KRAC Hot News I ถนนไม่ปลอดภัย เพราะปัญหาคอร์รัปชันที่สั่งสม

ก่อนอื่นทางศูนย์ KRAC ต้องขอร่วมแสดงความเสียใจจากอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ นี่เป็นเหตุการณ์สะเทือนใจสำหรับสังคมไทย เพราะเราสูญเสียทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดทั้งในระดับครอบครัว และประเทศ นั่นคือทรัพยากรมนุษย์

 
แน่นอนว่า เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำขึ้นมาอีก การเรียนรู้ร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาอาจต้องย้อนไปไกลถึงต้นตอ เพื่อให้ประเทศเราไม่หยุดแค่การไล่บี้เจ้าหน้าที่ระดับบุคคลไปตามกรณี แล้วพร่ำบอกแต่ว่า “นี่เป็นปัญหาส่วนบุคคล”
 
ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้วปัญหาเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เป็นปัญหาที่มีความทับซ้อนกันหลายเรื่อง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐไม่กี่คนเท่านั้น แต่นี่เป็นปัญหาโครงสร้างการคอร์รัปชัน ที่ฝังรากลึกมายาวนาน ตั้งแต่การตรวจสภาพรถ มาตรฐานของถนน การกวดขันวินัยจราจร ไปจนถึงการออกใบอนุญาตขับขี่ ฯลฯ
 
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เพียงความรู้สึกนึกคิดที่ล่องลอยอย่างไร้ที่มา แต่คือข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้จากหลากหลายงานวิจัยที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการคอร์รัปชันกับความปลอดภัยบนท้องถนน
 
ยกตัวอย่างรายงานการวิจัยเรื่องการบรรทุกเกินพิกัด ของคุณทศพล ปิ่นแก้ว และคุณอังคณาวดี ปิ่นแก้ว ในปี 2560 ที่ระบุว่าการที่กฎหมายระบุให้การชั่งน้ำหนักต้องมีเจ้าหน้าที่ตรวจชั่ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีอำนาจเชิงดุลยพินิจมาก ลักษณะเช่นนี้จึงเพิ่มโอกาสในการจ่ายส่วยเมื่อมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ประชาชนต้องรับความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นตามมาด้วย
 
ในขณะที่งานวิจัยของ Marianne Bertrand และทีมในปี 2549 ที่ศึกษาประเด็นการคอร์รัปชันในการออกใบอนุญาตขับขี่ในอินเดีย ผลการศึกษาของพวกเขาสะท้อนให้เห็นว่า ผลิตผลของการคอร์รัปชันในกระบวนการออกใบอนุญาตขับขี่ คือ ถนนที่เต็มไปด้วยผู้ขับขี่ที่ไร้คุณภาพ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน
 
งานวิจัยทั้งจากไทยและอินเดียนี้ เป็นเพียงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่าความไม่ปลอดภัยบนท้องถนนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ มีผลสำคัญมาจากปัญหาการคอร์รัปชันทั้งเล็กและใหญ่จากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
ถ้าวันนี้เราอยากแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และไม่ต้องมาคอยถอดบทเรียนจากความสูญเสียของสังคมอย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ วันนี้คงถึงเวลาแล้ว ที่ทุกภาคส่วนต้องหันมาจัดการปัญหาคอร์รัปชันแบบองค์รวมมากขึ้น เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ และลดชื่อเสียเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย
 
สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถอ่านข้อมูลงานวิจัยแบบละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 👉🏻 
ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2567
ผู้แต่ง

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

ผู้จัดการศูนย์ KRAC

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ตัดจบปัญหาคอร์รัปชัน ผ่านการสร้าง Big Data

Big Data มีความสำคัญอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะสามารถนำข้อมูลการใช้จ่ายของรัฐที่ถูกจัดเก็บไว้มาวิเคราะห์หาความเสี่ยงในการคอร์รัปชันได้ หากใช้งานข้อมูลให้เป็น จะช่วยอุดช่องโหว่ความเสี่ยงคอร์รัปชันได้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 3 มุมมองจากผู้รู้ สู่การแก้โกงจากการใช้ดุลยพินิจของรัฐ

เมื่อดุลยพินิจมากเกินไป แก้อย่างไรถึงจะเห็นผล ? ในการกำหนดนโยบายและการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของรัฐต่างก็ต้องมีคนที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเพื่อตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่หลายครั้งการวินิจฉัยกลับไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม หรือเป็นการวินิจฉัยที่เบี่ยงเบนไปตามความพึงพอใจ อคติ หรือเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง จนเกิดเป็นการ “ทุจริต”

KRAC The Experience | EP 4 “Tales of Transparency : Lesson learns from Georgia”

เปิดเผยข้อมูลแบบโปร่งใสอย่างสุดโต่ง คืออะไร ? วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับข้อมูลเปิด (Open Data) มาเล่าให้คุณฟังกับ KRAC The Experience ตอน “Tales of Transparency : Lesson learns from Georgia”

You might also like...

บทความวิจัย : มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ

แนวทางการดำเนินคดีสำหรับผู้ทุจริตการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนากฎหมายการทุจริตการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ

บทความวิจัย : ทางออกการป้องกันและการปราบปรามทุจริตในสังคมไทย

แนวทางแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม รวมทั้งภาคประชาชนในการติดตามและตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐ

บทความวิจัย : แนวทางพัฒนาจริยธรรมนักการเมืองไทย

การประเมินจริยธรรมของนักการเมืองโดยภาพรวมอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น จึงควรมีมาตรการพัฒนาจริยธรรม มาตรการกำหนดคุณสมบัติด้านจริยธรรม และมาตรการกำหนดบทลงโทษในกรณีทำความผิด เพื่อยกระดับจริยธรรมในนักการเมืองให้สูงขึ้น