KRAC Insight | ก่อสร้าง โกงอย่างไร?: สำรวจวิธีโกงตั้งแต่ ก่อ จนสร้าง ผ่านมุมมองของ ’ต่อตระกูล ยมนาค‘

 

ใต้ตึกสวย อาจซ่อนกลโกงไว้มากกว่าที่คิด

 

เมื่อพูดถึงโครงสร้างสถาปัตยกรรมในบ้านเรา หลายคนรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในวิชาชีพ ผ่านการถ่ายทอดแนวคิด วิสัยทัศน์ออกสู่สังคมผ่านสิ่งก่อสร้าง บ้างก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงแรง ลงมือ เพื่อสร้างแบบจากกระดาษสู่อาคาร ตึกรามน้อยใหญ่ให้เป็นจริง

ภายใต้โครงสร้างอันสวยงามเหล่านั้น จะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่หรือไม่ What’s โกงing on EP. 01 – โกงก่อสร้าง บทสัมภาษณ์พิเศษจากรศ. ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม จะพาทุกท่านไปค้นหาปมใต้พรม กับสิ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึง และไม่อยากให้ถูกค้นเจอกับกลวิธีโกง โครงการก่อสร้างสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ เหล่านั้น

ล็อก TOR – กำหนดคุณสมบัติเฉพาะเพื่อให้ “พวกตัวเอง” ได้งาน

เริ่มแรก รศ. ดร.ต่อตระกูล ฉายภาพให้เห็นถึงกลวิธีโกง ตั้งแต่ก่อ จน สร้าง ผ่านตัวแสดงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการเขียนร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference หรือ TOR) การส่งแบบคัดเลือก การควบคุมงาน การก่อสร้าง ตลอดจนการตรวจรับ และเบิกจ่ายงาน โดยใช้โครงการก่อสร้างภาครัฐเป็นแนวอธิบายความสัมพันธ์ของตัวแสดงเหล่านี้

คนเขียนร่าง TOR ในโครงการก่อสร้างภาครัฐ คือ คณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นเพื่อจัดทำร่าง โดยทั่วไปคณะกรรมการจะเป็นผู้ร่วมกำหนดโจทย์ความต้องการของหน่วยงานภาครัฐในร่างขอบเขตของงาน เพื่อเป็นฐานในการคัดเลือกและได้มาซึ่งผู้รับจ้างว่ามีคุณสมบัติและเกณฑ์เฉพาะด้าน ตามที่หน่วยงานต้องการหรือไม่ ทั้งในการจ้างออกแบบ จ้างควบคุมงานก่อสร้าง และจ้างก่อสร้าง

 

ทั้งนี้ การทุจริตในขั้นตอนนี้มักจะมีการระบุเฉพาะเจาะจงคุณสมบัติบางประการหรือที่คุ้นหูกันในคำว่า ‘ล็อคสเปค’ เพื่อกีดกันผู้ที่จะเข้ามาสู่การแข่งขันเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกตัวเอง เช่น การกำหนดคุณสมบัติด้านประสบการณ์ อาชีพ และความเชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีน้อยรายในบริษัททั่วไป เป็นต้น

อีกหนึ่งตัวแสดงที่เป็นผู้อยู่ในจุดเริ่มต้นของงานก่อสร้าง คือ ‘คนออกแบบ’ ที่ได้รับการคัดเลือกผ่านการส่งแบบเพื่อให้คณะกรรมการจ้างออกแบบงานก่อสร้างพิจารณา โดยหลักแล้วการคัดเลือกงานจะเป็นไปตามเกณฑ์ของคณะกรรมการฯ และตัดสินจากโจทย์ความต้องการของหน่วยงานเจ้าของโครงการ

แต่บางรายที่การเสนองานได้รับการคัดเลือกโดยอาศัยความใกล้ชิดและความสัมพันธ์ ผ่านวิธีการล็อคสเปคบางประการ ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อผลลัพธ์ของงานก่อสร้างที่ไม่สามารถสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของหน่วยงานรัฐได้

เงินพิเศษผู้ควบคุมงาน – ที่ทำให้การตรวจงานกลายเป็น “หลับตาข้างหนึ่ง”

ถัดมา คือ ‘ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง’ ซึ่งเป็นอีกตัวแสดงสำคัญที่ รศ. ดร.ต่อตระกูล ชี้ให้เห็นว่า โดยพื้นฐานจะเข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบดูแลการดำเนินงานในพื้นที่ก่อสร้าง การควบคุมคุณภาพด้านความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ การเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้ควบคุมงานบางครั้งถ้าอยากได้งานนั้นจริงๆ ก็จะมีข้อตกลงลับบางอย่างกับเครือข่ายผู้รับเหมา

