KRAC Workshop | สืบข่าว สาวโกง โยงข้อมูล พัฒนาทักษะการทำข่าวสืบสวน เจาะลึกคอร์รัปชัน

เมื่อประเทศไทยเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส ถึงเวลาของนักข่าวสายสืบสวนที่จะมาฝึกทักษะการสืบสาวเรื่องราวคอร์รัปชัน เพื่อเปิดเผยความจริงให้กับสังคม

 

ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงร่วมกับ งานร้อยพลังสร้างสังคมดี และงานสื่อสารสังคม สนับสนุนภาคี มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” Khonthaifoundation คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ JC Thammasat องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) บริษัท แฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และ ภาคีเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านคอร์รัปชัน จัด โครงการ “Investigative Journalism For Anti-Corruption 101: สืบข่าว สาวโกง โยงข้อมูล” ขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ห้อง Smart Classroom คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อช่วยเสริมทักษะและพัฒนาศักยภาพให้กับนักข่าว อินฟลูฯ สายข่าว หรือผู้ที่มีความสนใจทำสื่อสืบสวนประเด็นคอร์รัปชัน ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มหรือมีประสบการณ์ ให้มีความเข้าใจในกระบวนการทำข่าวสืบสวนอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อสร้างยอดนักสืบคอร์รัปชัน !! กิจกรรมครั้งนี้ผู้เรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง ? มาดูกัน !! 👇

ฝึกทักษะการทำข่าวสืบสวนแบบเชิงลึก

 

ช่วงเช้าของวันแรก ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการทำข่าวสืบสวนแบบเชิงลึกกับ “คุณสถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา” หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและดูแลภาพลักษณ์องค์กร สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) Thailand Institute of Justice (TIJ) ที่ได้เน้นถึงการทำข่าวสืบสวนที่ดี…ว่าต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ข้อเท็จจริง” ไม่ใช่เพียงแค่ความคิดเห็นของผู้ทำข่าว

 

อีกทั้งยังชวนให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ เริ่มตั้งแต่การตั้งข้อสังเกต สงสัย ตั้งสมมติฐาน ทดลอง ไปจนถึงการสรุปผล พร้อมทั้งลงมือฝึกปฏิบัติจริงผ่านเวิร์กช็อปที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ ตั้งประเด็นได้อย่างมีประสิทธิภาพจากข้อมูลที่อยู่ในมือ และนำข้อมูลนั้นมาประยุกต์ใช้กับการทำข่าวสืบสวนอย่างเป็นรูปธรรม

พูดคุยแบบเจาะลึกกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทำข่าวสืบสวน

 
ช่วงบ่าย บรรยากาศเปลี่ยนไปสู่การพูดคุยแบบเจาะลึกกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทำข่าวสืบสวน ได้แก่
 
  • คุณพงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์ นักข่าวอิสระมากประสบการณ์
  • คุณมนตรี จุ้ยม่วงศรี  บรรณาธิการศูนย์ข่าวสืบสวน จาก สำนักข่าวอิศรา
  • คุณบุศรินทร์ วรสมิทธ์ บรรณาธิการข่าวผู้เคยทำข่าว “เสาไฟกินรี” อันโด่งดัง
 
บทสนทนาในช่วงนี้ พวกวิทยากรได้แบ่งปันเทคนิคการทำงาน วิธีคิด และบทเรียนจากความยากลำบากที่ต้องเผชิญในการตามหาความจริง

เปิดโลกของเครื่องมือสืบสวน

 

วันที่สอง เริ่มต้นช่วงเช้าด้วยการเปิดโลกของเครื่องมือสืบสวน กับ คุณณัฐภัทร เนียวกุล หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเปิดเพื่อความโปร่งใสและการมีส่วนร่วม จาก HAND Social Enterprise ที่มาแบ่งปันเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลสาธารณะเพื่อใช้ในการสืบสวนเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลภาครัฐหรือแพลตฟอร์มการวิเคราะห์งบประมาณที่ช่วยเปิดโปงความผิดปกติในเชิงตัวเลข ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลจาก กรมบัญชีกลาง Parliament Watch,DBD, ภาษีไปไหน, Creden, WeVis Bangkok Budgeting ผ่างบเมือง และ ACT AI

 

โดยทุกเครื่องมือที่กล่าวมาคืออาวุธลับของนักข่าวสืบสวนในยุคที่ข้อมูลมีอยู่อย่างมหาศาล ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนจากข้อมูลที่ซับซ้อนให้กลายเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่าย และชี้ข้อสังเกตความผิดปกติในกระบวนการทำงานของรัฐ ซึ่งนำไปสู่การเปิดโปงความจริงที่ซ่อนอยู่ในระบบราชการและการใช้งบประมาณของภาครัฐ

