บทความวิจัย | มรดกเชิงพลวัตรผ่านกระบวนทรรศน์ทั้งห้ากับการแก้ไขทุจริต: การศึกษาเชิงวิเคราะห์ วิจักษ์และวิธาน

ในมุมมองทางปรัชญา คอร์รัปชันเป็นการทำลายระบบที่มีอยู่อันเป็นอุปสรรคไม่ให้เป็นไปตามระบบที่ควรจะเป็น ซึ่งปัญหานี้สามารถจัดการได้ด้วยแนวทางของปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง  

 

คอร์รัปชันเป็นภาวะความเป็นจริงที่สืบทอดยาวนานในทุกระบบของสังคมและสร้างปัญหาแก่มนุษยชาติในหลายมิติ ท่าทีต่อการคอร์รัปชันและการต่อสู้ป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันแตกต่างกันไปตามแต่ละกระบวนทรรศน์ ผู้วิจัยจึงต้องการหาคำตอบต่อคำถามวิจัยที่ว่า ปัญหาคอร์รัปชันสามารถแก้ไขด้วยปรัชญาหลังนวยุคสายกลางหรือไม่

 

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ วิจักษ์ และวิธาน การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันด้วยหลักปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง เพื่อนำผลที่ได้ไปใช้เป็นเหตุผลและหลักในการป้องกันคอร์รัปชันที่เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน โดยใช้วิธีวิจัยทางปรัชญาอันได้แก่  วิภาษวิธีด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างฝ่ายตรงข้ามที่ยึดมั่นในปรัชญากระบวนทรรศน์นวยุคกับฝ่ายผู้วิจัยและผู้สนับสนุนความคิดของผู้วิจัย  

 

ผลการวิจัยพบว่า ฝ่ายตรงข้ามมองว่าปัญหาคอร์รัปชันควรแก้ไขด้วยปรัชญานวยุค แต่ผู้วิจัยมีความคิดเห็นแย้งและเสนอว่า ควรแก้ด้วยปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง เนื่องจากคอร์รัปชันทำลายระบบที่มีอยู่ โดยบางครั้งคอร์รัปชันอาจถูกกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม การอบรมที่เน้นเพียงหลักผลประโยชน์นิยมจึงไม่เพียงพอ ควรเน้นการสร้างสรรค์ การปรับตัว และการร่วมมือ เพื่อให้เกิดความสุขแท้เป็นเป้าหมายสำคัญ

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

พจมา มาโนช, กีรติ บุญเจือ, เอนก สุวรรณบัณฑิต และสิริกร อมกฤตวาริน. (2563). มรดกเชิงพลวัตรผ่านกระบวนทรรศน์ทั้งห้ากับการแก้ไขทุจริต: การศึกษาเชิงวิเคราะห์ วิจักษ์และวิธาน. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 8(1), 247256.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2563
ผู้แต่ง
  • พจนา มาโนช 
  • กีรติ บุญเจือ 
  • เอนก สุวรรณบัณฑิต 
  • สิริกร อมกฤตวาริน 
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่

โครงการวิจัยเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน ระยะที่ 2

จัดทำข้อเสนอการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยเน้นแนวทางการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาคอร์รัปชันจากมุมมองของประชาชน ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PAR) และกระบวนการ Design Thinking เต็มรูปแบบ

โครงการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบ กลไกและแนวทางการปลูกฝังเจตคติและวัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ศึกษาพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตที่มีผลต่อการป้องกันการทุจริตของไทย และศึกษากรณีของต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อไป

You might also like...

KRAC Hot News I จาก “เงินทอนวัด” สู่ “มหกรรมสึกพระ” ธรรมาภิบาลวัดที่ต้องเร่งเเก้

วิกฤติศรัทธาในผ้าเหลืองกำลังสั่นคลอนวงการสงฆ์! KRAC จะพาไปสำรวจรากลึกของปัญหาธรรมาภิบาลวัด และเสนอแนวทางการปฏิรูปที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนคน แต่ต้องเปลี่ยนระบบ

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 365 มุมมองของข้าราชการ กับการแจ้งเบาะแสในหน่วยงานรัฐ

เมื่อพูดถึงการต่อต้านคอร์รัปชัน กลไกสำคัญอย่างหนึ่งที่ถูกคาดหวังเสมอคือการ “แจ้งเบาะแส” หรือ “Whistleblowing” จากคนภายในองค์กร แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตา และกล้าที่จะออกมาพูดความจริงเมื่อพบเห็นการทุจริตเกิดขึ้น

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น