การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ควรมีการปรับปรุงกฎหมายด้านบทบาทประชาชนที่จากเดิมเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ให้สามารถยื่นคำร้องเพื่อให้เกิดการตรวจสอบการทุจริตได้
การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นมาตรการหนึ่งของป้องกันการทุจริต แต่เมื่อพิจารณา พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 พบว่า มาตราที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐยังคงไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพียงพอ
จากสาเหตุดังกล่าว จึงนำมาสู่วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ
- เพื่อศึกษาถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตตามกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
- เพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการที่นำมาใช้ในการรับรองและคุ้มครองสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ใช้ในการป้องกันการทุจริตภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุภาครัฐ และกระบวนการในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
- เพื่อศึกษากฎหมาย การวิเคราะห์ปัญหาและผลกระทบ และข้อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ผลการศึกษา พบว่า พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 16 ซึ่งกำหนดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ และมาตรา 18 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้ทำได้เพียงแค่รายงานความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ ค.ป.ท. เท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการ ค.ป.ท. อาจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรายงานก็ได้ และพระราชบัญญัตินี้ก็ไม่ได้กำหนดให้ผู้สังเกตการณ์สามารถอุทธรณ์หรือโต้แย้งได้ ทำให้กระบวนการดังกล่าวไม่ได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐอย่างแท้จริง
สรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัย
- ประโยชน์สำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนคือ 1) การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาชุมชนและสังคมของตน 2) เป็นการให้ประชาชนได้เข้าร่วมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และป้องกันการทุจริต 3) เป็นการสร้างกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาและแก้ไขปัญหากับภาครัฐ 4) ทำให้ประชาชนได้รับโอกาสในการแสดงความคิดเห็นของตน
- อุปสรรคในการมีส่วนร่วมของประชาชนคือ 1) การจัดหาเจ้าหน้าที่เพื่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน 2) อาจเกิดปัญหาการกลั่นแกล้งจากผู้ประกอบที่ไม่ชนะการประกวดราคา 3) อาจเกิดการหยุดชะงักของกระบวนการจัดหาพัสดุ ซึ่งจะส่งผลต่อการบริการแก่ประชาชน 4) อาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน และ 5) ผู้ประกอบการที่ได้รับเลือกจากการประกวดราคาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สรุปข้อเสนอแนะจากงานวิจัย
- ควรแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 16 โดยหากผู้ใดทราบว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้มีสิทธิร้องต่อคณะกรรมการ ค.ป.ท. เพื่อให้มีการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีต่อไป
- ควรแก้ไขมาตรา 16 วรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการ ค.ป.ท. มีอำนาจเรียกให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลมาชี้แจง ส่งเอกสาร หรือหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาได้
- ในกรณีที่คณะกรรมการ ค.ป.ท. มีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอหรือไม่ดำเนินการภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะสามารถยื่นคำร้องขอโดยตรงต่ออัยการสูงสุดได้ โดยไม่กระทบต่อสิทธิการดำเนินคดีอาญาของผู้ร้องขอในฐานะผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หน่วยงานรัฐควรจัดให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมสังเกตการณ์ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานได้
ตรีเพชร์ จิตรมหึมา. (2562). การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต ตามกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ. มหาวิทยาลัยศรีปทุม:กรุงเทพฯ
ตรีเพชร์ จิตรมหึมา
หัวข้อ
โครงการเฝ้าระวังกฎระเบียบของรัฐ (Regulatory Watch)
เฝ้าระวังการออกกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง
โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาต โดยใช้อำนาจรัฐ
ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ
โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน
เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่