การทุจริตเชิงนโยบาย : มาตรการในทางกฎหมายเพื่อควบคุมและป้องกันปัญหาการทุจริตเชิงนโยบายในประเทศไทย

ศึกษารูปแบบของกระบวนนําเสนอนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสังคมโดยฝ่ายการเมือง ที่เป็นสาเหตุของการทุจริตเชิงนโยบาย และพัฒนาเครื่องมือในทางกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหา

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษารวบรวมรูปแบบของกระบวนการนําเสนอนโยบายที่เป็นโครงการขนาดใหญ่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสําคัญของสังคม โดยฝ่ายการเมืองที่เป็นสาเหตุปัญหาการทุจริตนโยบายในประเทศไทย เพื่อพัฒนาเครื่องมือในทางกฎหมายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยใช้วิธีการศึกษาจากเอกสารที่เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และบทกฎหมายของต่างประเทศ ได้เเก่ สหรัฐอเมริกา สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ตลอดจนการเก็บข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึกกับเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงจัดประชุมกลุ่มย่อย และสัมมนารับฟังความคิดเห็นทั่วไป

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ผลจากการศึกษา พบว่าการทุจริตเชิงนโยบาย มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการทางการเมืองและนักการเมือง หรือฝ่ายการเมืองที่มีอํานาจหน้าที่ในการกําหนดนโยบายสาธารณะของประเทศ โดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ และมีแบบแผนในการดําเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อสร้างความชอบธรรม และไม่ขัดต่อกฎหมายดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากในการติดตาม ตรวจสอบ หรือ แสวงหาหลักฐานในการพิสูจน์ความผิด ซึ่งปัญหาในลักษณะนี้เป็นข้อเท็จจริงที่พบได้จากการดําเนินคดีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ หากไม่มีการปรับปรุงและพัฒนามาตรการทางกฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเชิงนโยบายให้ครบถ้วน ตั้งแต่ขั้นตอนของการริเริ่มพิจารณานโยบายของรัฐบาล (โดยเฉพาะขนาดใหญ่) อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตในเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นในระบบการเมืองการปกครองไทยได้
  • ผลจากการศึกษากรณีศึกษาในต่างประเทศ พบว่าการคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ (Systemic Corruption) มีลักษณะสําคัญ คือ การแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการคอร์รัปชัน ที่อาศัยอํานาจในการกําหนดนโยบายสาธารณะ และอํานาจในการกํากับดูแลหน่วยงานรัฐของนักการเมืองที่สร้างเงื่อนไข เพื่อสนับสนุนการคอร์รัปชันในรูปแบบของการออกนโยบาย หรือแนวทางให้เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ นําไปดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ที่ตนมีอยู่ตามกฎหมาย
  • ผลจากการศึกษาปัญหาการทุจริตเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พบว่ามีลักษณะบ่งชี้ที่สอดคล้องกับต่างประเทศ คือ ข้อจํากัดของระบบควบคุมตรวจสอบที่ไม่สามารถสกัดกั้นการคอร์รัปชัน ตั้งแต่การวางนโยบาย เพราะไม่มีกลไกทางกฎหมายเปิดช่องไว้ อีกทั้ง การทุจริตที่มาจากบุคคล ซึ่งสังกัดฝ่ายรัฐบาลที่ครองเสียข้างมาก ทําให้กระบวนการตรวจสอบทางการเมืองโดยรัฐสภาไม่ได้ผล และที่สําคัญ คือ ไม่มีกฎหมายที่กําหนดข้อห้ามไว้
  • ผลจากการศึกษา จึงนำมาสู่ข้อเสนอเเนะให้มีการวางกฎเกณฑ์การดําเนินงานโครงการตามนโยบายของรัฐบาล เเละตราเป็นพระราชบัญญัติการปรับปรุงข้อห้ามในการใช้นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ต้องห้าม ให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยมุ่งไปที่ลักษณะของโครงการ 3 ประการที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ได้แก่ 
    1. โครงการที่เป็นนโยบายระดับชาติ ซึ่งริเริ่มจากฝ่ายการเมืองระดับชาติ
    2. โครงการที่จะเกิดขึ้น มีการดําเนินการในวงกว้างที่ก่อผลกระทบต่อประชาชนจํานวนมาก
    3. มีมูลค่าการใช้จ่ายตามโครงการ หรือการลงทุนที่ค่อนข้างสูง และอาจมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งต้องมีการใช้เงิน หรือกู้ยืมเงินมากกว่า 1,000 ล้านบาท
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

อุดม รัฐอมฤต, วีรวัฒน์ จันทโชติ, ปกป้อง ศรีสนิท, วีรศักดิ์ แสงสารพันธ์, กรรภิรมย์ โกมลารชุน และกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์. (2559). การทุจริตเชิงนโยบาย: มาตรการในทางกฎหมายเพื่อควบคุมและป้องกันปัญหาการทุจริตเชิงนโยบายในประเทศ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2559
ผู้แต่ง
  • อุดม รัฐอมฤต
  • วีรวัฒน์ จันทโชติ
  • ปกป้อง ศรีสนิท
  • วีรศักดิ์ แสงสารพันธ์
  • กรรภิรมย์ โกมลารชุน
  • กิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์
หน่วยงาน
หัวข้อ
Related Content

โครงการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตจากนโยบายและโครงการของรัฐ

งานวิจัยนี้ จะพาไปทำความเข้าใจรูปแบบ คุณลักษณะ และวิธีการดำเนินนโยบาย มาตรการ หรือโครงการของรัฐเพื่อหาวิธีการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้น

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต: การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

เพื่อประมาณการต้นทุน รายรับ การขาดทุน ต้นทุนสวัสดิการสังคมของโครงการรับจํานําข้าวเปลือก และประมาณการผลตอบแทนส่วนเกินที่ตกแก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์การแสวงหาค่าเช่า และศึกษาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง

You might also like...

KRAC Insight | การเพิ่มขีดความสามารถภาครัฐ และลดคอร์รัปชัน ในฐานะ “นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม”

KRAC ชวนทุกท่านร่วมเจาะลึกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก

KRAC Insight x C4 Centre | ความเสี่ยงต่อการเกิดคอร์รัปชันที่แฝงอยู่ในรูปแบบของการจัดซื้อจัดจ้างที่หลากหลาย

รู้หรือไม่? การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบก็ซ่อน “ความเสี่ยงคอร์รัปชัน” ไว้ต่างกัน! KRAC ร่วมกับ C4 Centre มาเลเซีย เปิดเผยประเด็นร้อนจากเวทีประชุมระดับภูมิภาค SEA-ACN ว่าความเสี่ยงคอร์รัปชันซ่อนอยู่ใน PPP, PFI, G2G, Strategic Partnership รวมถึงการจัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

KRAC Extract | คอร์รัปชันหลังเเผ่นดินไหว: โอกาสแห่งการฟื้นตัวหรือประตูสู่การทุจริต

คอร์รัปชันหลังแผ่นดินไหว…เมื่อเงินฟื้นฟูหลั่งไหล แต่ความโปร่งใสกลับหายไป! กรณีศึกษาจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าภัยพิบัติอาจเปิดช่องให้การทุจริตแทรกซึมได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดการหลังภัยพิบัติ บทเรียนนี้ไม่ใช่แค่ของต่างประเทศ แต่คือสัญญาณเตือนที่ไทยก็ต้องระวังเช่นกัน!