เพื่อไม่ให้ขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักนิติรัฐ ควรแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 โดยปรับแก้ให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีความผิดเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินถูกตัดสิทธิทางการเมืองไม่เกิน 10 ปี
ความขัดแย้งในการใช้อำนาจรัฐโดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อหลักนิติรัฐและความเชื่อมั่นในรัฐไทย พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องจึงได้กำหนดกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยแบ่งออกเป็นสองระบบ คือ การควบคุมโดยรัฐสภาและการควบคุมโดยองค์กรตุลาการ ซึ่งมุ่งหวังที่จะจำกัดอำนาจของรัฐตามหลักการพื้นฐานของรัฐเสรีประชาธิปไตย โดยมีการเน้นถึงความสำคัญของหลักความเสมอภาคในการใช้อำนาจและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
การศึกษานี้ ชี้ให้เห็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีการทุจริตที่มีต่อผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งพบว่าระบบการตรวจสอบจากคณะกรรมการป.ป.ช. สร้างภาระให้จําเลย โดยเฉพาะในเรื่องระยะทางไปศาลและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผลทางกฎหมายยังทำให้จําเลยสูญเสียสิทธิทางการเมืองอย่างรุนแรง แม้ว่าโทษทางอาญาจะไม่สูงนัก ปัญหาความไม่เสมอภาคจากการดำเนินการทางกฎหมายจึงเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับหลักนิติรัฐ ส่งผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม
การศึกษานี้ เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในภาครัฐ โดยแนะนำให้ปรับปรุงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยการเพิ่มข้อกำหนดให้การดำเนินคดีเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่นต้องเสนอให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิจารณา นอกจากนี้ ควรปรับลดระยะเวลาการตัดสิทธิทางการเมืองจากตลอดชีวิตเป็น 10 ปี เพื่อให้สัดส่วนกับความผิดทางกฎหมายที่ไม่ร้ายแรง ขณะเดียวกันยังต้องมีการแก้ไขข้อกำหนดการดำเนินคดีของศาลฎีกาให้อำนวยความสะดวกแก่จำเลยในการยื่นคำร้องและการไต่สวนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยสร้างความยุติธรรมและความโปร่งใสในกระบวนการฟ้องร้อง
รูปแบบ APA
อรรณพ ศักดิ์ศิริดากุล. (2566). การดําเนินคดีเกี่ยวกับการจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(1), 151-174.
อรรณพ ศักดิ์ศิริดากุล
หัวข้อ
โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย
ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต
โครงการประสานงานวิจัยและส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน
การออกแบบกระบวนการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จำเป็นจะต้องเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งจากมุมมองที่หลากหลาย และบริบทรอบด้านที่เป็นทั้งปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหานี้
แนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลท้องถิ่นและการเฝ้าระวังติดตามการคอร์รัปชันโดยชุมชนมีส่วนร่วม กรณีศึกษา : พื้นที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
เพื่อศึกษาบริบทของชุมชน ทุนทางสังคม และสถานการณ์ธรรมาภิบาลและการคอร์รัปชันในระดับพื้นที่ รวมถึงระบบและกลไกทางสังคมต่อการจัดการ และป้องกันปัญหาโดยชุมชนมีส่วนร่วม