การนำ “งานด้านการข่าว”และ“เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาปรับใช้กับสำนักงาน ป.ป.ช.

การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับเจตจํานงของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และค่านิยมของประชาชนที่ไม่เพิกเฉยต่อการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ

เมื่­อพิจารณาถึงประเทศที่ประสบความสําเร็จในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในลําดับต้น ๆ ในระดับโลก พบว่า ประเทศที่­ประสบความสําเร็จในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้มีการนำ “งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาใช้เป็นเครื­องมือหรือกลยุทธ์ในการดําเนินการเชิงรุก

เนื่­องจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้มีพัฒนาการในการกระทําความผิดที่ซับซ้อนมากขึ้น­ นอกจากนี้ ลักษณะการกระทําความผิดมีความเป็นองค์กรอาชญากรรม ­ทําให้วิธีการสืบสวนสอบสวนแบบคดีอาญาโดยทั่วไป ไม่สามารถกระทําการจับกุมผู้กระทําความผิดได้

หากนําวิธีการ ”งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาใช้กับสํานักงาน ป.ป.ช. จะเป็นการส่งเสริมและเป็นมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันส่งผลให้การดําเนินงานของสํานักงาน­ ป.ป.ช. โดยรวมมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น­อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ด้านการข่าวและเทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ จึงสมควรศึกษาวิจัยถึงแนวความคิดและวิธีการของ “งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ”

จากสาเหตุดังกล่าวจึงนำมาสู่วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ

  1. เพื­อศึกษาที่มาแนวความคิดรูปแบบและวิธีการของ “งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ”
  2. เพื่อศึกษาปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่­ตามกฎหมายที­อยู่ในความรับผิดชอบของสํานักงาน ป.ป.ช.
  3. เพื­อศึกษาความเป็นไปได้ในการนํา “งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวน สอบสวนพิเศษ” มาปรับใช้กับสํานักงาน ป.ป.ช.

ผลการศึกษา พบว่า การสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานของสำนักงาน ป.ป.ช. ที่ผ่านมาเผชิญปัญหาในทางปฏิบัติและการนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การศึกษาด้านการข่าวและเทคนิคการสืบสวนพิเศษจะช่วยพัฒนาแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินคดีภายใต้อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด

สรุปประเด็นสำคัญและข้อเสนอของงานวิจัย

  1. จากการวิจัย พบว่า “งานด้านการข่าว” หมายถึง การดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐตามอำนาจหน้าที่ เพื่อสืบค้น ค้นหา รวบรวม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อนำมาขยายผล รวมถึงการต่อต้านข่าวกรอง และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” หมายถึง การดำเนินการเพื่อปกปิดสถานะหรือวัตถุประสงค์ของการสืบสวน โดยอาจใช้กลยุทธ์หลอกล่อ หรือจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น การเฝ้าติดตามโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ การดักฟัง การจัดส่งภายใต้การควบคุม การอำพรางตัว และการล่อให้กระทำผิด
  2. จากการศึกษา พบว่า หน่วยงานในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และสิงคโปร์ ได้นำกฎหมายเกี่ยวกับ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจนประสบความสำเร็จ โดยมี “งานด้านการข่าว” เป็นเครื่องมือสนับสนุนให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานเหล่านี้มีประสิทธิภาพ
  3. จากการศึกษา พบว่า ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยได้นำ “งานด้านการข่าว” และ “เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาใช้ในการปราบปรามอาชญากรรมและดำเนินการด้านความมั่นคง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเพียงพอ

คณะผู้วิจัย ได้จัดทำข้อเสนอแนะ ดังนี้  

  • ควรกำหนดลักษณะและรูปแบบการจัดการองค์กรโดยนำหลักและวิธีการทำงานเชิงสืบสวนสอบสวนมาปรับใช้ในเรื่อง การสังเกตการณ์ การสะกดรอยติดตาม การอำพราง การสัมภาษณ์ลวงถาม การยั่วยุ รวมถึง การใช้เครื่องมือเทคนิคอิเล็กทรอนิกส์และระบบสารสนเทศ ในลักษณะของการติดตาม (Monitoring) การเฝ้าดู (Watching) เพื่อนำมาใช้กับภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช. ควบคู่กับการดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายงานทางลับด้านแหล่งข่าวและผู้ให้ข่าว เพื่อเป็นข้อมูลนำสืบและพิสูจน์การกระทำความผิดต่อไป
  • ปัจจุบัน สำนักงาน ป.ป.ช. ยังไม่เคยมีการส่งตัวหรือแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กับหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในด้านการปฏิบัติงานข่าวกรองและเทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษโดยตรง ดังนั้น จึงสมควรมีโครงการแลกเปลี่ยนความรู้และศึกษาดูงานจากหน่วยงานต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานราชการไทย เช่น สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยงานที่ใช้เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

อนันต์ เพชรใหม่, พล ศรัทโธ, สุทธิ บุญมี, ธนเกียรติ วัฒนศิลป์ และเศรษฐรัช ธรเสนา. (2563). การนำ “งานด้านการข่าว”และ“เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ” มาปรับใช้กับสานักงาน ป.ป.ช.. สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ. 

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2563
ผู้แต่ง
  • นายอนันต์ เพชรใหม่
  • นายพล ศรัทโธ
  • นายสุทธิ บุญมี
  • นายธนเกียรติ วัฒนศิลป์
  • นายเศรษฐรัช ธรเสนา
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

ราชการไทยไร้คอร์รัปชัน : การสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการแจ้งเบาะแสการทุจริต

ศึกษาปัญหาการแจ้งเบาะแสการทุจริตในราชการไทย โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่จากหน่วยงานรัฐส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐและพฤติกรรมการแจ้งเบาะแสการทุจริต

มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน

ศึกษากลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันและแนวทางเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ข้อเท็จจริง และสิทธิเสรีภาพ

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | มาตรการลดโกงที่เข้มข้น อาจ “เพิ่มภาระ” ในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันได้

การสร้างมาตรการป้องกันและตรวจสอบที่เข้มข้นของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกฎระเบียบ หรือการบังคับรายงานข้อมูลต่าง ๆ อาจไม่ใช่คำตอบของการแก้คอร์รัปชัน เพราะกฎระเบียบที่ซับซ้อนอาจกลายเป็นภาระและซ้ำเติมปัญหาเดิม ถึงเวลาคิดใหม่ หาทางออกที่โปร่งใสและยั่งยืน

KRAC Insights I ข้อมูลเปิด ทางออกจากเขาวงกตแห่งการคอร์รัปชัน

” Open Data” กุญแจสำคัญแก้คอร์รัปชันไทย!รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผอ.ศูนย์ KRAC ร่วมบรรยายในงาน BOT Symposium 2025 แค่เปิดเผยข้อมูลโปร่งใส ก็ช่วยประหยัดงบและปิดช่องโกงได้จริง

บทความวิจัย | การบริหารงานของวัดตามหลักธรรมาภิบาล

การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการวัดต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากวัด ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางรากฐานและรักษากฎระเบียบ รวมถึงควรมีการปฏิรูปวัดเพื่อให้เกิดการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบ และมีความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน