
ในปัจจุบันปัญหาคอร์รัปชันยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน หลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนจึงต้องร่วมมือเพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ และหนึ่งในความก้าวหน้าที่สำคัญ คือ การริเริ่มโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล (Open Data) และการสร้างมาตรฐานร่วมกันในระดับภูมิภาค
- บทบาทของ Open Data ในการต่อต้านการคอร์รัปชัน (Open Data and Anti-Corruption)
- คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF)
- ประเภทของบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) The Financial Action Task Force (FATF) and PEPs Categories และการเปรียบเทียบนิยามบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) ระหว่างมาเลเซียและไทย (Comparison of Malaysian and Thai definitions of PEPs)
Open Data พื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ
ในยุคที่ความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ ข้อมูลเปิด (Open Data) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญ เช่น ทะเบียนบริษัท ข้อมูลผู้บริหาร และความเชื่อมโยงกับหน่วยงานของรัฐ ช่วยสร้างความโปร่งใสและลดความเสี่ยงของการทุจริต
กลุ่ม Open Data ได้จัดทำ Open Up Guide เพื่อสนับสนุนการใช้ Open Data ให้โปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบข้อมูลและเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น การลงทะเบียนบริษัทและข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับเหมาของรัฐบาล หากบริษัทใดได้รับสัญญาจากภาครัฐ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยประเมินความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต รวมถึงการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมืองเพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด
การผลักดัน Open Data ในระดับภูมิภาค ไม่เพียงช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียน สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาครัฐ ภาคเอกชน และสังคมโดยรวม
ชวนรู้จักมาตรฐานนิยามบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมืองแบบสากล
ข้อมูลเปิด (Open Data) เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) ทีม Open Data ได้ศึกษามาตรฐานการระบุตัวตน จากคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force :FATF) องค์กรระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในความพยายามต่อต้านการทุจริต และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานระดับสากลเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
ตัวอย่างที่ FATF ให้ความสำคัญคือบุคคลที่ดำรงตำแหน่งสาธารณะที่สำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ นักการเมืองระดับสูง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกนำตำแหน่งไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การฟอกเงิน การคอร์รัปชัน หรือการรับสินบน
โดยนิยามของบุลคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) ของ FATF แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- PEPs ต่างประเทศ : บุคคลที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในประเทศอื่น เช่น ผู้นำประเทศ นักการเมือง หรือผู้นำในองค์กรตุลาการ
- PEPs ในประเทศ : บุคคลที่ดำรงตำแหน่งสำคัญภายในประเทศ เช่น รัฐมนตรี สมาชิกสภา หรือผู้บริหารองค์กรของรัฐ
การนิยามและการระบุ PEPs อย่างชัดเจน ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถประเมินความเสี่ยงและป้องกันการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
PEPs ที่ต่างกัน : ข้อแตกต่างของนิยามบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมืองของไทย และมาเลเซีย
แน่นอนว่าข้อมูลเปิด (Open Data) และนิยามของบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันและช่วยให้การตรวจสอบข้อมูลเป็นเรื่องง่าย แต่การจะต่อยอดให้มีประสิทธิภาพในระดับภูมิภาค ต้องเข้าใจในความแตกต่างในการระบุบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs) ของแต่ละประเทศ
ตัวอย่างจากมาเลเซียและไทยมีความคล้ายคลึงกันในหลายประเด็น แต่ก็มีความแตกต่างบางประเด็นในมาเลเซีย นิยามของ PEPs จะสอดคล้องกับมาตรฐานของ FATF ครอบคลุมถึงผู้นำประเทศ นักการเมืองระดับสูง ข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่ทางทหาร ส่วนในประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้กำหนดนิยาม PEPs ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก เช่น บุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญในฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรของรัฐ
นอกจากนี้ นิยามสมาชิกในครอบครัวของ PEPs ในมาเลเซียยังครอบคลุมถึง พ่อแม่ คู่สมรส และญาติทางกฎหมาย ขณะที่นิยามในไทยมุ่งเน้นไปที่พ่อแม่ คู่สมรส และบุตร รวมถึงบุตรบุญธรรม ความแตกต่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการสร้างมาตรฐานร่วมกันในระดับภูมิภาคเพื่อให้สามารถแบ่งปันข้อมูลและร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปรียบเทียบนี้ไม่เพียงช่วยเน้นย้ำถึงจุดแข็งและจุดที่ควรปรับปรุงของแต่ละประเทศ แต่ยังช่วยเปิดโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือและความโปร่งใสในระดับภูมิภาคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าเชิงบวกที่สอดคล้องกับแนวคิดของ Open Data และมาตรฐานของ FATF ที่ได้กล่าวไป
- ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค
หัวข้อ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ตัดจบปัญหาคอร์รัปชัน ผ่านการสร้าง Big Data
Big Data มีความสำคัญอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะสามารถนำข้อมูลการใช้จ่ายของรัฐที่ถูกจัดเก็บไว้มาวิเคราะห์หาความเสี่ยงในการคอร์รัปชันได้ หากใช้งานข้อมูลให้เป็น จะช่วยอุดช่องโหว่ความเสี่ยงคอร์รัปชันได้
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 3 มุมมองจากผู้รู้ สู่การแก้โกงจากการใช้ดุลยพินิจของรัฐ
เมื่อดุลยพินิจมากเกินไป แก้อย่างไรถึงจะเห็นผล ? ในการกำหนดนโยบายและการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของรัฐต่างก็ต้องมีคนที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเพื่อตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่หลายครั้งการวินิจฉัยกลับไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม หรือเป็นการวินิจฉัยที่เบี่ยงเบนไปตามความพึงพอใจ อคติ หรือเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง จนเกิดเป็นการ “ทุจริต”
KRAC The Experience | เรียนรู้เรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านโครงการ Eisenhower Fellowships
“KRAC The Experience” คอนเทนต์ใหม่แกะกล่องของ KRAC ! ที่จะพาทุกคนมาเรียนรู้เรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา ในโครงการ Eisenhower Fellowships 🌎✈️