โครงการวิจัย เรื่องการตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชัน

แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

แนวทางการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ คือแนวทางการมีส่วนร่วมภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจด้านการจัดจำแนกกลุ่มประชาชนที่มีพฤติกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสมสำหรับคนไทย 4.0 งานวิจัยนี้จึงใช้ศาสตร์การตลาดจําแนกกลุ่ม และศึกษาลักษณะซ่อนเร้นของผู้ที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันในสังคมไทย เพื่อการออกแบบกลไกกระตุ้นการมีส่วนร่วมของคนในสังคมที่มีความหลากหลาย

จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ควรนำมาใช้ในการแบ่งกลุ่มเพื่อดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันคือปัจจัยเชิงสังคม วัฒนธรรม และจิตวิทยาซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มคนได้อย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจนเหมาะสมกว่า และบรรทัดฐานส่วนบุคคล และความเป็นชายเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการต่อต้านคอร์รัปชัน ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชันจึงควรให้ความรู้ด้านบรรทัดฐานด้านคอร์รัปชันแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เน้นให้กลุ่มเป้าหมายเห็นปัญหาของการคอร์รัปชันที่ชัดเจน และต้องกำหนดกรอบบรรทัดฐานทางสังคมของการคอร์รัปชันให้เข้าใจง่ายและถูกต้อง เพื่อปลุกจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดบรรทัดฐานส่วนบุคคลด้านคอร์รัปชันในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนั้นการสื่อสารให้เกิดความรู้สึกถึงความสำคัญของความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย ทั้งในเรื่องทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันได้

ประเด็นสำคัญของงานวิจัย 

  • งานวิจัยชิ้นนี้สามารถยืนยันผลได้ว่า ปัจจัยซ่อนเร้นตามลักษณะทางวัฒนธรรม ค่านิยม และทัศนคติของคนทั่วไป สามารถนำมาแบ่งแยกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งลักษณะแฝงร่วมที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มที่ต่อต้านคอร์รัปชันสูงและต่อต้านคอร์รัปชันต่ำนั้น ประกอบด้วย บรรทัดฐานส่วนตน ความเชื่อในอำนาจของตน ความกลัวความเสี่ยงต่อผลลัพธ์ ความหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของกระบวนการ และความยึดมั่นในผลประโยชน์ อีกทั้งเมื่อบรรทัดฐานส่วนตนสูงขึ้นการต่อต้านคอร์รัปชันก็จะสูงขึ้นด้วย
  • งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนะว่า การให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกเพื่อสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาต่อต้านคอร์รัปชัน ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีความเป็นชายต่ำ หรือในที่นี้หมายถึงมีความดุดัน บึกบึนต่ำ จะมีการต่อต้านคอร์รัปชันสูง ซึ่งสามารถอภิปรายได้ว่า การปลูกจิตสำนึกและทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิงสามารถเป็นแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านคอร์รัปชันได้มากขึ้น
  • งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนวทางการต่อยอดข้อเสนอแนะงานวิจัยว่า สามารถนำองค์ความรู้ด้านแนวทางการจัดจำแนกกลุ่มประชาชนที่มีพฤติกรรมการต่อต้านคอร์รัปชันและการจัดทำกลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง ผ่านการจัดทำ digital content ในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอ และอินโฟกราฟิก โดยเน้นสื่อสารเรื่องการสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน และการปลูกจิตสำนึก และทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

ต่อภัสสร์ ยมนาค, เอกก์ ภทรธนกุล, อภิชาต คณารัตนวงศ์, ธานี ชันวัฒน์, ปฏิพัทธ์ สุสำเภา. (2563).
การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชัน.
แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.).

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
ธันวาคม 2563
ผู้แต่ง
  • ผศ.ดร. ต่อภัสสร์ ยมนาค
  • ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล
  • ผศ.ดร. อภิชาต คณารัตนวงศ์
  • ผศ.ดร. ธานี ชัยวัฒน์
  • นายปฏิพัทธ์ สุสำเภา
หน่วยงานสนับสนุน
หัวข้อ
Releated Content

You might also like...

การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับ การต่อต้านคอร์รัปชัน

“พลเมือง” ไม่ใช่แค่ผู้รับคำสั่ง แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองขับเคลื่อนต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตย เปิดตัวบทความแรกเราขอเริ่มต้นด้วยเรื่องความสุขของพลเมือง

การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับ การต่อต้านคอร์รัปชัน

แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แนวทางการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ คือแนวทางการมีส่วนร่วมภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจด้านการจัดจำแนกกลุ่มประชาชนที่มีพฤติกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสมสำหรับคนไทย 4.0 งานวิจัยนี้จึงใช้ศาสตร์การตลาดจําแนกกลุ่ม และศึกษาลักษณะซ่อนเร้นของผู้ที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันในสังคมไทย เพื่อการออกแบบกลไกกระตุ้นการมีส่วนร่วมของคนในสังคมที่มีความหลากหลาย จากการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ควรนำมาใช้ในการแบ่งกลุ่มเพื่อดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันคือปัจจัยเชิงสังคม วัฒนธรรม และจิตวิทยาซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มคนได้อย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจนเหมาะสมกว่า และบรรทัดฐานส่วนบุคคล และความเป็นชายเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการต่อต้านคอร์รัปชัน ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชันจึงควรให้ความรู้ด้านบรรทัดฐานด้านคอร์รัปชันแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เน้นให้กลุ่มเป้าหมายเห็นปัญหาของการคอร์รัปชันที่ชัดเจน และต้องกำหนดกรอบบรรทัดฐานทางสังคมของการคอร์รัปชันให้เข้าใจง่ายและถูกต้อง เพื่อปลุกจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดบรรทัดฐานส่วนบุคคลด้านคอร์รัปชันในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนั้นการสื่อสารให้เกิดความรู้สึกถึงความสำคัญของความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย ทั้งในเรื่องทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันได้ ประเด็นสำคัญของงานวิจัย  งานวิจัยชิ้นนี้สามารถยืนยันผลได้ว่า ปัจจัยซ่อนเร้นตามลักษณะทางวัฒนธรรม ค่านิยม และทัศนคติของคนทั่วไป สามารถนำมาแบ่งแยกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งลักษณะแฝงร่วมที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มที่ต่อต้านคอร์รัปชันสูงและต่อต้านคอร์รัปชันต่ำนั้น ประกอบด้วย บรรทัดฐานส่วนตน ความเชื่อในอำนาจของตน ความกลัวความเสี่ยงต่อผลลัพธ์ ความหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของกระบวนการ และความยึดมั่นในผลประโยชน์ อีกทั้งเมื่อบรรทัดฐานส่วนตนสูงขึ้นการต่อต้านคอร์รัปชันก็จะสูงขึ้นด้วย งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนะว่า การให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกเพื่อสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาต่อต้านคอร์รัปชัน ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีความเป็นชายต่ำ หรือในที่นี้หมายถึงมีความดุดัน บึกบึนต่ำ จะมีการต่อต้านคอร์รัปชันสูง ซึ่งสามารถอภิปรายได้ว่า การปลูกจิตสำนึกและทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิงสามารถเป็นแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านคอร์รัปชันได้มากขึ้น งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนวทางการต่อยอดข้อเสนอแนะงานวิจัยว่า สามารถนำองค์ความรู้ด้านแนวทางการจัดจำแนกกลุ่มประชาชนที่มีพฤติกรรมการต่อต้านคอร์รัปชันและการจัดทำกลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง ผ่านการจัดทำ digital content ในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอ และอินโฟกราฟิก โดยเน้นสื่อสารเรื่องการสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน และการปลูกจิตสำนึก และทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง เอกสารอ้างอิง รูปแบบ APA ต่อภัสสร์ ยมนาค, เอกก์ ภทรธนกุล, อภิชาต คณารัตนวงศ์, ธานี ชัยวัฒน์, ปฏิพัทธ์ สุสำเภา. (2563).การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชัน.แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.). ปีที่แต่ง (พ.ศ.) ธันวาคม 2563 ผู้แต่ง ผศ.ดร. ต่อภัสสร์ ยมนาค ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล ผศ.ดร. อภิชาต คณารัตนวงศ์ ผศ.ดร. ธานี ชัยวัฒน์ นายปฏิพัทธ์ สุสำเภา หน่วยงานสนับสนุน หัวข้อ Releated Content

การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับ การต่อต้านคอร์รัปชัน

แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แนวทางการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ คือแนวทางการมีส่วนร่วมภาคประชาชน อย่างไรก็ตามแนวคิดเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน ยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง งานวิจัยนี้จึงใช้ศาสตร์การตลาดจำแนกกลุ่ม และศึกษาลักษณะ ซ่อนเร้นของผู้ที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันในสังคมไทย อันจะนำไปสู่ออกแบบกลไกกระตุ้นการมีส่วนร่วมของคนในสังคม ที่มีความหลากหลาย จากการศึกษาพบว่า ลักษณะซ่อนเร้นของผู้ที่มีระดับการต่อต้านคอร์รัปชันสูง คือการมีบรรทัดฐานส่วนตนสูงและความเป็นชายต่ำจากข้อค้นพบนี้สามารถนำไปใช้ออกแบบการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลต่อไป งานวิจัยชิ้นนี้สามารถยืนยันผลได้ว่า ปัจจัยซ่อนเร้นตามลักษณะทางวัฒนธรรม ค่านิยม และทัศนคติของคนทั่วไป สามารถนำมาแบ่งแยกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลักษณะแฝงร่วมที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มที่ต่อต้านคอร์รัปชันสูงและต่อต้านคอร์รัปชันต่ำนั้น ประกอบด้วย บรรทัดฐานส่วนตน ความเชื่อในอำนาจของตน ความกลัวความเสี่ยงต่อผลลัพธ์ ความหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของกระบวนการ และความยึดมั่นในผลประโยชน์ อีกทั้งเมื่อบรรทัดฐานส่วนตนสูงขึ้นการต่อต้านคอร์รัปชันก็จะสูงขึ้นด้วย งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนะว่า การให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกเพื่อสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาต่อต้านคอร์รัปชัน ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีความเป็นชายต่ำ หรือในที่นี้หมายถึงมีความดุดัน บึกบึนต่ำ จะมีการต่อต้านคอร์รัปชันสูง ซึ่งสามารถอภิปรายได้ว่า การปลูกจิตสำนึกและทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิงสามารถ เป็นแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านคอร์รัปชันได้มากขึ้น งานวิจัยชิ้นนี้ได้เสนอแนวทางการต่อยอดข้อเสนอแนะงานวิจัยว่า สามารถนำองค์ความรู้ด้านแนวทางการจัดจำแนกกลุ่มประชาชนที่มีพฤติกรรม การต่อต้านคอร์รัปชันและการจัดทำกลยุทธ์ในการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันที่เหมาะสมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง ผ่านการจัดทำ digital content ในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอ และอินโฟกราฟิก โดยเน้นสื่อสารเรื่องการสร้างบรรทัดฐานส่วนตนด้านการคอร์รัปชัน และการปลูกจิตสำนึก และทัศนคติด้านความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง เอกสารอ้างอิง รูปแบบ APA ต่อภัสสร์ ยมนาค, เอกก์ ภทรธนกุล, อภิชาต คณารัตนวงศ์, ธานี ชันวัฒน์, ปฏิพัทธ์ สุสำเภา. (2563).การตลาดเชิงประยุกต์สำหรับการกระตุ้นและจําแนกกลุ่มประชาชนที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชัน.แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคมแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.). ปีที่แต่ง (พ.ศ.) ธันวาคม 2563 ผู้แต่ง ผศ.ดร. ต่อภัสสร์ ยมนาค ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล ผศ.ดร. อภิชาต คณารัตนวงศ์ ผศ.ดร. ธานี ชัยวัฒน์ นายปฏิพัทธ์ สุสำเภา หน่วยงานสนับสนุน หัวข้อ Releated Content