การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายประชาชนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้สามารถติดตาม ปกป้อง ตรวจสอบการทุจริตได้นั้นต้องอาศัยการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกร่วมในการต่อต้านการทุจริต
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศไทยถูกมองว่าเป็นองค์กรมีการทุจริตคอร์รัปชันสูง การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสาเหตุการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2) เพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดจากสาเหตุการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 3) การศึกษาแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต
โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบไม่มีโครงสร้างจากประชาชนดั้งเดิม ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ข้าราชการ และเจ้าของธุรกิจภาคเอกชน จำนวน 45 คน
ผลการวิจัย พบว่า สาเหตุหลักของการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาจากช่องว่างของกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้ และยังเปิดโอกาสให้เกิดการทุจริตได้ ส่วนผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการทุจริต พบว่า ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาท้องถิ่นในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การทุจริตส่งผลให้ท้องถิ่นขาดงบประมาณในการพัฒนาและขาดความเจริญ สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา คือ การสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนสามารถร่วมกันติดตามและตรวจสอบการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปแบบ APA
ประสงค์ โตนด. (2566). การสร้างความเข้มแข็งภาคประชาสังคมกับปัญหาการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต. วารสารการเมืองการปกครอง, 13(1), 80–94.
ประสงค์ โตนด
หัวข้อ
โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย
ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต
โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน
เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่
โครงการวิจัยเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน ระยะที่ 2
จัดทำข้อเสนอการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยเน้นแนวทางการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาคอร์รัปชันจากมุมมองของประชาชน ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PAR) และกระบวนการ Design Thinking เต็มรูปแบบ