ปฏิเสธไม่ได้กับความดังระดับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกของลูกฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” แห่งสวนสัตว์เขาเขียว ที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นดาวก็ไม่ผิดด้วยอายุเพียง 3 เดือนกับปรากฏการณ์ “หมูเด้งฟีเวอร์” ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารัก ขัดกับนิสัยที่ดูเกรี้ยวกราดโดยภาพที่ปรากฏออกมาในการไล่งับขาของผู้ดูแลทั้งที่ฟันก็ยังไม่ขึ้นนั้นได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ โดยความดังนั้นไม่ได้หยุดเพียงแค่ในประเทศไทยแต่ดังไปไกลถึงระดับโลก การันตีด้วยการขึ้นเป็นพาดหัวข่าวในสื่อชื่อดังอย่าง Time Magazine และ The New York Times
ดังนั้นพลาดไม่ได้สำหรับกระแสที่มาแรงระดับโลกเช่นนี้ ที่จะมีแบรนด์สินค้าหรือผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ที่ต้องการนำความน่ารักของเจ้าฮิปโปแคระ มาช่วยต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค กับภาพลักษณ์ฮิปโปตัวอ้วนกลมแก้มสีชมพูอ่อนที่ดูชุ่มชื้นตลอดเวลากับลักษณะท่าทางที่เรียกได้ว่าเด้งสมชื่อเลยจริงๆ จึงถูกต่อยอดเป็นสินค้ามากมายทั้งจากภาคเอกชน และจากเจ้าของที่เป็นผู้ดูแลของเจ้าฮิปโปแคระคือ สวนสัตว์เขาเขียว ภายใต้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์นั่นเอง
โดยตามกฎหมายหมูเด้งนั้นเป็น “ทรัพย์สิน” ของสวนสัตว์เขาเขียวทำให้สวนสัตว์มีอำนาจเป็น “เจ้าของกรรมสิทธิ์” ที่มีอำนาจใช้สอยหรือหาประโยชน์จากหมูเด้งได้อย่างที่เห็นกัน คือการเลี้ยงดูและจัดแสดงให้ผู้ชมต่างได้แวะเวียนมาหาพร้อมเก็บค่าเข้าชม
หากเป็นดังนั้นแล้ว ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้าย “หมูเด้ง” แต่ไม่ได้มาจากสวนสัตว์เขาเขียวนั้นสามารถทำได้หรือไม่? สิ่งที่สามารถนำมาตอบคำถามนี้ได้นั้นไม่ใช่กรรมสิทธิ์ตามที่กล่าวมาแต่อย่างใด แต่คือเรื่อง ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า
แล้ว “หมูเด้ง” เป็นลิขสิทธิ์ของสวนสัตว์เขาเขียวหรือไม่ ? เมื่อย้อนดูตามกฎหมาย ลิขสิทธิ์นั้น คือ การที่กฎหมายให้อำนาจเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นเพียงบุคคลคนเดียวที่สามารถ ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ผลงานที่ตนเป็นเจ้าของให้สาธารณะได้ชมได้
โดยการจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้นั้นจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน โดยการสร้าง คิด แต่ง แสดง หรือเขียนออกมา และผลงานชิ้นนั้นต้องเป็นงานประเภทที่กฎหมายถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ หากครบทั้งสององค์ประกอบนี้แล้วลิขสิทธิ์ก็จะเกิดขึ้นทันทีตั้งแต่มีการสร้างผลงานขึ้นโดยไม่ต้องเข้าจดทะเบียนกับเจ้าหน้าที่
พิจารณาจาก องค์ประกอบที่กล่าวมา “หมูเด้งที่เป็นสัตว์จึงไม่ถือเป็นงานประเภทที่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย และการจับคู่ผสมพันธุ์ให้ ก็ถือเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ ไม่ใช่กระบวนการสร้างสรรค์ทางปัญญาที่มนุษย์สามารถอ้างความเป็นเจ้าของหรือสิทธิ์ลิขสิทธิ์ได้” (ThaiPBS, 2567, “หมูเด้ง” รันได้ทุกวงการ แต่จะมา “ละเมิดลิขสิทธิ์” กันไม่ได้นะนุด)
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกผลงานที่เป็นหมูเด้งจะไม่ถูกคุ้มครองด้วยลิขสิทธิ์ ข้อมูลจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา “ผลงานที่ถูกสร้างสรรค์จากหมูเด้ง เช่น ภาพถ่าย รูปวาด วีดีโอคลิป ที่วาดจากหมูเด้งตัวจริงโดยผู้จัดทำเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นยังเป็นผลงานที่ได้รับการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์ ซึ่งหากมีผู้ใดนำผลงานนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็อาจมีโทษตามกฎหมาย” ดังนั้นหากมีการวาดรูปหรือปั้นเป็นตุ๊กตา 3 มิติโดยพยายามเลียนแบบให้เหมือนรูปที่ผู้อื่นถ่ายหรือวาดนั้น ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้รวมถึงการนำไปใช้งานสกรีนเสื้อ หรือกระเป๋า และดัดแปลงเป็น Sticker Line หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพนั้นก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
แต่หากสวนสัตว์เขาเขียว ออกประกาศห้ามถ่ายรูปหรือวีดีโอเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือการประกาศให้รูปหรือวีดีโอใดที่ถูกถ่ายในพื้นที่ของสวนสัตว์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสวนสัตว์ ซึ่งสวนสัตว์ก็มีสิทธิที่จะทำได้ ผู้ถ่ายรูปเหล่านั้นก็จะไม่สามารถนำรูปไปใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ใดๆ ได้ เนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งในขณะปัจจุบันสวนสัตว์เขาเขียวเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังดำเนินการจดทะเบียนทั้งลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้าเพื่อรักษาผลประโยชน์ของหมูเด้งตามกฎหมาย
