จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างการดำเนินการจัดการพื้นที่ป่าของภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการบุกรุกป่าเกิดขึ้นได้ยาก ภาครัฐจึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน
ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในหลายพื้นที่ของประเทศไทยเกิดจากความขัดแย้งระหว่างการยืนยันกรรมสิทธิ์การใช้ที่ดินของชาวบ้านและการจัดการพื้นที่สาธารณะของรัฐ ซึ่งยังไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ปัญหายังคงยืดเยื้อ เช่น กรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ยังมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าจากนักการเมืองท้องถิ่นและผู้มีอิทธิพล ซึ่งการเกิดปัญหานี้มักเกี่ยวพันกับการสนับสนุนหรือความละเว้นในการบังคับใช้กฎหมายจากหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ความพยายามในการป้องกันการบุกรุกป่าเป็นไปได้ยาก จากสาเหตุดังกล่าว จึงนำมาสู่วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ
เพื่อศึกษากระบวนการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติคณะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2541 และวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2542
เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการทุจริต ในกระบวนการการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
เพื่อให้ข้อเสนอแนะแนวทางต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสี่ยงต่อการทุจริตในการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
ผลการศึกษา พบว่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ทำการพิสูจน์สิทธิ จากการสำรวจในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีประชาชนครอบครองอาศัยและทำกินอยู่แล้ว และขึ้นทะเบียนบุคคลที่ครอบครองไว้ เพื่อให้มีการคุ้มครองสิทธิชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่ใช้งานพื้นที่ไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์สิทธิ แต่ยังพบว่ามีปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากความไม่ชัดเจนในการกำหนดแนวเขตการใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐ
ขณะที่ประเด็นด้านความเสี่ยงต่อการทุจริตในการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (พื้นที่ม่อนแจ่ม) พบว่า สัมพันธ์กับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิทธิการใช้ที่ดินของชุมชนท้องถิ่นที่ยังมีความไม่ชัดเจนในกฎระเบียบและการบังคับใช้กฎหมาย อาจทำให้เกิดโอกาสในการทุจริต เช่น การละเว้นจากเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจ รวมถึงการสนับสนุนจากนักการเมืองท้องถิ่นและผู้มีอิทธิพลที่แสวงหาผลประโยชน์จากการบุกรุก การขาดความโปร่งใสในกระบวนการตัดสินใจและการอนุญาตทำให้การบุกรุกพื้นที่ป่าเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างมาตรการตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกที่ดินเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน
สรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัย
ผลการศึกษา พบว่า ความเสี่ยงต่อการทุจริตในการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (พื้นที่ม่อนแจ่ม) มีด้วยกัน 4 ประเด็น คือ 1. การเปลี่ยนแปลงรายชื่อในเอกสารต้นขั้วใบรับรองการแจ้งการครอบครองที่ดิน 2. การทุจริตงบประมาณของรัฐในการสำรวจพื้นที่ 3. การปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ และ 4. การมีผลประโยชน์ร่วมกันของเจ้าหน้าที่และนายทุนที่ทำการบุกรุกป่า
ผลการศึกษา พบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนพื้นที่ม่อนแจ่มในการป้องกันการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติอาจเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากปัญหาความไม่ชัดเจนในสิทธิครอบครองที่ดินระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานของรัฐ อย่างไรก็ดี การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยชุมชนสามารถเฝ้าระวังและรายงานการบุกรุกป่าได้ จึงควรสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง โดยการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐในการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมการจัดการป่าไม้และมีการชี้แจงเรื่องสิทธิการใช้ที่ดินที่เหมาะสม รวมถึงให้ข้อมูลและช่วยเหลือด้านกฎหมายซึ่งจะสามารถเพิ่มพูนความเข้มแข็งในการป้องกันการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างชุมชนและหน่วยงานรัฐยังช่วยสร้างความมั่นใจในกระบวนการอนุรักษ์และการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
สรุปข้อเสนอแนะจากงานวิจัย
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนมีส่วมร่วมในการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส โดยเฉพาะในกรณีการตรวจสอบความถูกต้องระหว่างเอกสารต้นขั้วใบตอบรับการแจ้งการครอบครองที่ดินของทางราชการและชาวบ้านว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่
เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าสงวน จึงควรเพิ่มอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในการออกตรวจลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
หน่วยงานของรัฐต้องเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และต้องมีการเจรจากับชาวบ้านในพื้นที่ม่อนแจ่ม เพื่อหาแนวทางในการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน และการจัดทำแผนแม่บทการจัดการที่ดินเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
สำนักวิจัยและบริการวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต. (2566). ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ.
สำนักวิจัยและบริการวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.
หัวข้อ
ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างการดำเนินการจัดการพื้นที่ป่าของภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการบุกรุกป่าเกิดขึ้นได้ยาก ภาครัฐจึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน
การกระจายอำนาจ และคอร์รัปชัน: กรณีศึกษาการเผาป่าในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
มุ่งศึกษาต้นเหตุของปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยวิเคราะห์ผ่านทฤษฎีระบบอุปถัมภ์ เพื่ออธิบายถึงต้นเหตุของปัญหาและแนวทาง การแก้ไขปัญหาหมอกควันของรัฐบาลอินโดนีเซียที่ผ่านมาจากอดีตถึงปัจจุบัน
กระบวนการและการตรวจสอบการให้สัมปทานรังนกในภาคใต้ของประเทศไทย
ศึกษากระบวนการขอสัมปทานการเก็บรังนกถ้ำ และการตรวจสอบการแบ่งปันผลประโยชน์ รวมถึงประเมินความเหมาะสมในกระบวนการตรวจสอบการให้สัมปทานรังนกถ้ำจากกรณีการทุจริตที่ผ่านมา