การบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ: กรณีศึกษางบประมาณเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม

ศึกษาการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ และแนวทางบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณระหว่างหน่วยงาน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการใช้จ่ายงบประมาณ อันจะนำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐได้ตั้งงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย ที่มุ่งเน้นให้พลเมืองเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ทางการเมืองอย่างยั่งยืน

 

โดยมีตัวอย่างของหน่วยงานรัฐที่มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ หากรวมตัวเลขงบประมาณเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยของหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จะพบว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ดังนั้น การศึกษาถึงความเป็นไปได้ และแนวทางในการบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

 

ด้วยเหตุนี้ จึงนำมาสู่การศึกษางบประมาณเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย ที่มุ่งศึกษาถึงงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ถูกจัดสรร เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย และปัจจัยที่ส่งผลต่อความสําเร็จในการบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกัน รวมทั้งเพื่อนําเสนอแนวทางบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้งบประมาณได้ถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

 

โดยคณะผู้วิจัย ได้ดำเนินการศึกษาเอกสารงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีการตั้งงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรม หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย กฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ  รวมทั้งแนวคิดทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการงบประมาณรายจ่าย และการพัฒนาประชาธิปไตย รวมถึงการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลหลักจากหน่วยงานภาครัฐที่มีการจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย และชุมชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 15 คน

สรุปประเด็นสำคัญจากงานวิจัย

  • ผลจากการศึกษา พบว่างบประมาณเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม มีอยู่ในหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งที่มาจากหน่วยงานที่มีภารกิจโดยตรง และหน่วยงานอื่นที่ต้องอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจ อย่างไรก็ตาม การบูรณาการงบประมาณร่วมกันยังเป็นไปได้น้อย เนื่องจากข้อจำกัดของระเบียบปฏิบัติของทางราชการ ทัศนคติของหน่วยปฏิบัติ และความเข้าใจที่ต่างกันต่อประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม รวมถึงระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการที่ทำให้หน่วยงานมุ่งแต่การปฏิบัติภารกิจ เพื่อตอบสนองต่อตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติราชการเป็นหลัก

 

  • ผลจากการศึกษาแนวทางส่งเสริมการบูรณาการงบประมาณการใช้จ่ายร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม มีความเป็นไปได้สองทาง กล่าวคือ การดำเนินงานในส่วนกลาง และในระดับพื้นที่ โดยในระดับส่วนกลาง ควรพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์บูรณาการในประเด็นการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้งบประมาณที่กระจัดกระจายอยู่ในหน่วยงานภาครัฐได้ถูกนำมาวิเคราะห์ และจัดสรรอย่างเป็นระบบ เพื่อตอบสนองการพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง และไม่ควรจำกัดที่การบูรณาการแผนงานเท่านั้น แต่ควรบูรณาการไปยังกิจกรรม หรือกลุ่มเป้าหมายร่วมกันด้วย ในระดับพื้นที่ จังหวัดจะต้องเป็นกลไกหลัก เพื่อเชื่อมประสานหน่วยงานในพื้นที่ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม รวมทั้งต้องวิเคราะห์แผนงาน กิจกรรม โครงการที่ลงไปปฏิบัติการในพื้นที่ ไม่ให้มีความซับซ้อนกัน เช่น จัดทำปฏิทิน หรือแผนที่การส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมในพื้นที่ เพื่อให้ส่วนราชการ รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ได้รับทราบ และสามารถเชื่อมประสานการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • ผลจากการศึกษา ระบุว่าควรมีการพัฒนาระบบงบประมาณอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพ ในการค้นหาข้อมูลงบประมาณของส่วนราชการ องค์กรอิสระ และองค์กรมหาชนต่าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานแต่ละแห่ง สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดงบประมาณของหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความร่วมมือ และการบูรณาการการทำงานร่วมกัน รวมถึงต้องทำให้เกิดการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อให้งบประมาณที่ถูกเสนอขอและจัดสรร เป็นไปตามบริบทความต้องการของแต่ละพื้นที่ เช่น การปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันยังเป็นอุปสรรคในการบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกันระหว่างหน่วยงาน

เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

รัฐศิรินทร์ วังกานนท์ และศิริรัตน์ ชุณหคล้าย. (2558). การบูรณาการการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ: กรณีศึกษางบประมาณเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม. สถาบันพระปกเกล้า.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2558
ผู้แต่ง
  • รัฐศิรินทร์ วังกานนท์
  • ศิริรัตน์ ชุณหคล้าย
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

แนวทางการป้องกันและลดความสูญเสียงบประมาณจากการทุจริต

การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับเจตจํานงของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และค่านิยมของประชาชนที่ไม่เพิกเฉยต่อการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ

ระบบการตรวจสอบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน

ศึกษาระบบการตรวจสอบการเงิน การคลัง บัญชี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีกรณีศึกษา คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลําพูน เชียงใหม่ และเเม่ฮ่องสอน

บทความวิจัย | แบบบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการ (บช.1): หลักการ ปัญหา การปรับตัว

การศึกษาหลักการ ปัญหา และการปรับตัวของการจัดทำแบบบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการ (บช.1) มีส่วนสำคัญในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบและดำเนินคดีทุจริตได้

You might also like...

KRAC Extract | คอร์รัปชันใต้ผืนป่า ความอยุติธรรมที่หยั่งรากในนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อม

พาไปเจาะลึกด้นมืดของการปลูกป่า การฟื้นฟูดิน และคาร์บอนเครดิต โครงการที่ควรช่วยโลกให้ดีขึ้น แต่แท้จริงแล้วกลับถูกแทรกแซงด้วยอำนาจที่ไม่โปร่งใสในหลายขั้นตอน

KRAC Hot News I COP30 กับการวางธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมโลก

ท่ามกลางคลื่นความร้อน น้ำท่วม และความไม่มั่นคงทางอาหาร โลกกำลังถกเถียงครั้งใหญ่เรื่อง “ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมโลก” ว่าใครต้องลด ใครต้องจ่าย และใครควรได้รับการเยียวยาและในปี 2025 นี้ COP30 จะเป็นเวทีชี้ขาดครั้งสำคัญของทิศทางสิ่งแวดล้อมโลก

KRAC Insights I เชื่อมข้อมูล-เชื่อมภาคส่วน: ยกระดับงานวิจัยธรรมาภิบาลไทยยุคใหม่

KRAC ชวนอ่านสรุปเวทีเสวนา “Thailand Open Science for All” เพื่อพัฒนาบทบาทของ KRAC ในการเชื่อมโยงข้อมูล งานวิจัย และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อผลักดัน Open Science และยกระดับงานวิจัยด้านธรรมาภิบาลของไทยสู่การใช้งานจริงเชิงนโยบาย