สรุปความน่าสนใจจาก “การประชุมเชิงวิชาการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2”

จบลงไปเเล้วกับการประชุมเชิงวิชาการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 ทีม KRAC ขอมาสรุปให้ฟังว่าเเต่ละประเทศในอาเซียนมี Best practice ในการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างไร รวมถึงบทบาทของไทยในการยกระดับการเเก่ปัญหาคอร์รัปชันให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) สนับสนุนโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC – United Nations Office on Drugs and Crime) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (ACT) และ แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai CAC) ได้มีการจัดการประชุมเชิงวิชาการระดับนานาชาติขึ้น ณ ห้อง Grand Ballroom โรงแรง S31 Sukhumvit Hotel กรุงเทพฯ
 
โดยการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการ ประสบการณ์ และกลยุทธ์เชิงนวัตกรรมในการต่อต้านการทุจริตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างองค์กรต่อต้านการทุจริตภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญ และได้รับการยอมรับในแวดวงต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถนำแนวทางการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันไปใช้ในประเทศของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การประชุมครั้งนี้เริ่มด้วยปาฐกถาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน ได้แก่ Professor Matthew C. Stephenson อาจารย์ด้านกฎหมายจาก Harvard Law School ที่มีผลงานเกี่ยวกับการศึกษาธรรมาภิบาลและการต่อต้านการคอร์รัปชัน ในหัวข้อ Unveiling Corruption’s Puzzle: Exploring Challenges and Opportunities for Anti-Corruption Agencies in Southeast Asia ซึ่งกล่าวถึงความท้าทายของการป้องกันการทุจริตในภูมิภาค เช่น การแทรกแซงทางการเมือง ความเป็นอิสระของหน่วยงาน ข้อจำกัดด้านงบประมาณ และการมีบรรทัดฐานทางสังคม นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มโอกาสในการป้องกันการทุจริตได้ด้วยการกำหนดขอบเขตและบรรทัดฐานที่ชัดเจนเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน รวมถึงการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี เช่น Big Data Analytics ในการเฝ้าระวังคอร์รัปชัน
 
นอกจากนี้ ยังแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมาย เช่น การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการคอร์รัปชัน และสร้างความตระหนักรู้ให้สาธารณชนไม่ทนต่อการคอร์รัปชัน และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า การจัดประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างพื้นที่ให้หน่วยงาน นักวิชาการ และคนทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันได้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และสร้างความร่วมมือในการดำเนินการ รวมทั้งต่อยอดโครงการและแนวทางต่อต้านคอร์รัปชันให้เกิดขึ้นจริง
รวมถึง Ms. Annika Wythes Team Lead, Anti-Corruption Hub for Southeast Asia and the Pacific, UNODC ที่ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Thematic insights in Anti-Corruption in the region ซึ่งได้เน้นย้ำให้ประเทศสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) ให้ความสำคัญต่อการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในภูมิภาค ผ่านการส่งเสริมบทบาทของภาคประชาสังคมและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาและขับเคลื่อนมาตรการตามกรอบอนุสัญญาฯ
การประชุมครั้งนี้ได้มีการแบ่งประเด็นการเสวนาทั้งหมด 3 หัวข้อ ดังนี้
  • หัวข้อที่ 1 การเปิดเผยข้อมูล (Open Data)
  • หัวข้อที่ 2 มุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อการต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Foreign Investors’ Perspectives on Anti-Corruption in Southeast Asia)
  • หัวข้อที่ 3 ความเชื่อมโยงระหว่างการทุจริตกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Linkages between Corruption and Transnational Organized Crime; TOC)

 

ซึ่งเราได้สรุปรายละเอียดไว้ให้คุณแล้ว !