ฝึกฝนการอ่านและตีความข้อมูลจำนวนมาก เพื่อค้นหา “ความผิดปกติ”

 

เมื่อได้รู้จักเครื่องมือในการสืบค้นแล้ว ถึงเวลานำทุกอย่างมาประยุกต์ใช้จริงในช่วงบ่าย กับ คุณสันติชัย อาภรณ์ศรี  บรรณาธิการบริหาร จาก Rocket Media Lab ผู้มีประสบการณ์ตรงในการทำข่าวสืบสวนในยุคข้อมูลมีจำนวนมาก

 

โดยเริ่มต้นจากคำถามสำคัญที่ดูเหมือนเรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่าง “ปัญหาคืออะไร?” จากนั้นผู้เข้าร่วมได้ฝึกฝนการอ่านและตีความข้อมูลจำนวนมาก เพื่อค้นหา “ความผิดปกติ” ที่อาจแฝงอยู่ในข้อมูลนั้น เช่น กรณีโครงการเสาไฟกินรีที่มีราคาสูงเกินจริงอย่างไม่น่าเชื่อ หรืออีกกรณีที่พบป้ายงบประมาณจำนวนมากจนนำมาสู่การตั้งคำถามว่าจุดจบจะเป็นเช่นเดียวกับกรณีเสาไฟกินรีไหม ?

 

เมื่อพบจุดที่ผิดปกติแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการใช้เครื่องมือ Pivot Table ซึ่งช่วยในการดูความถี่ของข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูลแต่ละชิ้นเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ จนสามารถมองเห็นภาพใหญ่ของการทุจริตที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในเชิงโครงสร้าง การวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งนี้ ทำให้เห็นว่าข่าวสืบสวนที่ดีไม่ใช่แค่การจับผิด แต่คือการเข้าใจระบบที่เอื้อต่อการโกง และเผยให้สังคมเห็นอย่างมีหลักฐานรองรับ

8 บทเรียนที่ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากเวิร์กชอป

 
1. การเชื่อมโยงอย่างลึกซึ่งระหว่างหลักนิติธรรมและการคอร์รัปชัน ⚖️
2. การแยกความจริง (Facts) ออกจากความคิดเห็น (Opinions) 🧠
3. วิธีการคิดแบบวิทยาศาสตร์ในการสังเกต สงสัย ตั้งสมมติฐาน ทดลองและสรุปผล📌
4. การใช้เครื่องมือและข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำข่าวสืบสวน 🔍
5. สังเกตและแนวทางการปฏิบัติ เมื่อเผชิญกับความเสี่ยงระหว่างทำข่าวสืบสวน🧭
6. เป้าหมายของสื่อสืบสวนไม่ใช่แค่จับคนผิด แต่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบ ♻️
7. การเข้าถึงข้อมูลภาครัฐที่เป็นอุปสรรคใหญ่ แต่ทำอย่างไรเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล🗂️
8. การตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นระบบช่วยให้เจาะลึกและจับประเด็นได้ชัดเจน

โครงการนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จแบบเกินคาด ทำให้ต้องขยายจำนวนผู้เข้าร่วมจาก 15 เป็น 20 คน

 
ทุกคนที่เข้าร่วมก็ให้เสียงตอบรับไปในทางเดียวกันว่า กิจกรรมนี้มีประโยชน์มาก ๆ ได้ความรู้ที่เอาไปใช้ได้จริง ไม่ว่าจะในงานที่ทำอยู่ตอนนี้ หรือจะต่อยอดไปในอนาคต อีกทั้งยังช่วยจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีกำลังใจและพลังในการลุยทำข่าวสืบสวนต่อไปอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอีกด้วย
 
กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงแค่ได้ความรู้เรื่องการทำข่าวสืบสวนเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้คนที่สนใจเรื่องเดียวกันได้มารู้จัก พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเริ่มสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ซึ่งวิทยากร สื่อมวลชน และผู้เข้าร่วมจากหลากหลายที่ ต่างคนต่างมีมุมมองและทักษะที่สามารถต่อยอดกันได้ในอนาคต ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการร่วมมือที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าในวันข้างหน้า
 
เสียงตอบรับดี ๆ แบบนี้ถือเป็นสัญญาณที่บอกว่า เราน่าจะจัดกิจกรรมแบบนี้อีกแน่นอน ! ถ้าใครหรือสื่อมวลชนคนไหนสนใจกิจกรรมดี ๆ แบบนี้อีก
 

อย่าลืมติดตามเพจของเราเอาไว้ หรือจะลองเข้าไปใช้เครื่องมือสืบสวนทั้ง 9 เครื่องมือ ในคอมเมนต์ก็ได้นะ เรารับประกันเลยว่าคุณจะกลายเป็นยอดนักสืบคอร์รัปชันได้ไม่ยากเลย !

You might also like...