KRAC สร้างความร่วมมือแบบพหุภาคีกับเครือข่ายภาคประชาสังคมทั้งอาเซียน มุ่งแก้ปัญหาทุจริตระดับภูมิภาค

การแก้ไขปัญหาการทุจริตในระดับภูมิภาคไม่สามารถทำได้เพียงองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือแบบพหุภาคีจากภาคประชาสังคมทั่วทั้งอาเซียน

 
ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) Chandler Institute of Governance และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ได้จัดการประชุมวิชาการระดับชาติขับเคลื่อนความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญภายใต้เครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน ในหัวข้อ “Non-State Actor Roundtable on Anti-Corruption in Southeast Asia” เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน)
 
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ หนึ่ง เพื่อเป็นเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์และกิจกรรมของเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยเฉพาะเครือข่ายภาคประชาสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน (SEA-ACN) เครือข่ายนักข่าวต่อต้านคอร์รัปชัน (JAC) และโครงการ Rule of Law and Development Program (RoLD) ของ TIJ และ สอง เพื่อเป็นพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาล รวมถึงการสร้างเครือข่ายและโอกาสในการสร้างความร่วมมือใหม่ในภูมิภาค
ในปีนี้ ผู้เข้าร่วมได้แบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเชิงลึกภายใต้ 3 หัวข้อ ได้แก่ 
  1. ความโปร่งใสในผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงหรือกรรมสิทธิ์ผลประโยชน์ (Beneficial Ownership) 
  2. ข้อมูลเปิดเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยเน้นที่บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (Politically Exposed Persons: PEPs) 
  3. ความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและการตรวจสอบโครงการของรัฐบาล
โดยผู้เข้าร่วมได้ร่วมกันหารือในหัวข้อดังกล่าว ผ่านการสำรวจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และระบุปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนเสนอแนวทางหรือโอกาสในการทำงานร่วมกับเครือข่ายระดับภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้

กลุ่มที่ 1 : ความโปร่งใสในผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงหรือกรรมสิทธิ์ผลประโยชน์ (Beneficial Ownership)

สมาชิกในกลุ่มได้ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการระบุถึงเจ้าของที่แท้จริงของธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใสและโครงสร้างการถือครองที่ซับซ้อน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังเห็นว่ากรอบของกฎหมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ส่งผลทำให้การสร้างความโปร่งใสของผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงนั้นเป็นเรื่องยาก
 
ทั้งนี้ สมาชิกในกลุ่มยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในหลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดทำแผนภูมิ (Mapping) เพื่อเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และโครงสร้างอำนาจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริง เพื่อช่วยให้สามารถทำความเข้าใจปัญหาและหาทางออกที่เหมาะสม

กลุ่มที่ 2 : ข้อมูลเปิดเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยเน้นที่บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (Politically Exposed Persons: PEPs)

กลุ่มนี้ได้นำเสนอถึงภาพรวมของสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับกรอบนิยามของ ‘บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง’ (Politically Exposed Persons: PEPs) ซึ่งถูกกำหนดโดยคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force: FATF) พร้อมทั้งชี้ให้เห็นความท้าทายหลัก 4 ประการในการเปิดเผยข้อมูล PEPs ได้แก่ 
  1. ความเสี่ยงและข้อจำกัดของข้อมูล
  2. อำนาจที่ไม่สมดุลกันระหว่างประชาชนและภาครัฐ รวมถึงการขาดทรัพยากรที่เพียงพอ
  3. ช่องว่างในการมีส่วนร่วมและการรับรู้
  4. ข้อจำกัดด้านขีดความสามารถในการใช้ข้อมูล PEPs

นอกจากนี้ กลุ่มยังได้เสนอแนะแนวทางเพื่อเสริมสร้างข้อมูลเปิดเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น ทางกลุ่มได้เสนอให้มีการจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์กลาง พร้อมคู่มือแนะนำวิธีการใช้ข้อมูล PEPs เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้อมูลไปใช้เป็นเครื่องมือในการต่อต้านคอร์รัปชันได้ และในระยะยาว ทางกลุ่มได้เสนอให้มีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความยั่งยืนในการขับเคลื่อนประเด็นนี้

กลุ่มที่ 3 : ความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและการตรวจสอบโครงการของรัฐบาล

กลุ่มนี้ได้ระบุว่า ‘ข้อมูลเปิดเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง’ (Open Procurement Data) ในภูมิภาคอาเซียนยังมีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งยังมีข้อยกเว้นในบางหมวดหมู่ของการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การใช้จ่ายด้านการทหาร และการจัดซื้อจัดจ้างในสภาวะฉุกเฉิน นอกจากนี้ สมาชิกในกลุ่มยังชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ การขาดเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ความตระหนักรู้ของประชาชนที่มีอยู่อย่างจำกัด และปริมาณของข้อมูลเปิดที่ไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบติดตาม
 
ทั้งนี้ สมาชิกในกลุ่มยังได้นำเสนอแนวทางในการผลักดันให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน และการทำให้แนวคิดเรื่องการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงผลกระทบของการทุจริตจากการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มยังได้เน้นย้ำถึงโอกาสความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยเสนอให้มีการจัดเวทีความร่วมมือแบบพหุภาคี เพื่อสร้างแรงกดดันให้ประเทศที่ยังไม่มีกฎหมายด้านการเปิดเผยข้อมูลผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงเร่งดำเนินการ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในระบบการจัดซื้อจัดจ้าง
ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้เข้าร่วมยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมองความคิดเห็น และประสบการณ์ของตนเอง หลังจากรับฟังการนำเสนอจากทุกกลุ่ม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในการสร้างความร่วมมือ เพื่อผลักดันการสร้างระบบนิเวศการต่อต้านคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
 
 

โดยผู้สนใจสามารถติดตามกิจกรรมและโครงการอื่น ๆ ของศูนย์ฯ ได้ที่ Facebook : KRAC Corruption

You might also like...