แล้วเหล่าฮิปโปต่างๆ ที่เราเห็นกันเป็นลายเสื้อ สกรีนลายกระเป๋า หรือที่แพร่หลายมากในขณะนี้คือ Sticker Line ที่มาในชื่อหมูต่างๆ เช่น หมูดึ๋ง หมูดุ้ง หมูดึ๊บ หมูแดง หมูอ้วน ฮิปโปเด้ง หรืออื่นๆ เหตุผลเบื้องหลังการเลี่ยงบาลีไปใช้ชื่อเหล่าสารพัดหมูนั้น ก็เนื่องมาจาก พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า นั่นเอง
เนื่องจากชื่อ “หมูเด้ง” และหน้าตาลักษณะของเจ้าฮิปโปนั้นสวนสัตว์เขาเขียว สามารถนำไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าต่างๆ ที่ต้องการผลิตออกมาภายใต้เครื่องหมายการค้า “หมูเด้ง” ได้ โดยประเภทของสินค้าที่กฎหมายจะคุ้มครอง ก็อยู่ภายใต้ขอบเขตของ พ.ร.บ เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2538 และเมื่อได้จดทะเบียนแล้ว สวนสัตว์เขาเขียวก็สามารถฟ้องร้อง ผู้ที่มีการใช้ เลียนแบบ หรือทำให้ผู้อื่นเชื่อว่านี่คือหมูเด้ง โดยใช้ “ชื่อประกอบรูปภาพหรือลักษณะท่าทางของหมูเด้ง” ในการค้าขายหากมีความคล้ายคลึงกับลักษณะที่จดทะเบียนไว้เป็นอย่างมาก ก็อาจเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหมูเด้งนั้นเดิมทีก็เป็นสัตว์ การจะมีท่าทางหน้าตาคล้ายกับฮิปโปตัวอื่นนั่นก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อจดทะเบียนแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้อื่นจะไม่สามารถใช้รูปฮิปโปในเชิงพาณิชย์ได้อีกต่อไป ต้องมีการพิจารณาจากทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาด้วยว่าเหมือนมากหรือน้อยขนาดไหน จึงจะเข้าข่ายเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า
แม้ว่าการกระทำบางอย่างกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาทั้งลิขสิทธิ์หรือเครื่องหมายการค้าเองนั้นยังคุ้มครองไม่ถึงหรือไม่สามารถคุ้มครองได้ทั้งหมด แต่กว่าจะเป็นตัวเจ้าตัวหมูเด้ง หรือของที่มีลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้เราได้ชื่นชมนั้น ต่างก็มีต้นทุนทั้ง แรงงาน และค่าใช้จ่ายประกอบอยู่ทั้งนั้น ดังนั้นหากต้องการสนับสนุนทั้งหมูเด้ง หรือ ผลงานอื่นๆ ก็ควรสนับสนุนโดยตรงกับเจ้าของผู้ผลิต หรือหากต้องการใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ควรติดต่อขออนุญาตและตกลงกับเจ้าของโดยตรงเช่นกัน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิตในสายงานต่างๆ ได้ผลิตสิ่งดีๆ สร้างผลงานต่อไป
อันดา ซ่อนกลิ่น
หัวข้อ
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : อัปเดตประชุมวิชาการโลกเรื่องคอร์รัปชัน
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค Co-Founder บริษัท HAND Social Enterprise ได้รับเชิญไปบรรยายในงานประชุมทางวิชาการ Cambridge Economic Crime ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 40 แล้ว ซึ่งงานนี้ถือได้ว่าเป็นงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคอร์รัปชันที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง โดยผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ได้เข้าร่วมบรรยายเกี่ยวกับผลงานวิจัยเรื่องประสิทธิภาพที่แท้จริงของความโปร่งใสในการต่อต้านคอร์รัปชัน ผ่านการศึกษาผลกระทบจากโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Infrastructure Transparency: CoST)
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : อยากแก้ปัญหาปากท้องก่อน แต่ถ้าไม่ปฏิรูปตำรวจ ก็แก้ยาก !
ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน มืดเทา อาจเป็นคำนิยามวงการตำรวจไทยในปัจจุบัน ? หากเราพูดถึงวงการตำรวจ หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงเรื่องที่ตำรวจดันไปเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมกับการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นกรณีหมูเถื่อน กำนันนก ทุนจีนสีเทา หรือข่าวอาชญากรรมต่าง ๆ แทนที่จะมองว่า ตำรวจคือผู้ที่รักษาความสงบให้บ้านเมือง และคุ้มครองประชาชนให้รู้สึกปลอดภัย
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : สติ๊กเกอร์ส่วย…แก้ได้ ?
จะแก้ปัญหาอย่างไรให้ชีวิตปลอดภัยจากผลกระทบของสินบน ? ประเด็นร้อนทุจริตเร็ว ๆ นี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ส่วยสติกเกอร์” หลังว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ออกมาแฉตั้งแต่กลไกไปจนถึงราคาอย่างที่หลายคนคงได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้น รู้หรือไม่ว่าเรื่องของส่วยรถบรรทุกที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว จริง ๆ แล้วใกล้ตัวกว่าที่เราคิด