บทความวิจัย | รูปแบบความร่วมมือและยกระดับการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย โดยศึกษาประสบการณ์ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

การยกระดับความร่วมมือและการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย ต้องอาศัยการสร้างประชาธิปไตยแบบเข้มข้น โดยเน้นไปยังการสร้างระบบและกลไกให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การแก้ไขกฎหมาย ลดการผูกขาดทางการตลาดและการใช้ดุลพินิจที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน 

 

การทุจริตส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลง การสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษี ตลอดจนการทำลายระบบการเมือง เศรษฐกิจ และการปกครอง การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการป้องกันการทุจริตของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ 2) ศึกษารูปแบบการป้องกันการทุจริตของประเทศไทย 3) ศึกษาถึงรูปแบบความร่วมมือและยกระดับการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย  

 

โดยมีวิธีศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพจากการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงการศึกษาภาคสนามด้วยวิธี การสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้รู้ และได้นำผลการศึกษามาวิเคราะห์ด้วยวิธีการพรรณนาวิเคราะห์ 

 

ผลการศึกษา พบว่า รูปแบบการป้องกันการทุจริตของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นรูปแบบที่เน้นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในเรื่องป้องกันการทุจริต ขณะที่รูปแบบการป้องกันการทุจริตของประเทศไทยมีลักษณะเป็นความร่วมมือในการป้องกันการทุจริตระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อม ตลอดจนองค์กรอิสระ แต่กลับมีความร่วมมือกับภาคประชาชนน้อยมาก

 

ดังนั้น การยกระดับรูปแบบความร่วมมือและการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย จากการศึกษารูปแบบการป้องกันการทุจริตของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คือ การสร้างประชาธิปไตยแบบเข้มข้น (Thick Democracy) โดยเน้นไปยังการสร้างระบบและกลไกให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การแก้ไขกฎหมาย ลดการผูกขาดทางการตลาดและการใช้ดุลพินิจที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

สมชาย ธรรมสุทธิวัฒน์, นวลจันทร์ แจ้งจิตร, สว่าง มีแสง, อนันต์ เพชรใหม่, นนท์ น้าประทานสุข. (2563). รูปแบบความร่วมมือและยกระดับการป้องกันการทุจริตในประเทศไทย โดยศึกษาประสบการณ์ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 20(1), 110.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2563
ผู้แต่ง
  • สมชาย ธรรมสุทธิวัฒน์
  • นวลจันทร์ แจ้งจิตร 
  • สว่าง มีแสง
  • อนันต์ เพชรใหม่ 
  • นนท์ น้าประทานสุข
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เจ้าหน้าที่รัฐเข้าใจ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ต่ำกว่าครึ่ง ทั้งที่เป็นจุดเริ่มต้นของคอร์รัปชัน

งานวิจัยปี 2561 พบว่าเจ้าหน้าที่ อบจ. ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจหลัก Conflict of Interest อย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง สะท้อนถึงช่องโหว่สำคัญในระบบราชการที่ต้องเร่งสร้างความรู้และความโปร่งใสอย่างเร่งด่วน

KRAC Insights I จากสภาสู่สังคม ‘พริษฐ์ วัชรสินธุ’ กับบทบาทตรวจสอบและต่อต้านการคอร์รัปชัน

จากสภาสู่สังคม” กับ ‘พริษฐ์ วัชรสินธุ’ ที่มาชวนตรวจสอบการใช้อำนาจและงบประมาณของรัฐ พร้อม เปิดมุมมองคอร์รัปชันการเมืองให้เข้าใจง่าย ตั้งแต่ลานจอดรถรัฐสภาไปจนถึงปัญหาองค์กรอิสระ

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เจาะกลโกงลึกเครือข่ายลับ ผู้อยู่เบื้องหลังการทุจริตงบประมาณโรงเรียน

แม้เราจะพูดถึงการปฏิรูปการศึกษามาหลายปี แต่ปัญหาที่ซ่อนอยู่กลับคือเครือข่ายอิทธิพลในระบบการศึกษาที่ทุจริตอย่างเป็นระบบ โดยงานวิจัยนี้ได้เปิดเผยกลไกผลประโยชน์ระหว่างข้าราชการ นักการเมือง และธุรกิจ พร้อมเสนอแนวทางสร้างความโปร่งใสเพื่อยุติวงจรคอร์รัปชันในวงการศึกษาไทย