 
จากหัวข้อ “ข้อมูลเปิด” ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อมูลและข้อมูลเปิด และสิทธิในการเข้าถึงและการใช้งานข้อมูล ตลอดจนการเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เพิ่มขึ้น และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน รวมถึงการตั้งมาตรฐานของข้อมูลเปิดระดับชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะและการสร้างความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่ยั่งยืน
 
นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการประสานแนวทางและมาตรฐานข้อมูลเปิดที่จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านการใช้เครื่องมือที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวทางสังคม รวมถึงเป็นการสนับสนุนการสร้างการเปลี่ยนแปลงในการต่อต้านคอร์รัปชัน เช่น การพัฒนาระบบออนไลน์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการส่งเสริมการทำข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนบนฐานของข้อมูล เป็นต้น
ในหัวข้อ “มุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อการต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ได้ชี้ให้เห็นว่าการปรับปรุงดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index; CPI) จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนและส่งเสริมการปฏิบัติที่ดีในประเทศไทย ซึ่งเป็นมุมมองจากนักวิชาการและนักลงทุนทั้งในไทยและต่างชาติ โดยได้เสนอแนะถึงความสามารถในการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลสู่ระบบดิจิทัลเพื่อใช้วิเคราะห์ช่องโหว่การคอร์รัปชันและแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในกระบวนการธุรกิจเพื่อเพิ่มความโปร่งใส รวมถึงการนำข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างเข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่มีมาตรฐานได้
 
ดังนั้น การลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยี นอกจากจะช่วยป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการทุจริต ยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรม เช่น การส่งเสริมการบริหารงานในท้องถิ่น การสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็ง และการลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลในการสร้างแนวปฏิบัติที่ดี ผ่านการรับแนวทางจากองค์กรต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันในระดับนานาชาติ ที่หากประเทศไทยได้ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานเหล่านี้ ก็จะทำให้เกิดการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น
โดยในหัวข้อสุดท้ายอย่าง “ความเชื่อมโยงระหว่างการทุจริตกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ได้กล่าวถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจบริบทและสถานการณ์ของการคอร์รัปชันและอาชญากรรมข้ามชาติรวมถึงช่องโหว่ของการคอร์รัปชันและอาชญากรรมข้ามชาติที่ต้องพัฒนาแนวทางการแก้ไขโดยเร่งด่วน เช่น การคอร์รัปชันในคาสิโน การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ในพื้นที่ชายแดน โดยสามารถแก้ไขปัญหาด้วยการจัดหางานให้กับแรงงานต่างด้าวผ่านการกระจายอำนาจสู่หน่วยงานอื่น ๆ และการตรวจสอบการติดสินบนอย่างครอบคลุมในแต่ละกระบวนการ
รวมถึงการปกป้องผู้แจ้งเบาะแส และแบ่งปันข้อมูลผ่านการมีกฎหมายปกป้องกลุ่มคนดังกล่าว เป็นต้น
 
ตลอดจนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนต่าง ๆ เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิเคราะห์และติดตามข้อมูลทางการเงิน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงหัวใจสำคัญของการต่อสู้กับการคอร์รัปชันและอาชญากรรมข้ามชาติ คือการมีส่วนร่วมในสังคมระหว่างองค์กรภาคประชาสังคมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และภาคสื่อสารมวลชนที่สามารถเข้ามามีบทบาทในการร่วมแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติได้
งานนี้ จึงเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่แข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทำให้เกิดความร่วมมือและความเชื่อมโยงของประเด็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลากหลายจากการรวบรวมผู้มีส่วนร่วมจากภาครัฐและเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษาและองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการร่วมกันต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
 

สำหรับผู้ที่สนใจรับชมเนื้อหาจากการประชุม สามารถดูไลฟ์ย้อนหลังได้ที่ https://web.facebook.com/NACCThailandOfficialFanpage/videos/471166701953564/

 
———————————————
The “2nd International Conference on Anti-Corruption Innovations in Southeast Asia” was a great success!
 
On June 7, 2024, the National Anti-Corruption Commission (NACC) of Thailand, in collaboration with the Knowledge Hub for Regional Anti-Corruption Cooperation and Good Governance Collaboration (KRAC), supported by the National Research Council of Thailand (NRCT), the United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC), the Anti-Corruption Organization of Thailand (ACT), and the Thai Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption (CAC), hosted the Second International Conference on Anti-Corruption Innovations in Southeast Asia at the Grand Ballroom, S31 Sukhumvit Hotel, Bangkok.
 
