
เจาะลึกคอร์รัปชันในระบบสุขภาพแม่และเด็ก
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ผู้หญิงในฐานะเเม่ต้องเผชิญ คือผลกระทบจากการคอร์รัปชันในระบบสุขภาพของเเม่และทารกเเรกเกิดในรูปแบบของการเรียกรับสินบน และการบังคับให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ไม่จำเป็น จนทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการคลอดลูกที่ปลอดภัยได้ ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของแม่และทารกเเรกเกิดเพิ่มสูงขึ้น
ส่งท้ายเดือนแห่งวันแม่ KRAC Extract จะพาไปเจาะลึกสาเหตุที่ทำให้ระบบสุขภาพแม่และทารกแรกเกิดกลายเป็นบริการสุขภาพที่มีความเสี่ยงต่อการถูกเรียกรับสินบนสูงที่สุด ผ่านรายงานเรื่อง “Corruption risks in maternal and perinatal health” โดย Gabriela Camacho (2023)
รูปแบบคอร์รัปชันในระบบสุขภาพแม่และทารกแรกเกิด
Gabriela Camacho (2023) แบ่งประเภทของการคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพแม่และทารกแรกเกิดออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การคอร์รัปชันขนาดใหญ่ (Grand Corruption) ที่มาจากการจัดสรรทรัพยากรซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการให้บริการในระบบสูติกรรม และรูปแบบที่สอง คือ การคอร์รัปชันในจุดให้บริการหรือสถานพยาบาล ซึ่งเป็นบริการด่านหน้าที่ผู้หญิงตั้งครรภ์และครอบครัวต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อฝากครรภ์และคลอดลูก
ส่งผลให้งบประมาณที่ควรนำมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการตั้งแต่การดูเเลผู้หญิงก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ เเละหลังคลอด เพื่อให้แม่และทารกแรกเกิดมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์กลับถูกนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลโดยตรงให้อัตราการเสียชีวิตของแม่เพิ่มสูงขึ้น (Barkhouse et al., 2018)
เช่น ในอุซเบกิสถาน สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่า ศูนย์เฉพาะทางสูติศาสตร์และนรีเวชกรรมแห่งชาติยักยอกเงินประมาณ 1.18 ล้านยูโร ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือในสหรัฐอเมริกา โรงพยาบาลในเครือถูกตั้งข้อหาจ่ายสินบนและค่าคอมมิชชั่นให้กับคลินิกก่อนคลอดเพื่อส่งต่อผู้ป่วยในโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล (Medicaid) กว่า 20,000 คน ไปยังโรงพยาบาลในเครืออย่างผิดกฎหมาย (US Department of Justice, 2016)
การจ่ายเงินนอกระบบ (Informal Payments)
รายงานนี้ มุ่งตีแผ่ประเด็นของการจ่ายเงินนอกระบบ (Informal Payments) หรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะ และการทำหัตถการที่ไม่จำเป็น (Unnecessary Procedures) เช่น การผ่าคลอดที่อาจมีแรงจูงใจจากผลกำไร หรือเพื่อต้องการเร่งกระบวนการคลอดในสถานพยาบาลที่ขาดเเคลนบุคลากร รวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ปฏิเสธการรักษาในกรณีที่ไม่ยอมจ่ายสินบน เช่น การไม่ให้ใช้ยาชาระหว่างการเย็บแผล หรือไม่ยอมให้เห็นหน้าทารกแรกเกิดจนกว่าจะจ่ายเงิน (Schaaf & Topp, 2019)
ทั้งนี้ สาเหตุที่การจ่ายเงินนอกระบบเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในแผนกสูติกรรม ส่วนหนึ่งมาจากลักษณะเฉพาะของการให้บริการด้านนี้ ที่ผู้หญิงมักอยู่ในภาวะเร่งด่วนและมีเวลาน้อยในการเจรจาต่อรอง ทำให้ตกอยู่ในสภาวะเปราะบางต่อการถูกเรียกร้องเงินนอกระบบมากขึ้น จึงส่งผลให้ให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีรายได้น้อยไม่กล้าไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ รายงานยังระบุอีกว่าการจ่ายเงินนอกระบบ (Informal Payments) ในระบบบริการสุขภาพของรัฐ ซึ่งโดยหลักการแล้วควรที่จะให้บริการฟรี มักเกิดขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่ดีกว่าในช่วงก่อนและระหว่างการคลอด หรือในบางกรณีที่ผู้ป่วยไม่ทราบสิทธิการรักษาพยาบาล จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม (Derkyi-Kwarteng et al., 2021) เช่น ในเนปาลและพื้นที่ชนบทของเเทนซาเนีย มีรายงานว่าผู้หญิงต้องจ่ายสินบนให้กับสถานพยาบาลเพื่อคลอดบุตรทั้งที่มีสวัสดิการครอบคลุม (Kruk et al., 2008; Acharya, 2016)
ผลกระทบจากการไม่ยอมจ่ายเงินนอกระบบ ยังส่งผลเสียต่อการให้บริการสุขภาพทั้งระบบในภาพรวม เนื่องจากผู้ให้บริการอาจแข่งขันกันเพื่อดึงดูดผู้ป่วยที่จ่ายเงินมากกว่า เช่น ในซิมบับเว ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่จ่ายสินบนในสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐจะได้รับการดูเเลระหว่างคลอดลูกเป็นลำดับเเรก ๆ (The Guardian, 2020) และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อาจตั้งใจทำให้คุณภาพบริการต่ำลงจนกว่าจะได้รับเงินตอบเเทน
การทำหัตถการที่ไม่จำเป็น (Unnecessary
การทำหัตถการที่ไม่จำเป็น หรือบริการที่ไม่จำเป็นทางการแพทย์ (Unnecessary Procedures) ได้เเก่ การผ่าคลอด (Caesarean Sections) การกรีดช่องคลอด (Episiotomies) และการกระตุ้นให้คลอด (Induction of Labour) (Opiyo, 2020)
