บทความวิจัย | การเปิดรับสื่อ ความตระหนัก และทัศนคติที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในเขตกรุงเทพมหานคร

สื่อโฆษณารณรงค์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันสัมพันธ์กับพฤติกรรมและการตระหนักรู้ของประชาชน ซึ่งสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันในระดับของการให้และได้รับข้อมูล รวมถึงการสร้างความร่วมมือวางแผนร่วมกัน

 

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของพฤติกรรมการเปิดรับสื่อโฆษณารณรงค์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันและความตระหนักและทัศนคติต่อต้านคอร์รัปชัน  ตลอดจนการพยากรณ์ความตระหนักและทัศนคติที่มีต่อพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน  

 

โดยช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษาบุคลากรที่ทำงานร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน 400 คน และใช้สถิติวิเคราะห์ความแปรปรวนตัวแปรพหุนาม สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบตัวแปรพหุนาม  

 

ผลวิจัยพบว่า

1) กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ อาชีพ หน่วยงานสังกัด และรายได้ที่แตกต่างกันมีความตระหนักและทัศนคติในการต่อต้านคอร์รัปชันที่แตกต่่าง

2) พฤติกรรมการเปิดรับสื่อโฆษณาโดยรวมและสื่อชุด “อย่าปล่อยให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม” มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความตระหนักในการต่อต้านคอร์รัปชัน

3) พฤติกรรมการเปิดรับสื่อโฆษณาโดยรวมมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับทัศนคติด้านการเปิดโปงและปลูกฝัง

4) ความตระหนักในการต่อต้านคอร์รัปชันมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับทัศนคติต่อต้านคอร์รัปชัน

5) ความตระหนักและทัศนคติในการต่อต้านคอร์รัปชันสามารถพยากรณ์พฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันในระดับของการให้และได้รับข้อมูล การสร้างความร่วมมือวางแผนร่วมกัน และการร่วมดำเนินการ 

 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

พจนีย์ บุญเจริญสุข, พัชราภรณ์ เกษะประกร และธนวุฒิ นัยโกวิท. (2560). การเปิดรับสื่อ ความตระหนัก และทัศนคติที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารรวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร, 37(4), 110-128.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2560
ผู้แต่ง
  • พจนีย์ บุญเจริญสุข  
  • พัชราภรณ์ เกษะประกร  
  • ธนวุฒิ นัยโกวิท 
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่

โครงการวิจัยเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน ระยะที่ 2

จัดทำข้อเสนอการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยเน้นแนวทางการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาคอร์รัปชันจากมุมมองของประชาชน ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PAR) และกระบวนการ Design Thinking เต็มรูปแบบ

You might also like...

KRAC Insight | เมื่อวัดต้องมีระบบ: เพราะศรัทธาต้องการมากกว่าแค่ความเชื่อ

ตั้งแต่เรื่องเงินวัด สีกา ยันการทุจริต “วัดควรบริหารจัดการอย่างไรให้โปร่งใส?” และ “ใครควรรับผิดชอบ?” ชวนหาคำตอบไปกับ KRAC Expert “คุณสุภอรรถ โบสุวรรณ”

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | จากศรัทธาสู่เงินทอน เมื่อวัดกลายเป็นแหล่งฟอกเงินทุจริต

เมื่อศรัทธาและเงินสนับสนุนกลายเป็นช่องทางฟอกเงิน ค้นพบเบาะเเสสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงในการหมุนเวียนเงินผ่านบัญชีวัดเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบได้ในบทความนี้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “เดนมาร์ก” ประเทศที่ยืนหนึ่งเรื่องความโปร่งใส แบบไม่พึ่งพาหน่วยงานต่อต้านทุจริต

หากพูดถึงการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน หลายคนคิดว่าจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่นี้โดยตรง แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในประเทศที่ติดอันดับโปร่งใสเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง “เดนมาร์ก” กลับไม่มีหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชัน โดยเฉพาะแบบประเทศไทย