This conference aimed to create a platform for stakeholders from public, private, and civil society anti-corruption organizations, as well as renowned anti-corruption experts at both regional and international levels, to exchange academic knowledge, experiences, and innovative anti-corruption strategies. The knowledge shared aimed to enable participants to effectively implement anti-corruption measures in their respective countries.
 
The conference began with a keynote address by anti-corruption expert Professor Matthew C. Stephenson from Harvard Law School. He discussed “Unveiling Corruption’s Puzzle: Exploring Challenges and Opportunities for Anti-Corruption Agencies in Southeast Asia,” highlighting the challenges in preventing corruption in the region, such as political interference, agency independence, budget constraints, and social norms. He also discussed opportunities to prevent corruption by establishing clear boundaries and norms to create operational transparency, utilizing technological tools like Big Data Analytics for corruption monitoring, improving legislation for whistleblower protection, and raising public awareness to combat corruption. He emphasized that this conference was an important opportunity for agencies, academics, and anti-corruption professionals to exchange knowledge, experiences, and collaborate on anti-corruption initiatives and projects.
 
Ms. Annika Wythes, Team Lead, Anti-Corruption Hub for Southeast Asia and the Pacific, UNODC, delivered a keynote on “Thematic Insights in Anti-Corruption in the Region,” emphasizing the importance of preventing corruption through the United Nations Convention against Corruption (UNCAC) framework. She highlighted the role of civil society and non-profit organizations in promoting and implementing anti-corruption measures.
 
The conference featured three main discussion topics: Open Data, Foreign Investors’ Perspectives on Anti-Corruption in Southeast Asia and Linkages between Corruption and Transnational Organized Crime (TOC). We have summarized the details for you!
 
Open Data: This session emphasized the importance of data and open data, the right to access and use data, and increasing data disclosure to enhance public participation and collaboration between anti-corruption agencies. It advocated for national open data standards to ensure public benefit, transparency, and sustainable accountability. It also addressed the need for coordinated open data approaches and standards, facilitated by tools to engage stakeholders, support anti-corruption efforts, and promote investigative journalism based on data.
 
Foreign Investors’ Perspectives on Anti-Corruption in Southeast Asia: This session highlighted that improving the Corruption Perceptions Index (CPI) would boost investment confidence and promote good practices in Thailand, as viewed by academics and both local and foreign investors. It suggested leveraging technology to digitize data for analyzing corruption vulnerabilities and addressing corruption issues, such as using Artificial Intelligence (AI) in business processes to enhance transparency. It also recommended putting procurement data online to provide standardized access. Investing in innovation and technology not only helps prevent and mitigate corruption but also promotes development and innovation, encourages local governance, and strengthens cooperation. The government was urged to adopt international anti-corruption standards to attract more foreign investment.
 
Linkages between Corruption and Transnational Organized Crime (TOC): This session discussed the importance of understanding the context and situation of corruption and transnational crime, highlighting vulnerabilities that need urgent attention, such as corruption in casinos, money laundering, and human trafficking in border areas. Solutions included providing employment for migrant workers through decentralization, comprehensive bribery inspections, whistleblower protection, and data sharing with protective laws. The use of technology, such as AI for financial data analysis and tracking, was also emphasized. The key to fighting corruption and transnational crime lies in societal participation, involving civil society organizations, law enforcement, and media in addressing these issues.
 
This event provided a platform to build a strong anti-corruption network in Southeast Asia, fostering cooperation and addressing interconnected issues through collaboration among government, private sector, civil society, academia, and international organizations. This effort promotes transparency across the region through collective anti-corruption initiatives.
 
Although the 2nd Southeast Asia Regional Anti-Corruption Academic Conference has concluded, those interested can follow anti-corruption information on the Knowledge Centre for Anti-Corruption Cooperation and Good Governance (KRAC) Facebook page KRAC Corruption Stay connected with KRAC for more updates!

You might also like...