มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน

ศึกษากลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน และแนวทางเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ข้อเท็จจริง และสิทธิเสรีภาพ

งานวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน ศึกษาผลสะท้อนจากกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันต่อประชาชนผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน และจัดทำแนวทางเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ข้อเท็จจริง และสิทธิเสรีภาพของประชาชน

โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ ประชาชนที่อาสาสมัครเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และหน่วยงานหลักทีเกี่ยวข้องในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน ได้แก่ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • จากการศึกษา พบว่ามาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันในระดับสากลขององค์การสหประชาชาติ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อกลุ่มบุคคลที่มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ได้แก่ (1) อนุสัญญาสหประชาชาติเพือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ค.ศ. 2000 (United Nation Convention Against Transnational Organize Crime 2000) (2) อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (Un Convention Against Corruption) (3) สนธิสัญญา และกระบวนการพิเศษที่สนับสนุนการพัฒนากระบวนการด้านสิทธิมนุษยชน เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และ (4) ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กรของสังคมในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (Declaration on the Right and Responsibility of individuals Groups and Organs of Society to Promote and Protect Universally Recognized Human Rights and Fundamental Freedoms) ที่มีการกําหนดให้มีการสนับสนุน ส่งเสริม และคุ้มครองผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนในบริบทงานของผู้ต่อต้านการทุจริต
  • จากการศึกษา พบว่ามาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันในประเทศไทย นอกจากได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยมาตรา 62 ได้มีการพัฒนากฎหมายคุ้มครองพยานตามหลักเกณฑ์ในอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ค.ศ. 2000 โดยดำเนินการออกพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ซึ่งมีหลายหน่วยงานได้นําไปปฏิบัติใช้ภายในหน่วยงาน อยางไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันโดยตรง แต่จะกล่าวอ้างเอาหลักการคุ้มครองพยานมาใช้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 โดยมีสํานักงานคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานหลักในการดูแล
  • จากการศึกษา พบว่าประชาชนที่ได้รับการคุ้มครองจากระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการคุ้มครองช่วยเหลือพยาน พ.ศ. 2554 เผชิญกับปัญหาและอุปสรรคซึ่งขัดขวางต่อผลสัมฤทธิ์ในการคุ้มครองพยานตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ สรุปได้ ดังนี้ (1) ปัญหาในขั้นตอนการยื่นคําร้อง การพิจารณา และการยกเลิกคําร้องผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน (2) ปัญหาในขั้นตอนการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน เช่น เจ้าหน้าที่ซึ่งทําหน้าที่ในการคุ้มครองผู้เเจ้งเบาะเเส มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น และ (3) ปัญหาความล่าช้าในกระบวนการพิจารณา 
  • ผลจากการศึกษา ได้จัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย สรุปได้ ดังนี้ (1) หน่วยงานผู้ให้ความคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน ควรเป็นหน่วยงานเดียวที่ทํางานครบกระบวนการ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล (2) หน่วยงานผู้ให้ความคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน ควรจัดทําระบบฐานข้อมูลเจ้าหน้าที่ที่จะเป็นผู้คุ้มครองพยาน เพื่อความปลอดภัยของพยาน (3) ควรปรับปรุงกระบวนการดําเนินคดีอาญาบางประการ เช่น ให้พยานชี้ตัวผู้ต้องหาโดยใช้วิธีที่ไม่ต้องเผชิญหน้า (4) ต้องส่งเสริมกฎหมายและงานของสํานักงานคุ้มครองพยานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มงบประมาณและเพิ่มบุคคลากรที่มีความชำนาญในประเด็นดังกล่าว
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

พิศอําไพ สมความคิด และรัชนี แมนเมธ. (2557). มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน. สถาบันพระปกเกล้า.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2557
ผู้แต่ง
  • พิศอําไพ สมความคิด
  • รัชนี แมนเมธ
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

ราชการไทยไร้คอร์รัปชัน : การสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการแจ้งเบาะแสการทุจริต

ศึกษาปัญหาการแจ้งเบาะแสการทุจริตในราชการไทย โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่จากหน่วยงานรัฐส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐและพฤติกรรมการแจ้งเบาะแสการทุจริต

มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน

ศึกษากลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันและแนวทางเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ข้อเท็จจริง และสิทธิเสรีภาพ

บทความวิจัย | มาตรการในการให้ความคุ้มครองข้าราชการผู้ใช้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ

คดีเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในวงราชการก่อให้เกิดผลเสียต่อการบริหารของรัฐ เพื่อสนับสนุนให้พยานที่เป็นข้าราชการกล้าเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น จึงควรแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อหน้าที่การงานของผู้ให้ข้อมูล

บทความวิจัย | การป้องกันการทุจริต: พยาบาลกับการแจ้งเบาะแสในหน่วยบริการสุขภาพ

การแจ้งเบาะแสของบุคลากรในหน่วยสุขภาพหรือระบบสุภาพเป็นการป้องกันการทุจริต และยังช่วยให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการทำงาน ในการดำเนินการควรมีแนวทางส่งเสริมการแจ้งเบาะแสโดยการปกป้องผู้แจ้งให้เกิดความปลอดภัย และไม่เกิดความยากลำบากในการปฏิบัติงานต่อไป

You might also like...

KRAC Insight | การเพิ่มขีดความสามารถภาครัฐ และลดคอร์รัปชัน ในฐานะ “นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม”

KRAC ชวนทุกท่านร่วมเจาะลึกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก

KRAC Insight x C4 Centre | ความเสี่ยงต่อการเกิดคอร์รัปชันที่แฝงอยู่ในรูปแบบของการจัดซื้อจัดจ้างที่หลากหลาย

รู้หรือไม่? การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบก็ซ่อน “ความเสี่ยงคอร์รัปชัน” ไว้ต่างกัน! KRAC ร่วมกับ C4 Centre มาเลเซีย เปิดเผยประเด็นร้อนจากเวทีประชุมระดับภูมิภาค SEA-ACN ว่าความเสี่ยงคอร์รัปชันซ่อนอยู่ใน PPP, PFI, G2G, Strategic Partnership รวมถึงการจัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

KRAC Extract | คอร์รัปชันหลังเเผ่นดินไหว: โอกาสแห่งการฟื้นตัวหรือประตูสู่การทุจริต

คอร์รัปชันหลังแผ่นดินไหว…เมื่อเงินฟื้นฟูหลั่งไหล แต่ความโปร่งใสกลับหายไป! กรณีศึกษาจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าภัยพิบัติอาจเปิดช่องให้การทุจริตแทรกซึมได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดการหลังภัยพิบัติ บทเรียนนี้ไม่ใช่แค่ของต่างประเทศ แต่คือสัญญาณเตือนที่ไทยก็ต้องระวังเช่นกัน!