กระบวนการไต่สวนและการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง: ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.

ศึกษาแนวคิด กระบวนการและวิธีปฏิบัติในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง เพื่อสร้างข้อเสนอต่อการส่งเสริมกระบวนการถอดถอนที่เหมาะสมกับสภาพสังคมและการเมืองไทย

มาตรการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงตามที่บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540  ระบุให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหน้าที่เป็นผู้ไต่สวนชี้มูลความผิด และให้วุฒิสภาทำหน้าที่พิจารณาตัดสินถอดถอน นับว่าเป็นมาตรการหนึ่งในหลายมาตรการที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตของนักการเมืองระดับชาติและข้าราชการระดับสูง

อย่างไรก็ดี มาตรการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง เป็นมาตรการใหม่ที่ยังมีความสลับซับซ้อนในทางปฏิบัติ อีกทั้ง ตัวบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ต้องมีการตีความ จึงเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบทบทวน และกำหนดวิธีปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อให้มาตรการที่กำหนดขึ้นใหม่สามารถปฏิบัติได้จริงตามเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของกฎหมาย

ด้วยเหตุนี้ งานวิจัยเรื่องนี้ จึงมุ่งศึกษาแนวคิด หลักการ กระบวนการและวิธีปฏิบัติในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในแต่ละขั้นตอน เพื่อสร้างข้อเสนอต่อการส่งเสริมกระบวนการถอดถอนที่เหมาะสมกับสภาพสังคมและการเมืองของไทย และอุดช่องโหว่ทางกฎหมาย

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ผลการศึกษากรณีศึกษาเปรียบเทียบจากต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส และเยอรมนี พบว่าเเต่ละประเทศ มีมาตรการในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงแตกต่างกัน เช่น ฝรั่งเศสใช้ระบบผสมระหว่างกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ และศาลสหรัฐอเมริกาใช้กลไกรัฐสภาทั้งหมด ในขณะที่แคนาดา ใช้ระบบศาลปกติ ส่วนประเทศไทย ใช้ระบบผสม ระหว่างองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และฝ่ายนิติบัญญัติ คือวุฒิสภา

  • ผลจากการศึกษา พบว่ารูปแบบที่เหมาะสมกับประเทศไทย คือ ระบบศาลพิเศษ โดยมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหน้าที่ในกระบวนการไต่สวน และชี้มูลเบื้องต้น ทั้งนี้ การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งออกจากตำแหน่งและลงโทษในชั้นอื่นเป็นหน้าที่ของระบบศาลพิเศษ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

  • ผลจากการศึกษา พบว่ามาตรการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูงของประเทศไทย พิจารณาทั้งในด้านบทบัญญัติของกฎหมายอำนาจหน้าที่ และกระบวนการขั้นตอนการยื่นฟ้องการชี้มูลความผิดของสำนักงาน ป.ป.ช. รวมถึงวิธีปฏิบัติในการพิจารณาลงมติถอดถอนของวุฒิสภา พบว่ายังมีความไม่ชัดเจนในหลายจุด ทั้งในแง่ของการบริหารจัดการของสำนักงาน ป.ป.ช. เช่น อัตรากำลัง และความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ไม่พอเพียงกับปริมาณงาน และไม่ครอบคลุมประเภทงานที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนในทางการเมือง เกิดปัญหาความไม่สมดุลในการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ ระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ รวมถึงองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบโดยเฉพาะด้วย

  • ผลจากการศึกษาการรับรู้ของประชาชนทั่วไป พบว่ามาตรการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูงเป็นเรื่องไกลตัว และดูเหมือนว่าเป็นเรื่องเกินความสามารถที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ยกเว้นนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการที่รู้เรื่องมาตรการถอดถอนเบื้องต้นในสัดส่วนที่สูงพอสมควร เเต่ไม่มีความเชื่อมั่นว่ามาตรการการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูงจะมีผลในทางปฏิบัติมากนัก

  • คณะผู้วิจัย ได้จัดทำข้อเสนอเเนะต่อเเนวทางผลักดันให้มาตรการถอดถอนผู้ดำรงตำเเหน่งระดับสูงมีผลในทางปฏิบัติ เช่น ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในการดำเนินมาตรการถอดถอน โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ในการไต่สวน เพื่อชี้มูลความผิด และการเพิ่มอัตรากำลังและความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ การปฎิรูปโครงสร้างทางการเมืองที่เป็นการรวมศูนย์ผูกขาดอำนาจโดยพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว และการกระตุ้นให้ประชาชนมีความตื่นตัวในผลที่เกิดจากการทุจริตของนักการเมือง และข้าราชการ เป็นต้น

เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

นิยม รัฐอมฤต. (2549). กระบวนการไต่สวนและการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง : ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. สถาบันพระปกเกล้า.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2549
ผู้แต่ง
  • นิยม รัฐอมฤต
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

โครงการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตจากนโยบายและโครงการของรัฐ

งานวิจัยนี้ จะพาไปทำความเข้าใจรูปแบบ คุณลักษณะ และวิธีการดำเนินนโยบาย มาตรการ หรือโครงการของรัฐเพื่อหาวิธีการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้น

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต: การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

เพื่อประมาณการต้นทุน รายรับ การขาดทุน ต้นทุนสวัสดิการสังคมของโครงการรับจํานําข้าวเปลือก และประมาณการผลตอบแทนส่วนเกินที่ตกแก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์การแสวงหาค่าเช่า และศึกษาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง

You might also like...

KRAC Insight | การเพิ่มขีดความสามารถภาครัฐ และลดคอร์รัปชัน ในฐานะ “นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม”

KRAC ชวนทุกท่านร่วมเจาะลึกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก

KRAC Insight x C4 Centre | ความเสี่ยงต่อการเกิดคอร์รัปชันที่แฝงอยู่ในรูปแบบของการจัดซื้อจัดจ้างที่หลากหลาย

รู้หรือไม่? การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบก็ซ่อน “ความเสี่ยงคอร์รัปชัน” ไว้ต่างกัน! KRAC ร่วมกับ C4 Centre มาเลเซีย เปิดเผยประเด็นร้อนจากเวทีประชุมระดับภูมิภาค SEA-ACN ว่าความเสี่ยงคอร์รัปชันซ่อนอยู่ใน PPP, PFI, G2G, Strategic Partnership รวมถึงการจัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

KRAC Extract | คอร์รัปชันหลังเเผ่นดินไหว: โอกาสแห่งการฟื้นตัวหรือประตูสู่การทุจริต

คอร์รัปชันหลังแผ่นดินไหว…เมื่อเงินฟื้นฟูหลั่งไหล แต่ความโปร่งใสกลับหายไป! กรณีศึกษาจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าภัยพิบัติอาจเปิดช่องให้การทุจริตแทรกซึมได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดการหลังภัยพิบัติ บทเรียนนี้ไม่ใช่แค่ของต่างประเทศ แต่คือสัญญาณเตือนที่ไทยก็ต้องระวังเช่นกัน!