บทความวิจัย | แนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย

จากการประเมินจริยธรรมของนักการเมือง พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น จึงควรมีมาตรการพัฒนาจริธรรม มาตรการกำหนดคุณสมบัติด้านจริยธรรม และมาตรการกำหนดบทลงโทษในกรณีทำความผิด เพื่อยกระดับจริยธรรมในนักการเมืองให้สูงขึ้น 

 

การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) ศึกษาตัวแบบจริยธรรมนักการเมืองไทย (2) การยืนยันตัวแบบจริยธรรมนักการเมืองไทย (3) ศึกษาจริยธรรมนักการเมืองไทย (4) เปรียบเทียบจริยธรรมนักการเมืองไทย จำแนกตามเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน (5) ศึกษาแนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย  และ (6) ประเมินแนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย  

การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยผสานวิธี คือการวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่  นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความรู้และประสบการณ์ทางด้านจริยธรรม การบริหาร การเมือง และการปกครอง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2,305 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา การหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test independent) การวิเคราะห์ ความแปรปรวน (F-test) และ การเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของ Dunnett T3  

ผลการวิจัย พบว่า ตัวแบบจริยธรรมนักการเมืองไทย 28 ข้อ เช่น มีความละอายใจ ไม่ทำความชั่ว สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย (หิริ) มีความเกรงกลัวต่อผลของการกระทำความชั่วและอาญาแผ่นดิน (โอตตัปปะ) มีความรู้เกี่ยวกับความดี คือรู้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว เป็นต้น ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเพื่อยืนยันตัวแบบจริยธรรมนักการเมืองไทย พบว่าอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด (= 4.74)  ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อจริยธรรมนักการเมืองไทย พบว่า นักการเมืองไทยมีจริยธรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มีน้อย (= 2.35) การเปรียบเทียบจริยธรรมนักการเมืองไทยจำแนกตามเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ และ รายได้ต่อเดือนของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีความคิดเห็นต่อจริยธรรม นักการเมืองไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

แนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมือง ได้แก่ (1) มาตรการพัฒนาจริยธรรม เช่น  รัฐต้องกำหนดให้การพัฒนาจริยธรรม เป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของชาติ มีหน่วยงานรับผิดชอบในการพัฒนาจริยธรรมนักการเมือง จัดทำโครงการพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองทุกระดับ (2) มาตรการกำหนดคุณสมบัติด้านจริยธรรม เช่น มีประวัติดีงามไม่เสื่อมเสียทางจริยธรรม ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่น และ (3) มาตรการกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ทำความผิด เช่น ตัดสิทธิเลือกตั้งนักการเมืองที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งตลอดชีวิต ตัดสิทธิเลือกตั้งคู่สมรสและบุตร  5 ปี ตัดสิทธิเลือกตั้งนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันตลอดชีวิต เป็นต้น สำหรับการประเมินแนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย  พบว่า  อยู่ในระดับมากที่สุด คือ มาตรฐานการใช้ประโยชน์ได้ (= 4.66) และ มาตรฐานความเหมาะสม (= 4.65)  และ มาตรฐานความเป็นไปได้ (= 4.46) อยู่ในระดับมาก 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

ศรัณย์ วงศ์คำจันทร์. (2558). แนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย. สักทอง: วารสารมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์, 21(2), 5366.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2558
ผู้แต่ง

ศรัณย์ วงศ์คำจันทร์ 

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตจากนโยบายและโครงการของรัฐ

งานวิจัยนี้ จะพาไปทำความเข้าใจรูปแบบ คุณลักษณะ และวิธีการดำเนินนโยบาย มาตรการ หรือโครงการของรัฐเพื่อหาวิธีการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้น

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต: การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

เพื่อประมาณการต้นทุน รายรับ การขาดทุน ต้นทุนสวัสดิการสังคมของโครงการรับจํานําข้าวเปลือก และประมาณการผลตอบแทนส่วนเกินที่ตกแก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์การแสวงหาค่าเช่า และศึกษาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง

You might also like...

KRAC Insight | การเพิ่มขีดความสามารถภาครัฐ และลดคอร์รัปชัน ในฐานะ “นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม”

KRAC ชวนทุกท่านร่วมเจาะลึกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก

KRAC Insight x C4 Centre | ความเสี่ยงต่อการเกิดคอร์รัปชันที่แฝงอยู่ในรูปแบบของการจัดซื้อจัดจ้างที่หลากหลาย

รู้หรือไม่? การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบก็ซ่อน “ความเสี่ยงคอร์รัปชัน” ไว้ต่างกัน! KRAC ร่วมกับ C4 Centre มาเลเซีย เปิดเผยประเด็นร้อนจากเวทีประชุมระดับภูมิภาค SEA-ACN ว่าความเสี่ยงคอร์รัปชันซ่อนอยู่ใน PPP, PFI, G2G, Strategic Partnership รวมถึงการจัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

KRAC Extract | คอร์รัปชันหลังเเผ่นดินไหว: โอกาสแห่งการฟื้นตัวหรือประตูสู่การทุจริต

คอร์รัปชันหลังแผ่นดินไหว…เมื่อเงินฟื้นฟูหลั่งไหล แต่ความโปร่งใสกลับหายไป! กรณีศึกษาจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าภัยพิบัติอาจเปิดช่องให้การทุจริตแทรกซึมได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดการหลังภัยพิบัติ บทเรียนนี้ไม่ใช่แค่ของต่างประเทศ แต่คือสัญญาณเตือนที่ไทยก็ต้องระวังเช่นกัน!