สำรวจระดับความรู้เรื่องสิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ระดับการรับรู้การทุจริต และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของประชาชน เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะให้สำนักงาน ป.ป.ช. สร้างมาตรการยกระดับการมีส่วนร่วมเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชันในภาคประชาชน

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำเป็นต้องมีการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตลอดจนการสร้างความตระหนักถึงผลเสียที่เกิดจากการทุจริต รวมถึงการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และเท่าทันกับพลวัตรของการทุจริตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จำเป็นต้องดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การรับรู้การทุจริต ผลกระทบที่เกิดจากการทุจริตและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตต่อประชาชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงมาตรการ และกลไกที่จะทำให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มแข็งต่อไป
จากสาเหตุดังกล่าว จึงนำมาสู่วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ
- เพื่อศึกษาระดับความรู้ของประชาชนเกี่ยวกับการมีสิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช.
- เพื่อศึกษาระดับการรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตของประชาชน และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประชาชน
- เพื่อเปรียบเทียบภูมิหลังของประชาชนเกี่ยวกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. การรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริต
- เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีข้อมูลประกอบการปรับปรุงแก้ไขและยกระดับการดำเนินงาน/การกำหนดมาตรการเพื่อให้สนองตอบต่อสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ประชาชนประมาณร้อยละ 52.64 มีการรับรู้หรือรับทราบว่าตนเองมีสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงานป.ป.ช. ในขณะอีกร้อยละ 47.36 ยังไม่ทราบว่าตัวเองมีสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. และประชาชนมีระดับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการรับรู้ว่าตนเองมีสิทธิในการรับรู้ และสามารถ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ควรเร่งประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับรู้ถึงสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และช่องทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช.
สรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัย
- ผลจากการศึกษาเรื่อง การรับรู้สิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงานป.ป.ช. พบว่า กลุ่มประชาชนที่เคยติดต่อกับสำนักงาน ป.ป.ช. มีสัดส่วนการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. สูงกว่าประชาชนที่ไม่เคยติดต่อ โดยช่องทางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ในภาพรวม ประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการมากที่สุด รองลงมาเป็น สื่อโทรทัศน์/วิทยุ และสังคมออนไลน์ (Social media)
- ผลการศึกษาเรื่องการรับรู้การทุจริตของประชาชน พบว่า ประชาชนมีระดับรับรู้การทุจริตหรือเหตุการณ์/พฤติกรรมของเจ้าพนักงานของรัฐ อยู่ในระดับ “เป็นประจำ” นอกจากนี้ ประมาณ 1 ใน 3 ของประชาชนที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ทราบถึงการกระทำการทุจริตของเจ้าพนักงานของรัฐหรือเกิดกับคนใกล้ชิด อีกทั้ง ยังเคยประสบปัญหาหรือเหตุการณ์การทุจริตของเจ้าพนักงานของรัฐจากประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับตนเอง
- ผลการศึกษาเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริต พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตเฉลี่ยอยู่ในระดับ “มาก” กล่าวคือ ประชาชนมีการรับรู้ถึงผลกระทบที่ตามมาของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
- ผลการศึกษาเรื่องการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พบว่า ในภาพรวมประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือส่อไปในทางทุจริตมีสัดส่วนการแจ้งเบาะแส และวางเฉยใกล้เคียงกัน โดยประชาชนให้เหตุผลของการไม่แจ้งเบาะแสต่อหน่วยงานว่า หากมีการแจ้งเบาะแสอาจเป็นภัยกับตนเอง เนื่องจากบางพื้นที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล และมองว่าเป็นการเสียเวลาในการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน ในขณะเดียวกัน ประชาชนบางส่วนเองก็มีการจ่ายสินบนเพื่อแลกกับความสะดวกสบายด้วย
สรุปข้อเสนอแนะจากงานวิจัย
- เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการรับรู้ว่าตนเองมีสิทธิในการรับรู้ และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ตามที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารราชการ และระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการเปิดเผย และการเผยแพร่เอกสารและข้อมูล พ.ศ. 2561 สำนักงาน ป.ป.ช. ควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ถึงสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และช่องทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเพิ่มช่องทางในการสื่อสารที่เหมาะสมกับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น สื่อสังคมออนไลน์ หอกระจายข่าว วิทยุ โทรทัศน์ และการนำเสนอโดยสื่อมวลชน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นข่าวสารที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจ
- สำนักงาน ป.ป.ช. ควรมีโครงการอบรมส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารตามกฎหมาย ช่องทางข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. ช่องทางการแจ้งเบาะแสนอกจากนี้ ผลการสำรวจพบว่าประชาชนประมาณร้อยละ 10 ยังไม่ทราบถึงผลการกระทบที่เกิดจากทุจริตในทางอ้อม ดังนั้น ควรให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทุจริตทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักต่อปัญหาการทุจริต และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในท้ายที่สุด
- จากผลการศึกษาประชาชนมีระดับการรับรู้เหตุการณ์หรือพบเห็นพฤติกรรมของเจ้าพนักงานรัฐในการกระทำการทุจริต อยู่ในระดับ “บ่อย” และยังมีประชาชนบางกลุ่มที่ให้การสนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าพนักงานของรัฐอันจะนำไปสู่วัฒนธรรมการจ่ายสินบน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการเกิดการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ควรให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับบทลงโทษของการร่วมกระทำการทุจริต รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต้องมีความเข้มงวดกับเจ้าพนักงานของรัฐที่มีกระทำการทุจริต
- จากผลการศึกษาประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือส่อไปในทางทุจริต พบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของประชาชนมีการเพิกเฉย ด้วยเหตุผล 3 ประการ ได้เเก่ (1) แม้จะแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนไปก็ไม่ได้รับการตรวจสอบ/ปรับปรุง/แก้ไขอย่างจริงจัง (2) เกิดความเกรงกลัวผลกระทบต่อความไม่ปลอดภัยหรือการถูกกลั่นแกล้งจากผู้มีอำนาจ และ (3) ประชาชนไม่ทราบช่องทางการร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสการทุจริต ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ควรดำเนิน ดังนี้ (1) ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับช่องทาง ขั้นตอนการแจ้งเบาะแส การคุ้มครองความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแส (2) สร้างแรงจูงใจในการแจ้งเบาะแสการทุจริต ด้วยการให้เงินรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (3) พัฒนาระบบการแจ้งเบาะแสที่ใช้งานง่าย เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมเชิงพื้นที่ และมีฐานข้อมูลรวมหนึ่งเดียว และ (4) เผยแพร่ผลการดำเนินคดีที่สำคัญที่เป็นที่สนใจของสังคม และควรระบุระยะเวลาของคดีที่มีการดำเนินการที่รวดเร็ว
- ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรมในภารกิจด้านป้องกันการทุจริต ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันการทุจริตทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ควรนำเนื้อหาการมีสิทธิการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารราชการ และระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการเปิดเผย และการเผยแพร่เอกสารและข้อมูล พ.ศ. 2561 ประกอบการบรรยายให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิและประโยชน์ที่พึงได้รับ
เสาวณีย์ ทิพอุต, ธีรวรรณ เอกรุณ, พรสวรรค์ ประเทสัง และศักรินทร์ นิลรัตน์ . (2562). การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิการรับรู้ข่าวสาร การรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตต่อประชาชน. สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ.
- เสาวณีย์ ทิพอุต
- ธีรวรรณ เอกรุณ
- พรสวรรค์ ประเทสัง
- ศักรินทร์ นิลรัตน์
หัวข้อ
อิทธิพลของเสรีภาพสื่อมวลชนต่อการคอร์รัปชันในสังคมไทย
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเสรีภาพสื่อมวลชนไทยกับการคอร์รัปชันในสังคมไทย ด้วยวิธีการวิเคราะห์ทางสถิติและการสัมภาษณ์นักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อมวลชน
บทความวิจัย | บทบาทหน้าที่ อุปสรรค และแนวทางในการใช้สื่อเพื่อต่อต้านการทุจริต
การพัฒนาสื่อไทยเพื่อการต่อต้านการทุจริตควรทำให้สื่อสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทางเศรษฐกิจ ใช้สื่อเพื่อทําข่าวทุจริต พัฒนาทักษะการทําข่าว และเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ
การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ และการต่อต้านคอร์รัปชันในประเทศไทย
เพื่อสำรวจการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของไทย ผลการสำรวจการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง และสัญญาสัมปทานผ่านเว็บไซต์ของรัฐวิสาหกิจ พร้อมข้อเสนอแนะต่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