร้างระบบนิเวศการต่อต้านคอร์รัปชัน” ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
 
อีกทั้งยังมีการอภิปรายหัวข้อ “ความสำคัญของการทำข่าวสืบสวนสอบสวน” โดยคุณปรางทิพย์ ดาวเรือง นักวิจัยอิสระด้านมาเลเซียและนักข่าวอิสระ สมาชิกเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ที่ได้แบ่งปันมุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของข่าวสืบสวนในการเปิดโปงความไม่โปร่งใสและการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสาร
 
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มุ่งเน้นการเสริมสร้างระบบนิเวศการทำข่าวสืบสวนสอบสวนอย่างรอบด้าน โดยเริ่มจากการสะท้อนปัญหาและความท้าทายผ่านการระดมความคิด การเผยแพร่ผลวิจัยเกี่ยวกับบทบาทสื่อมวลชน ตลอดจนการระดมความคิดเพื่อขับเคลื่อนประเด็นข่าวเชิงลึกอย่างเป็นรูปธรรม
 
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ยังได้มีโอกาสร่วมระดมความคิด พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญและผู้สนับสนุนจากหลากหลายภาคส่วนรวมทั้งสื่อมวลชนจากหลายหน่วยงาน โดยมุ่งหวังให้เกิดการรวมพลังความร่วมมือเพื่อยกระดับการทำข่าวสืบสวนสอบสวนให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์ต่อสังคมส่งเสริมธรรมาภิบาลของประเทศต่อไป
ที่มาภาพ : สำนักงานการวิจัยเเห่งชาติ

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Building Bridges: Strengthening Collaboration Between Law Enforcement and Citizens for an Effective Anti-Corruption Ecosystem” โดย Professor Matthew C. Stephenson จาก Harvard Law School ซึ่งได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและประชาชนในการสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ โดยระบุว่าการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจร่วมกันเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดช่องว่างในการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน

 

ต่อเนื่องด้วยการเสวนาในหัวข้อ “การเชื่อมประสานการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันในประเทศไทย” โดยมี Ms. Annika Wythes ที่ปรึกษาภูมิภาคด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน จาก UNODC พันตรีหญิง นิมมาน์ แก่นกำจรสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) พันตำรวจตรีหญิงมนัสนันท์ กันทะสี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ร่วมเสวนาซึ่งจากการเสวนาได้ข้อสรุปว่าการแก้ไขปัญหาการทุจริตในประเทศไทยอย่างยั่งยืนสามารถทำได้ด้วยการพัฒนาแนวทางและนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงเชื่อมโยงการทำงานของทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การสร้างกลไกความร่วมมือที่เข้มแข็งต่อไป

You might also like...