แม้จะมีหลักฐานทางการเเพทย์ชี้ว่าการผ่าคลอดส่วนใหญ่มักไม่มีความจำเป็น และมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั้งกับแม่และทารก เเต่กลับพบแนวโน้มของการผ่าคลอดในกลุ่มประชากรที่มีฐานะดีเพิ่มขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแรงจูงใจทางการเงิน อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์แนะนำหัตถการที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาล (Fox et al., 2019)
เช่น ในปี 2017 ฮังการี มีอัตราการผ่าคลอดสูงถึง 35.7% ซึ่งเกินกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำไว้ที่ 15% (Baji et al., 2017) และนอกจากเรื่องเงินเเล้ว การขาดเเคลนเเพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์ก็สามารถนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราการผ่าคลอดได้ เนื่องจากการผ่าคลอดเป็นวิธีที่สามารถเร่งกระบวนการคลอดในสถานพยาบาลที่ขาดเเคลนบุคลากรได้ (Schantz et al., 2020)
งานวิจัยชี้ ต้องปฎิรูปทั้งระบบสุขภาพของแม่และทารกแรกเกิด
ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงของการคอร์รัปชันในระบบบริการสุขภาพเเม่และทารกเเรกเกิด เกิดขึ้นจากปัญหาเชิงโครงสร้างร่วมด้วย เช่น การที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเรียกรับเงินนอกระบบ เนื่องจากขาดเเคลนงบสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ต้องเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ป่วยเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจึงจำเป็นต้องปฏิรูประบบสุขภาพอย่างเป็นระบบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของโรงพยาบาล เช่น การจัดสรรงบประมาณและอัตราเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสม รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการให้สินบนอย่างเข้มงวดและจริงจัง (TI Magyarország & Nöi Érdek, 2019)
ท้ายที่สุดแล้ว รายงานนี้ได้เน้นย้ำให้โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล มุ่งเสริมสร้างเครื่องมือเฝ้าระวังและตรวจสอบความรับผิดชอบในระบบสุขภาพของแม่และทารกแรกเกิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดความเสี่ยงของการคอร์รัปชันได้ เช่น การมีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจนและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ใช้บริการโดยเฉพาะผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเปราะบางสูง
รวมถึงควรจัดให้มีคณะทำงานเชิงรุกที่ให้ความช่วยเหลือ หรือเยียวยาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ เช่น ในยูเครน มีการจัดตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในระบบสูติกรรม เพื่อให้ผู้หญิงสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือคุ้มครองจากการทำหัตถการที่ไม่จำเป็น
ตลอดจนป้องกันการถูกข่มขู่เรียกรับเงินและถูกปฏิเสธการรักษาจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์โดยเฉพาะในด้านการผดุงครรภ์ เพื่อไม่ให้สินบนกลายเป็นค่าผ่านทางสู่การคลอดลูกที่ปลอดภัย
คอลัมน์ “KRAC Extract” สกัดองค์ความรู้ที่จับต้องได้ผ่านการศึกษาสถานการณ์คอร์รัปชันโลกที่จะพาคุณไปสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชันในระดับสากล เจาะลึกรายงานจากแหล่งข้อมูลนานาชาติ และวิเคราะห์ประเด็น Hot ที่โลกกำลังจับตา เพราะคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัว และการเรียนรู้บทเรียนจากต่างประเทศคือหนึ่งในกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
Camacho, G. 2023. Corruption risks in maternal and perinatal health. Informal payments and unnecessary procedures drive mothers away from safe labour. Bergen: U4 Anti-Corruption Resource Centre, Chr. Michelsen Institute (U4 Helpdesk Answer 2023:31)
เรียบเรียงโดย สุภัจจา อังค์สุวรรณ
นักวิจัยอาวุโส ศูนย์ KRAC
หัวข้อ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | แก้คอร์รัปชันต้องเริ่มที่ปัจจัยไหน โครงสร้างหรือค่านิยมที่ผิด ?
ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่หาย แม้จะมีการก่อตั้งหน่วยงานและมีนโยบายออกมาป้องกันและปราบปรามมากมายแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก แล้วต้นเหตุของมันคืออะไร ? ชวนมาดูการวิเคราะห์ปัจจัยการคอร์รัปชันเชิงโครงสร้างภาครัฐ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ต้นเหตุการเสียงบประมาณรัฐหลักพันล้าน
“รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด” เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างรุนแรง ซึ่งการปล่อยให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดส่วนหนึ่งเกิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่รับสินบนและปล่อยปละละเลยรถบรรทุกเหล่านี้
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ปิดช่องโหว่ดุลพินิจ ปิดช่องทางทุจริตในไทย
“ดุลพินิจ” อำนาจรัฐ หรือช่องว่างที่ทำให้เกิดการทุจริต ? KRAC ชวนถอดบทเรียนการแก้ปัญหาโกงจากการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐจากกงานวิจัยเรื่อง การแสวงหาผลประโยชน์ จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ (2560)