บทความวิจัย | การพัฒนารูปแบบป้องกันการทุจริตเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชน ในอำเภอเมือง จังหวัดเลย

การพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตอย่างยั่งยืน ควรการสร้างค่านิยมด้านจริยธรรมวิชาชีพร่วมกันของพนักงาน โดยการจัดสวัสดิการอย่างเท่าเทียม และยึดหลักความโปร่งใสและความสามารถของพนักงาน เพื่อให้ภาครัฐและประชาชนสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงมีกระบวนการที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจตามหลักธรรมาภิบาล

 

ปัญหาการทุจริตในจังหวัดเลยส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะในอำเภอเมือง ซึ่งพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีสถิติการทุจริตค่อนข้างสูง การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาการป้องกันการทุจริตในอำเภอเมือง จังหวัดเลย 2) พัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนในอำเภอเมือง จังหวัดเลย และ 3) วิเคราะห์องค์ความรู้และรูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนในอำเภอเมือง จังหวัดเลย 

 

โดยใช้วิธีการศึกษาวิจัยผสานวิธี (Mix Method) คือการศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ด้วยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจากการสัมภาษณ์เชิงลึก 25 คน และการสนทนากลุ่ม 10 คน และการศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative Research) จากการสำรวจประชาชนในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเลย จำนวน 400 คน ด้วยแบบสอบถาม 

 

ผลการศึกษาในอำเภอเมืองจังหวัดเลย พบว่า ปัญหาการทุจริตที่สำคัญคือ การซื้อเสียง การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารงบประมาณที่ไม่โปร่งใส ในการพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตจากการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่า ข้าราชการให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตโดยยึดกฎระเบียบและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และในการพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตอย่างยั่งยืน ควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีจรรยาบรรณและให้สวัสดิการที่เท่าเทียม ยึดหลักความโปร่งใสและความสามารถของพนักงาน เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

ศตวรรษ สงกาผัน. (2563). การพัฒนารูปแบบป้องกันการทุจริตเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชน ในอำเภอเมือง จังหวัดเลย. Journal of Modern Learning Development, 5(5), 2941. 

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2563
ผู้แต่ง

ศตวรรษ สงกาผัน

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่

You might also like...

การรับสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ: กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

งานวิจัยชี้ว่าปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการรับสินบนของเจ้าหน้าที่ใน อปท. มากที่สุดคือ ปัจจัยด้านความซื่อสัตย์สุจริต ปัจจัยด้านการเมือง และด้านตำแหน่งหน้าที่ที่เอื้อให้เกิดการรับสินบนตามลำดับ

KRAC Insight | จุฬา – ACT เปิดตัว ‘Corruption Watch’ ชูแนวคิด ‘ฟ้องโกง ถูกจุด ทันใจ’

ชูแนวคิด ‘ฟ้องโกง ถูกจุด ทันใจ’ เปิดโอกาสให้ทุกคนรายงานการทุจริตได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมระบบปกป้องผู้แจ้งเบาะเเสอย่างเข้มงวด ผ่านเครื่องมือ ‘เเชตฟ้องโกง ทันใจ’ ซึ่งพัฒนาจากงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

บทความวิจัย | กระบวนการขับเคลื่อนเครือข่ายการมีส่วนร่วมภาคประชาสังคม อปท. และสถานศึกษาในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลสู่สังคมปลอดคอร์รัปชันใน จ. นครราชสีมา

ศึกษากรณีศึกษาตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน และตำบลพระพุทธ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อหารูปแบบที่ปฏิบัติได้จริงในการสร้างสังคมปลอดคอร์รัปชัน พบว่า ต้องอาศัยการมีผู้นำที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และทุนทางสังคมที่เข้มแข็ง ได้เเก่ การมีธรรมนูญชุมชนและใช้นิทานคุณธรรมเพื่อปลูกฝังเยาวชน