บทความวิจัย | ทัศนคติของประชาชนและพรรคการเมืองต่อการปฏิรูปประเทศไทย ในระยะเปลี่ยนผ่าน

ทำความเข้าใจทัศนคติของประชาชนและพรรคการเมืองในการปฏิรูปประเทศไทย พบว่า ประชาชนเห็นชอบต่อการจัดตั้งรัฐบาลทหารเพื่อปฏิรูปประเทศ ขณะที่พรรคการเมืองเชื่อว่าพลังในการปฏิรูปมาจากประชาชน

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ทัศนคติของประชาชนและพรรคการเมืองต่อการปฏิรูปประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่าน (2) ทัศนคติของประชาชนจําแนกตามภูมิหลังประชากร (3) พลังอํานาจของชาติที่สนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย และ (4) ความคาดหวังต่อการปฏิรูปประเทศไทยของประชาชนและพรรคการเมือง  

งานวิจัยนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสานเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเชิงปริมาณมีกลุ่มตัวอย่างเป็นประชากร รวม 6 ภูมิภาค คํานวณหาขนาดจํานวนกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของ ทาโร ยามาเน่  โดยประมาณด้วยความเชื่อมั่น 95% และความคลาดเคลื่อน 5% ได้เป็นกลุ่มตัวอย่าง 1,100 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้แบบสอบถาม โดยหาค่าร้อยละ หาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานการวิจัย ใช้การวิเคราะห์ความแปรปวน ค่า t-test  ค่า F-test และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน  ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการสัมภาษณ์เจาะลึก หัวหน้าพรรคการเมืองหรือผู้แทนพรรค จํานวน 8-10 พรรค  

จากการศึกษาความคาดหวังต่อการปฏิรูปประเทศไทย พบว่า ประชาชนคาดหวังให้ได้นักการเมืองที่ดี มีคุณธรรม ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน การเมืองไทยดีและเศรษฐกิจเจริญขึ้น ส่วนพรรคการเมืองส่วนใหญ่คาดหวังให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจัง รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพ

ในประเด็นพลังอํานาจของชาติที่สนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย โดยภาพรวม ประชาชนคิดเห็นว่า พลังอํานาจที่สนับสนุนการปฏิรูปสูงสุดคือ พลังอำนาจทางทหาร รองลงมาคือ พลังอํานาจทางสังคม และพลังอํานาจทางการเมืองตามลําดับ ส่วนพรรคการเมืองมีความเห็นว่าพลังอํานาจที่สําคัญแท้จริงต้องมาจากประชาชน หรือพลังอํานาจทางสังคม

ต่อมา ในประเด็นทัศนคติต่อการปฏิรูปประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่าน พบว่า ประชาชนมีทัศนคติเชิงบวกต่อการการจัดตั้งรัฐบาลทหาร เพื่อปฏิรูปประเทศไทยและการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่าง ๆ แตกต่างจากพรรคการเมืองส่วนใหญ่มีทัศนคติเชิงลบ หรือไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลทหาร

สุดท้าย ในประเด็นความคาดหวังต่อการปฏิรูปประเทศไทยพบว่า โดยภาพรวม ประชาชนเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ให้มีการปฏิรูปการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนพรรคการเมืองส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสากลและสร้างความปรองดอง รวมทั้งปฏิรูปให้บังคับใช้กฎหมายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

โรจน์ พิมานมาศสุริยา. (2560). ทัศนคติของประชาชนและพรรคการเมืองต่อการปฏิรูปประเทศไทย ในระยะเปลี่ยนผ่าน. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 15(2), 3344.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2560
ผู้แต่ง

วิโรจน์ พิมานมาศสุริยา

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่

โครงการวิจัยเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน ระยะที่ 2

จัดทำข้อเสนอเพื่อเสริมพลังการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านคอร์รัปชัน ผ่านงานวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) และกระบวนการ Design Thinking เพื่อเข้าใจปัญหาจากมุมมองประชาชนและพัฒนานวัตกรรมแก้ไขที่ใช้ได้จริง

You might also like...

KRAC Extract | คอร์รัปชันใต้ผืนป่า ความอยุติธรรมที่หยั่งรากในนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อม

พาไปเจาะลึกด้นมืดของการปลูกป่า การฟื้นฟูดิน และคาร์บอนเครดิต โครงการที่ควรช่วยโลกให้ดีขึ้น แต่แท้จริงแล้วกลับถูกแทรกแซงด้วยอำนาจที่ไม่โปร่งใสในหลายขั้นตอน

KRAC Hot News I COP30 กับการวางธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมโลก

ท่ามกลางคลื่นความร้อน น้ำท่วม และความไม่มั่นคงทางอาหาร โลกกำลังถกเถียงครั้งใหญ่เรื่อง “ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมโลก” ว่าใครต้องลด ใครต้องจ่าย และใครควรได้รับการเยียวยาและในปี 2025 นี้ COP30 จะเป็นเวทีชี้ขาดครั้งสำคัญของทิศทางสิ่งแวดล้อมโลก

KRAC Insights I เชื่อมข้อมูล-เชื่อมภาคส่วน: ยกระดับงานวิจัยธรรมาภิบาลไทยยุคใหม่

KRAC ชวนอ่านสรุปเวทีเสวนา “Thailand Open Science for All” เพื่อพัฒนาบทบาทของ KRAC ในการเชื่อมโยงข้อมูล งานวิจัย และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อผลักดัน Open Science และยกระดับงานวิจัยด้านธรรมาภิบาลของไทยสู่การใช้งานจริงเชิงนโยบาย