ประธาน ป.ป.ช.เผยสถาบันอ่อนแอ ความโปร่งใสที่จำกัด การแทรกแซงทางการเมือง เป็นต้นเหตุการทุจริตเป็นระบบ เผยปีที่ผ่านมา ป.ป.ช.พัฒนาเทคโนโลยีหลากหลายหนุนการป้องกันทุจริต รวมถึงภูมิสารสนเทศตรวจสอบการครอบครองที่ดิน ย้ำทุจริตไม่มีพรมแดน ต้องอาศัยหลาย ปท.-หน่วยงานร่วมมือปราบปราม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กล่าวเปิดงานประชุมเชิงวิชาการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ครั้งที่ 2 โดยรายละเอียดตอนหนึ่งระบุว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาการทุจริตอย่างเป็นระบบที่มีปัจจัยเอื้อหนุน อาทิ สถาบันที่อ่อนแอ ความโปร่งใสที่จำกัดและการแทรกแซงทางการเมือง การทุจริตข้ามพรมแดนนั้นมีความกว้างขวางมากขึ้นทำให้ทุกประเทศต้องมีมาตรการการจัดการในหลากหลายรูปแบบ หน่วยงานต่อต้านการ atทุจริตหลายหน่วยต้องมีความตระหนักและหาเครื่องมือใหม่ๆด้วยกัน
ประธาน ป.ป.ช.กล่าวต่อไปว่า ป.ป.ช.ของประเทศไทยตระหนักถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่กว้างขวางขึ้นในการต่อสู้กับการทุจริต ในปีที่ผ่านมา ป.ป.ช.พยายามจะหาพัฒนาวิธีการเทคโนโลยีการต่อต้านการทุจริต การสืบสวน การตรวจสอบรวมไปถึงการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน การใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศอาทิ ภาพถ่ายดาวเทียม แผนภูมิ ข้อมูลจีพีเอส เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพื่อเอื้อให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับการทุจริต รวมไปถึงตรวจสอบการครอบครองที่ดินที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจากเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวนั้นสามารถจะนำเอาไปใช้อ้างอิงในศาลได้ ยิ่งไปกว่านั้นทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ยังได้มีการใช้แอปพลิเคชันแผนที่ของทาง ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบขอบเขตของที่ดิน และตรวจสอบหาความผิดปกติ
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวทิ้งท้ายว่าการทุจริตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีพรมแดนและดำเนินการในทางลับ มันเป็นสิ่งที่ต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศ ระหว่างบุคคลและระหว่างองค์กรในการรับมือ การร่วมมือกันระหว่างประเทศจะทำให้เราสามารถปลดล็อกและเรียนรู้ร่วมกันในเรื่องของธรรมาภิบาลและเสริมสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในการต่อต้านการทุจริตได้
7 มิถุนายน 2567