โดยทั่วไปมักจะเป็น ‘เงินพิเศษ’ ที่ผู้รับเหมาจ่ายให้กับผู้ควบคุมงานเพื่อนำไปจ่ายใต้โต๊ะให้กับคณะกรรมการจ้างควบคุมงานก่อสร้างภาครัฐ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังจากเสนอเงินเพื่อให้ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ควบคุมงานสำเร็จนั้น ในขั้นตอนต่อไปก็จะนำผู้รับเหมาในเครือข่ายที่ตกลงไว้เข้ามาสู่โครงการเพื่อรับงานก่อสร้างต่อไป

นอกจากวิธีหาเงินของผู้ควบคุมงานเพื่อเอาตัวเองเข้ามาสู่โครงการแล้ว อาจมีวิธีการหาเงินได้อีกผ่านการรีดไถจากผู้ออกแบบโดยอ้างว่าเป็นการออกแบบไม่ถูกต้อง และผิดพลาดจนก่อให้เกิดความเสียหาย แต่หากผู้ออกแบบยินยอมจ่ายเงินพิเศษ จะยอมผ่อนผันและปิดตาข้างหนึ่งให้

ซึ่งโดยทั่วไปหากแบบผิดจริงก็จะต้องนำไปสู่การแก้แบบเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดตลอดจนเสียค่าปรับจากกรณีดังกล่าว แต่บางรายอาจไม่ต้องการเช่นนั้น และยินยอมจ่ายเงินที่พวกเขาคิดว่า เป็นเงินเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าปรับจากความเสียหายผิดพลาดให้กับผู้ควบคุมฯ ไป

เทปูนไม่เต็ม เหล็กไม่ตรงแบบ – เพราะผลประโยชน์สำคัญกว่าคุณภาพและความปลอดภัย

สุดท้ายตัวแสดงที่สำคัญอย่าง ‘ผู้รับเหมาที่มารับงาน’  หลังจากจ่ายเงินพิเศษให้กับผู้ควบคุมงานเพื่อนำตนเข้ามาในโครงการได้สำเร็จแล้ว การดำเนินการก่อสร้างก็จะมีการลดทอนคุณสมบัติวัสดุ การดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานการก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่เราคุ้นชินมาตรฐานแบบนี้ด้วยคำว่า

เทปูนไม่เต็ม เหล็กไม่ได้ขนาด สร้างไม่ตรงแบบ เป็นต้น แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือน หลับตาข้างหนึ่ง เมื่อผู้ควบคุมงานกับผู้รับเหมาเอื้อประโยชน์กัน สุดท้ายเมื่อการก่อสร้างจบ ปัญหาที่ปิดบังอำพรางไว้ก็จะเกิดขึ้นตามมา และบางกรณีอาจนำไปสู่การสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สิน จากคำว่า ‘อะลุ้มอล่วย’ ให้กันและกัน

เบิกจ่ายช้า เพราะใต้โต๊ะไม่พอ – จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ทำร้ายทั้งรัฐและประชาชน

อีกหนึ่งประการของการทุจริตคอร์รัปชันในโครงการก่อสร้างภาครัฐ คือ ‘การเบิกจ่ายเงินตามงวดสัญญาจ้าง’ ที่บ่อยครั้งหลายบริษัทรับเหมาก่อสร้าง พร้อมใจกันหลีกเลี่ยงงานภาครัฐ เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยเส้นสายกลไกอุปถัมภ์ในแต่ละขั้นตอนแล้วยังมีเรื่องการเบิกจ่ายล่าช้า โดยรศ. ดร.ต่อตระกูล อธิบายว่า ในการตรวจรับงานจะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาตรวจรับงานตามงวดสัญญา โดยแต่ละการตรวจรับงวดสัญญาบางครั้งก็ค้างเติ่งโดยอาศัยการตรวจสอบงานที่นานกว่าปกติ

โดยบางครั้งผู้รับจ้างที่จะมาขอเบิกจ่ายต้องอาศัยการจ่ายใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่ที่แต่งตั้งขึ้นมาตรวจสอบงานหรือเลขานุการคณะกรรมการเพื่อให้นำเสนอเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการฯ โดยลัดขั้นตอนหรือเร็วกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปคณะกรรมการชุดใหญ่จะตรวจทานประเด็นภาพรวม และลงนามยอมรับโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ระดับเจ้าหน้าที่ที่เสนอเรื่องเข้ามารับ ‘เงินพิเศษ’ มามากน้อยแค่ไหน และสุดท้ายเมื่อเรื่องแดงขึ้นกลับกลายเป็นว่า กรรมการเหล่านั้นต้องมารับผิดจากการกระทำที่เข้าทำนองว่า ‘เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง ดันกลับเอากระดูกมาแขวนคอ’

ป้องกันกลวิธีโกงในงานก่อสร้าง

สุดท้ายของบทสัมภาษณ์พิเศษ รศ. ดร.ต่อตระกูล ได้นำเสนอถึงการป้องกันกลวิธีโกงดังกล่าว โดยพูดถึง 2 ประเด็นว่า สามารถป้องกันได้โดย  ‘การมีผู้สังเกตการณ์อิสระผ่านข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)’ ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ และผู้รับจ้าง

