บทความวิจัย | การบัญชีนิติเวชกับการทุจริตทางบัญชี: กรณีศึกษามหาวิทยาลัย เอ

การศึกษาการทุจริตทางบัญชี พบว่า การทุจริตเกิดจากภาวะสังคมทุนนิยมและความโลภ และความเข้มแข็งของการควบคุมภายในหน่วยงาน ดังนั้น การป้องกันการทุจริตต้องเริ่มจากนโยบายการควบคุมภายใน ที่มีพื้นฐานจากการพัฒนาวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมให้ไม่เอื้อต่อการทุจริต

 

ปัญหาการทุจริตเป็นเสมือนโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายมาแต่อดีตจนปัจจุบัน โดยเฉพาะในวงการเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทย

 

บทความนี้ จึงต้องการอธิบายเกี่ยวกับความหมายของบัญชีนิติเวช ความหมายของการทุจริต ประเภทของการทุจริต กระบวนการกระทําทุจริตและการสืบสวนสอบสวนสัญญาณการทุจริตเบื้องต้นกรณีศึกษาและบทสรุป โดยใช้วิธีการวิจัยด้วยการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับการทุจริตและบัญชีนิติเวช

 

ผลการศึกษา พบว่า การบัญชีนิติเวชเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญร่วมกับความรู้ทางด้านบัญชีในการตรวจสอบ หรือเสนอแนะแนวทางป้องกันในการจัดทําบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่ได้รับการรับรองโดยทั่วไป สอดคล้องตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี และป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น หรือหาสาเหตุของการทุจริตที่เกิดขึ้น

 

จากกรณีศึกษา พบว่า แรงจูงใจของการทุจริตมาจากสถานการณ์สังคมทุนนิยมและความโลภ ประกอบกับการควบคุมภายในของหน่วยงานที่ยังไม่รัดกุมเพียงพอ ดังนั้น การป้องกันการทุจริตต้องเริ่มจากนโยบายและวิธีการของหน่วยงานที่เฉพาะเจาะจงด้านการควบคุมภายใน โดยมีพื้นฐานจากการพัฒนาวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมขององค์กรให้ไม่เอื้อต่อการเกิดการทุจริต

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

วสันต์ กาญจนมุกดา และไกรวุฒิ ตั้งสัตยาชีพ. (2565). การบัญชีนิติเวช กับการทุจริตทางบัญชี : กรณีศึกษา มหาวิทยาลัย เอ. วารสารบัญชีปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 4(2), 3142.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2565
ผู้แต่ง
  • วสันต์ กาญจนมุกดา
  • ไกรวุฒิ ตั้งสัตยาชีพ
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

แนวทางการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นสังคมที่ปลอดคอร์รัปชันโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน: กรณีศึกษา ชุมชนในเขตบางเขน เขตสายไหม เขตดอนเมือง และเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

ศึกษาสภาพปัญหาและปัจจัยที่ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนรูปแบบและช่องทางการแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจกรรมในชุมชน โดยมีชุมชนเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน

ประชาสังคมกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาลท้องถิ่นเพื่อพัฒนาระบบและกลไกในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน กรณีศึกษาจังหวัดนครราชสีมา

ศึกษาสถานการณ์ธรรมาภิบาล และแสวงหาความร่วมมือในการพัฒนาระบบกลไกเสริมสร้างธรรมาภิบาลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคการศึกษา และภาคประชาสังคมใน จ.นครราชสีมา

บทความวิจัย | แบบบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการ (บช.1): หลักการ ปัญหา การปรับตัว

การศึกษาหลักการ ปัญหา และการปรับตัวของการจัดทำแบบบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการ (บช.1) มีส่วนสำคัญในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบและดำเนินคดีทุจริตได้

You might also like...

KRAC Hot News I จาก “เงินทอนวัด” สู่ “มหกรรมสึกพระ” ธรรมาภิบาลวัดที่ต้องเร่งเเก้

วิกฤติศรัทธาในผ้าเหลืองกำลังสั่นคลอนวงการสงฆ์! KRAC จะพาไปสำรวจรากลึกของปัญหาธรรมาภิบาลวัด และเสนอแนวทางการปฏิรูปที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนคน แต่ต้องเปลี่ยนระบบ

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 365 มุมมองของข้าราชการ กับการแจ้งเบาะแสในหน่วยงานรัฐ

เมื่อพูดถึงการต่อต้านคอร์รัปชัน กลไกสำคัญอย่างหนึ่งที่ถูกคาดหวังเสมอคือการ “แจ้งเบาะแส” หรือ “Whistleblowing” จากคนภายในองค์กร แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตา และกล้าที่จะออกมาพูดความจริงเมื่อพบเห็นการทุจริตเกิดขึ้น

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น