KRAC Update เล่าข่าวต้านคอร์รัปชัน I ยูกันดาปลุกพลังประชาชน ร่วมแก้ไขคอร์รัปชันเเละยกระดับ CPI ของชาติ

 

วันที่ 11 กรกฎาคม 2025 Beti Kamya หัวหน้าสำนักงานตรวจการแผ่นดินของยูกันดา (Inspectorate of Government of the Republic of Uganda: IGG) ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับคอร์รัปชันอย่างจริงจัง เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันแอฟริกา หัวข้อ “Promoting Human Dignity in the fight Against Corruption” หรือ การส่งเสริมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในการต่อสู้กับคอร์รัปชัน

 

โดย Kamya ได้บอกกับประชาชนว่า

 

 

เธอยังชี้อีกว่า

 

 

ในปี 2024 ยูกันดาได้คะแนนเพียง 26 จาก 100 คะแนน ในดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของ Transparency International ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศทั้งหมดในทวีปแอฟริกาที่อยู่ทางใต้ของทะเลทรายซาฮารา และรายงานของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยูกันดา (IGG) ยังพบว่า ยูกันดาสูญเสียงบประมาณกว่า 10 ล้านล้านชิลลิงต่อปี จากการคอร์รัปชันทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับการสืบสวนคดีทุจริตเองก็ถูกกัดกร่อนลงไปมาก โดยกว่า 80% ของงบทั้งหมดถูกใช้ไปกับรายจ่ายบุคลากรและสาธารณูปโภค และเหลือเพียง 20% เท่านั้นสำหรับการสืบสวนคดีคดีทุจริต !

 

ถึงแม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ในปี 2024 สำนักงาน IGG สามารถปิดคดีคอร์รัปชันได้กว่า 2,218 คดี มีเจ้าหน้าที่รัฐ 1,204 คน ถูกดำเนินการทางวินัย และยังสามารถเรียกเงินคืนจากการสอบสวนได้ถึง 13.3 พันล้านชิลลิง โดย Kamya ยืนยันว่า IGG ยังคงมุ่งมั่นในการต่อสู้กับคอร์รัปชันต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนร่วมต่อสู้ไปกับภาครัฐ

 

หากมองในแง่หนึ่ง แม้ว่าสิ่งที่ Kamya พูดอาจดูเหมือนเป็นการปกป้องภาครัฐ และโยนความรับผิดชอบให้กับประชาชน แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่า

 

โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่มองว่าการคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติ หรือการยกย่องคนรวยโดยไม่ถามถึงที่มาของทรัพย์สิน รวมถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้งบประมาณรัฐ การเรียกร้องให้รัฐออกมาชี้แจงการใช้งบประมาณที่ผิดปกติ และการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส

 

แนวทางนี้ใช้ได้กับหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ปัจจุบันประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูล โดยที่ผ่านมา การเปิดเผยข้อมูลสามารถนำไปสู่การตรวจสอบขยายผลในหลายกรณี เช่น กรณีเสาไฟกินรี กรณีหมูเถื่อน กรณีเครื่องออกกำลังกายหลักแสนของ กทม. ฯลฯ

 

นอกจากนี้ การตรวจสอบถึงที่ไปที่มาถึงความร่ำรวยของเจ้าหน้าที่รัฐเองก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน แม้ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศไทยยังคงมีอุปสรรคอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลกระจัดกระจายกัน สืบค้นข้อมูลยาก หรือเป็นข้อมูล PDF ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์สามารถอ่านได้ (Machine-Readable)

 

แต่เรายังมีองค์กรภาคประชาสังคมที่ช่วยนำข้อมูลเหล่านั้นมาแปลงเป็น Visualized Data ให้อ่านง่ายและไม่ซับซ้อน เช่น เครื่องมือ ACT Ai Politics Data แพลตฟอร์มที่ได้รวบรวมข้อมูลทรัพย์สินของนักการเมืองไทย เงินบริจาคของพรรคการเมือง และความเกี่ยวข้องของธุรกิจกับโครงการภาครัฐ รวมถึงคดีความของนักการเมือง ทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและเชื่อมโยงข้อมูลได้ง่ายขึ้น หากพบความผิดปกติ ก็สามารถร่วมเรียกร้องเพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาคอร์รัปชันให้กับประเทศได้ หากสนใจกดลิงก์แพลตฟอร์มใต้คอมเมนต์ได้เลย !!