ข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนากฏหมายป้องกันตัวแทนอำพราง (Nominee) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมบริการให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย และกฎหมายป้องกันตัวแทนอําพราง (Nominee) โดยมุ่งศึกษาในห่วงโซ่อุปทานทางการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

การทําธุรกรรมของคนต่างด้าวผ่านตัวแทนในลักษณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลที่เข้าทํานิติกรรมแทนตัวการ ซึ่งเป็นคนต่างด้าว โดยอําพรางการกระทําของตัวการ ซึ่งไม่อาจทำนิติกรรมนั้นได้โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือที่เข้าใจกันในสังคมไทยว่าเป็นตัวแทนอําพราง (Nominee) 

ปัญหาตัวแทนอําพราง (Nominee) เกิดขึ้นเเพร่หลายในธุรกิจภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีแนวโน้มจะสร้างความเสียหาย และอาจนํามาซึ่ง หายนะของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในระยะยาว  

งานวิจัยเรื่องนี้ จึงมีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมประเด็ญสําคัญที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินการของตัวแทนอําพราง (Nominee) รวมทั้งการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย และการพัฒนากฎหมายป้องกันตัวแทนอําพราง (Nominee) เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในห่วงโซ่อุปทานทางการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อันจะนำไปสู่การปกป้องความสามารถในการแข่งขัน ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ผลจากการศึกษา ชี้ว่าประเทศไทยได้มีการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นอาชีพที่สงวนสําหรับคนไทยเท่านั้น ไม่ได้เปิดโอกาสให้คนต่างด้าวมาประกอบกิจการแข่งกับประชาชนชาวไทย เว้นเเต่มีการขออนุญาตก่อนตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.  2542 ด้วยเหตุนี้ จึงนําไปสู่การตั้งตัวแทนอําพราง (Nominee) ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
  • ผลจากการศึกษา สามารถสรุปประเด็นของการกระทําตัวแทนอําพราง (Nominee) ได้ 5 ประเด็น ดังนี้ 
    1. พบการนํานักท่องเที่ยวของประเทศตนเองเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเป๋นสกุลเงินไทย และตั้งตัวแทนอําพราง (Nominee) เพื่อเปิดบริษัทนําเที่ยวที่มีลักษณะกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
    2. บริษัทนําเที่ยว มีการจ้างคนต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ แต่มีคนไทยที่มีบัตรอนุญาตประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ด้วย 
    3. แม้ว่าประชาชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวจะเป็นเจ้าของกิจการ แต่ผู้บริหารกลายเป็นผู้ให้เช่าสถานที่เเทน โดยไม่มีอำนาจต่อรอง หรือชาวต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
    4. การซื้อคอนโด หรือซื้อบ้าน โดยใช้การตั้งตัวแทนอําพราง (Nominee) เพื่อให้นักท่องเที่ยวประเทศตนเอง เช่าพักเป็นรายวันได้
    5. สํานักงานทนายความ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการตั้งตัวแทนอําพราง (Nominee) เนื่องจากทนายความเป็นผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย และคอยช่วยเหลือตั้งแต่การเริ่มต้นก่อตั้งบริษัท 
  • ผลจากการศึกษา เสนอว่าควรตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านที่รับจดทะเบียนด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อกํากับดูแลภาพรวมด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ และมีการตรวจสอบการจดทะเบียนนิติบุคคลของนิติบุคคลที่มีคนต่างด้าวถือหุ้น ร้อยละ 51 ขึ้นไป กับนิติบุคคลที่มีคนไทยถือหุ้นร้อยละ 51 ขึ้นไป โดยสามารถตรวจสอบได้ในหน่วยงานเดียว เพื่อนำไปสู่การปราบปรามอย่างจริงจัง
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

ปุ่น วิชชุไตรภพ, กนกกานต์ แก้วนุช, โชคชัย สุเวชวัฒนกูล และเกศรา สุกเพชร. (2561). ข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนากฏหมายป้องกันตัวแทนอำพราง (Nominee) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมบริการให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2561
ผู้แต่ง
  • ปุ่น วิชชุไตรภพ
  • กนกกานต์ แก้วนุช
  • โชคชัย สุเวชวัฒนกูล
  • เกศรา สุกเพชร
หน่วยงาน
หัวข้อ
Related Content

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาต โดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

ศึกษาความพร้อมของไทยในการเข้าเป็นภาคีตามอนุสัญญาองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

โครงการพัฒนากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต

เพื่อศึกษาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 244 มาตรา 245 ประกอบมาตรา 221 เกี่ยวกับการวางระบบการร่วมมือกันทำงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เพื่อกำหนดมาตรการ และวิธีการทำงานร่วมมือกันของ
องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเชิงนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล

You might also like...

KRAC Hot News I ปลดล็อกรังนกจากถ้ำสู่บ้านอย่างไร ให้โปร่งใสไร้ทุจริต

การส่งออกรังนกไทยมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการของผู้บริโภค ธุรกิจรังนกจึงสร้างรายได้มหาศาลให้กับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน แต่หากขาดการกำกับดูแลให้โปร่งใส อาจจะก่อให้เกิดผลเสียมหาศาลกับธุรกิจไทยได้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “ธรรมาภิบาล” หลักการที่ยืดหยุ่น พร้อมสร้างประสิทธิภาพ

เคยสงสัยไหมว่าทำไมหลักธรรมาภิบาลของแต่ละองค์กรถึงดูไม่เหมือนกัน บางองค์กรมี 6 หลัก บางองค์กรมี 8 หลัก ความจริงแล้วหลากหลายองค์กรทั่วโลกล้วนมีการวางแนวคิดเกี่ยวกับธรรมาภิบาลที่ต่างกัน โดยงานวิจัยเรื่อง “โครงการวิจัยพัฒนาฐานข้อมูล องค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาล (ระยะที่ 2)” (2563) ได้ศึกษาเรื่องนี้เอาไว้

โครงการวิจัยพัฒนาฐานข้อมูลองค์ความรู้ด้านธรรมาภิบาล (Phase 2)

การศึกษาเพื่อสร้างตัวชี้วัดสำหรับการประเมินและติดตามการนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในการบริหารจัดการขององค์กรในประเทศไทย พบว่า มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ในระดับมาก และยังสามารถปรับปรุงดัชนีชี้วัดบางตัวเพื่อให้สอดคล้องการทำงานของแต่ละหน่วยงานได้