บทความวิจัย | นโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย: ศึกษาเชิงวิพากษ์การนํานโยบายไปสู่การปฏิบัติ

การดำเนินนโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ประสบผลสำเร็จต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านนโยบาย ทรัพยากร ลักษณะขององค์กรที่นํานโยบายไปปฏิบัติ การติดต่อสื่อสาร กลไกการควบคุมภายใน และนโยบายเพื่อการป้องกันการทุจริต

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความสําเร็จในการนํานโยบายว่าด้วยการป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปปฏิบัติ และแนวทางเพื่อการป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย 

 

โดยใช้วิธีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) การศึกษาภาคสนาม (Field Study) ตลอดจนการศึกษาค้นคว้าจากงานเขียน บทความ ข้อมูล หรืองานวิจัยที่อาศัยการสืบค้นข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย 

 

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จในการนำนโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น นโยบายที่ชัดเจน ทรัพยากรที่เพียงพอ ลักษณะขององค์กร การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และกลไกการควบคุมภายใน ในขณะที่ปัจจัยที่นำไปสู่ความล้มเหลวประกอบด้วยผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงองค์กรตรวจสอบและสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เพื่อให้การป้องกันการทุจริตมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง หน่วยงานภาครัฐควรนำปัจจัยที่สนับสนุนความสำเร็จไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขจัดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความล้มเหลวออกไป

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

กานต์ ศรีวิภาสถิตย์. (2557). นโยบายป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย : ศึกษาเชิงวิพากษ์การนํานโยบายไปสู่การปฏิบัติ. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง สาขามนุษยและสังคมศาสตร์, 2(1), 19.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2557
ผู้แต่ง

กานต์ ศรีวิภาสถิตย์

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการประสานงานวิจัยและส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

การออกแบบกระบวนการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จำเป็นจะต้องเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งจากมุมมองที่หลากหลาย และบริบทรอบด้านที่เป็นทั้งปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหานี้

แนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลท้องถิ่นและการเฝ้าระวังติดตามการคอร์รัปชันโดยชุมชนมีส่วนร่วม กรณีศึกษา : พื้นที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน

เพื่อศึกษาบริบทของชุมชน ทุนทางสังคม และสถานการณ์ธรรมาภิบาลและการคอร์รัปชันในระดับพื้นที่ รวมถึงระบบและกลไกทางสังคมต่อการจัดการ และป้องกันปัญหาโดยชุมชนมีส่วนร่วม

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