โดยมีผู้สังเกตการณ์อิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบตั้งแต่การกำหนดร่าง TOR เกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมแข่งขัน ที่มาราคากลาง ตลอดจนถึงการตรวจและส่งมอบงาน ซึ่งหากพบเห็นการทุจริตในข้อตกลงจะสามารถดำเนินการแจ้งต่อคณะกรรมการ หรือรายงานต่อสาธารณะ หรือแจ้งต่อคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อย่าง สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตลอดจนหน่วยงานอย่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น

และอีกหนึ่งวิธีที่นำเสนอคือ ‘การมีที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโครงการ หรือ Project Management Consultant (PMC)’ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและตรวจสอบตั้งแต่การเริ่มต้นโครงการ การควบคุมคุณภาพ ราคาที่เหมาะสม

ตลอดจนการติดตามความคืบหน้าของโครงการตั้งแต่ก่อจนสร้าง โดยต่างจากผู้สังเกตการณ์อิสระ ตรงที่ไม่ต้องรอเอกสารหรือรอให้ ‘เรื่องแดง’ ก่อนรายงานเข้าคณะกรรมการ แต่ PMC จะเข้าไปคลุกวงใน รับทราบ และรายงานสถานกาณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในเนื้องานให้กับคณะกรรมการ หรือหน่วยงานเจ้าของโครงการทันที


แม้กลวิธีโกง ‘ก่อสร้าง’ นั้นจะมีหลายรูปแบบ แต่เราก็ต้องตระหนักเพื่อป้องกันวิธีที่หลากหลายเหล่านี้ตามไปด้วย การรู้เท่าทัน การเปิดเผยเพื่อสร้างความโปร่งใสในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขวัฒนธรรมอุปถัมภ์แบบไทย ๆ เพื่อหยุดการก่อสร้างสถาปัตยกรรมที่สร้างความเสียหายผิดพลาด ดังที่เห็นและเป็นมาตามหน้าข่าวในปัจจุบัน

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
30 กรกฎาคม 2568
ผู้แต่ง

เรียบเรียงโดย เสฏฐวุฒิ เกตุแก้ว

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย I ในสังคมที่มีความร่วมมือหรือความไว้เนื้อเชื่อใจกันสูง รัฐจะสร้างประโยชน์จากข้อค้นพบนี้อย่างไร ?

มุมมองของประชาชนต่อหน่วยงานรัฐ หนึ่งกลุ่มจ่ายภาษี อีกกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่พัฒนาบริการสาธารณะให้เกิดประโยชน์ แต่มีหลายครั้งที่โครงการไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น ศาลาสร้างทิ้งไว้ไม่มีคนใช้ จนบางครั้งประชาชนต้องลงแรงทำกันเอง

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | แก้คอร์รัปชันต้องเริ่มที่ปัจจัยไหน โครงสร้างหรือค่านิยมที่ผิด ?

ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่หาย แม้จะมีการก่อตั้งหน่วยงานและมีนโยบายออกมาป้องกันและปราบปรามมากมายแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก แล้วต้นเหตุของมันคืออะไร ? ชวนมาดูการวิเคราะห์ปัจจัยการคอร์รัปชันเชิงโครงสร้างภาครัฐ

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เปลี่ยนนโยบายคลัง ป้องกันคอร์รัปชันด้วยแนวทางเพิ่มความโปร่งใส

KRAC คัดสรรชวนทุกคนมาร่วมศึกษาความโปร่งใสของงบประมาณการคลังของไทย พร้อม 5 แนวทางเพิ่มความโปร่งใสจากงานวิจัย

You might also like...

KRAC Insight | ส่องกฎหมายต่อต้านการให้และเรียกรับสินบน: มีด (ไม่) ลับของสหรัฐอเมริกา

ตั้งแต่เรื่องเงินวัด สีกา ยันการทุจริต “วัดควรบริหารจัดการอย่างไรให้โปร่งใส?” และ “ใครควรรับผิดชอบ?” ชวนหาคำตอบไปกับ KRAC Expert “คุณสุภอรรถ โบสุวรรณ”

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 3 แนวทาง อุดรอยรั่วคอร์รัปชันรัฐวิสาหกิจไทย

“เปิดเลนส์ข่าวกรอง” ชวนสำรวจแนวทางสืบสวนคดีคอร์รัปชันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในคดีที่ซับซ้อน มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง หรือมีความพยายามปกปิดร่องรอยอย่างเป็นระบบ แต่ละประเทศมีแนวทางอย่างไรบ้าง มาดูกัน

KRAC Extract | คอร์รัปชันในระบบสุขภาพแม่และเด็ก: เมื่อสินบนกลายเป็นค่าผ่านทางสู่การคลอดลูกที่ปลอดภัย

ชวนเจาะลึกรายงานเรื่อง “Strengthening anti-money laundering systems in fragile states” ที่ชี้ว่า กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินจะไร้พลัง หากรัฐขาดสถาบันที่เข้มแข็ง และถูกครอบงำทางการเมือง