สัญลักษณ์ มักถูกใช้ในการเรียกสิ่งหนึ่งแทนการเรียกตรงๆ โดยอาจจะเกิดจากการเปรียบเทียบหรือการตีความออกมาเป็นรูปธรรมหรือนามธรรมก็ได้ ซึ่งนับเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งที่มนุษย์ใช้กันนอกเหนือจากการเขียนข้อความ ในสังคมของเรามีการใช้สัญลักษณ์ในการสื่อสารให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่น โลโก้หน่วยงานป้ายไฟจราจร สี หรือตัวอักษร จนเป็นภาพจำของคำว่า “สัญลักษณ์” แต่จริงๆ แล้วการสื่อสารในแคมเปญต่างๆ อย่างการชวนคนมาปลูกต้นไม้นั้นเป็นสัญลักษณ์ในรูปแบบหนึ่งที่แสดงออกมาผ่านการกระทำหรือที่เรียกว่าการกระทำเชิงสัญลักษณ์ มาสื่อสารให้คนที่เห็นแคมเปญเข้าใจว่า การที่คุณปลูกต้นไม้ = คุณรักษ์โลก
แล้วสัญลักษณ์เกี่ยวข้องอะไรกับ “คอร์รัปชัน” จากงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องสัญลักษณ์การต่อต้านคอร์รัปชันในประเทศอินโดนีเซียพบว่า ได้มีการใช้สัญลักษณ์มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับพรรคการเมืองเอง ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ว่ามีพวกเขามีความสุจริต โปร่งใส เพื่อเรียกคะแนนจากประชาชนผ่านวิธีใส่เสื้อสีขาว ไม่รับเงินใต้โต๊ะ ไม่ขึ้นเวทีใหญ่ที่ดูหรูหรา ทั้งการใส่เสื้อสีขาวและการไม่รับเงินใต้โต๊ะนั้นถือเป็นการใช้สัญลักษณ์อย่างชาญฉลาดในการสื่อสารเป็นอย่างมาก มีทั้งการใช้สัญลักษณ์ในรูปธรรมและการกระทำร่วมกันเพื่อสื่อสาร
อีกหนึ่งตัวอย่างเกิดขึ้นในประเทศยูกันดา เมื่อปี 2014 กลุ่ม “Jobless Brotherhood” ได้ใช้ “หมู” ที่มีพฤติกรรมการกินแบบตะกละตะกลาม เป็นสัญลักษณ์แทนนักการเมืองที่กินงบประมาณของแผ่นดิน มาใช้ร่วมกับการกระทำเชิงสัญลักษณ์ โดยทางกลุ่ม Jobless Brotherhood ได้แสดงถึงการต่อต้านคอร์รัปชันด้วยการปล่อยหมูที่มีสีเหลืองเหมือนกับสีของพรรคฝ่ายรัฐบาลเข้าไปในรัฐสภา และติดข้อความอธิบายถึงการทุจริตของพรรคนั้น เพื่อตอกย้ำในเชิงสัญลักษณ์ว่า หมูสีเหลืองที่ถูกปล่อยเข้ามาในรัฐสภาก็คือพวกเค้าที่โกงกินงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งได้สร้างความสนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสัญลักษณ์นั้นถูกมาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเรื่องของคอร์รัปชันที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดี หรือสร้างการขับเคลื่อนประเด็นในสังคม แล้วถ้าเราอยากจะสื่อสารเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันในประเทศไทยเราควรจะใช้สัญลักษณ์อย่างไรในการต่อต้านคอร์รัปชัน
จากงานวิจัยของ U4 Anti-Corruption Resource Centre (Peiffer & Marquette, 2023) พบว่าสัญลักษณ์ หรือ ข้อความที่สื่อว่าคอร์รัปชันเป็นสิ่งไม่ดี (เช่น โปสเตอร์, คำขวัญ, ภาพมือสะอาด, ตาชั่งแห่งความยุติธรรม) อาจใช้ไม่ได้ผลหากข้อความที่จะสื่อสารไม่ได้สอดคล้องประสบการณ์จริงของผู้คน ซึ่งเนื้อหาในงานวิจัยได้ให้คำแนะนำในการใช้สัญลักษณ์ไว้ว่า ควรใช้สัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับการกระทำร่วมกันกับประชาชน เช่น แสดงความร่วมมือระหว่างชุมชนในการป้องกันการคอร์รัปชัน หลีกเลี่ยงการใช้สัญลักษณ์ที่เข้าใจยากไม่เป็นรูปธรรมและพยายามใช้ตัวอย่างในเชิงบวก อย่างเช่น การใช้ภาพลักษณ์ของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อการคอร์รัปชันเพื่อลดมุมมองที่คิดว่าคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติ
ในประเทศไทยมีแพลตฟอร์มหนึ่งที่ทำการสื่อสารด้วยการสร้างความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน มีรูปแบบการสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เข้าใจได้ง่ายเข้ากับบริบทของสังคมนั่นก็คือ “ต้องแฉ” เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชันโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ผ่าน Facebook Page ต้องแฉ และ Line @corruptionwatch “ฟ้องโกงด้วยแชตบอต” โดยคำว่า “แฉ” หมายถึงการตีแผ่ เปิดเผย เปิดโปง ซึ่งเป็นคำที่คุ้นเคยในสังคมและใช้ในบริบทที่ต้องการนำเรื่องที่เป็นความลับมาเปิดเผยสู่สาธารณะให้คนรับรู้นั่นเอง
โดยวิธีการที่ต้องแฉทำอยู่นั้นไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ในเชิงวัตถุหรือรูปธรรมที่จับต้องได้ในการสื่อสาร แต่ใช้การกระทำเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม คือ แฉ เปิดเผย เปิดโปง ร่วมกับการแจ้งเบาะแสการทุจริตเพื่อให้เกิดการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีเคสที่ถูกผลักดันให้เกิดการตรวจสอบมากกว่า 100 เคส มีผู้ติดตามใน Facebook มากกว่า 91,000 คน และยังมีประชาชนมาคอมเมนต์ในเพจอยู่เรื่อยๆ
ด้วยวิธีการนี้ทำให้คนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดแค่ลงมือทำ มีรูปแบบที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ Peiffer & Marquette (2023) ที่เสนอว่า การสื่อสารต่อต้านคอร์รัปชันที่ได้ผลควรเชื่อมโยงกับพฤติกรรมจริงของผู้คน ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลว่าคอร์รัปชันคือปัญหา แต่ต้องแสดงให้เห็นว่า เราสามารถทำอะไรได้หรือพูดถึงคนอื่นว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของการสื่อสารด้วยการกระทำเชิงสัญลักษณ์นั่นเอง
นอกจากต้องแฉแล้วยังมีอีกหลายแพลตฟอร์ม หลายหน่วยงานที่กำลังทำงานในด้านการต่อต้านคอร์รัปชันอยู่ พวกเขากำลังเดินหน้าสู้กับคอร์รัปชันที่กำลังกัดกินประเทศนี้ วิธีการในการสื่อสารจึงมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการส่งสารที่ต้องการสื่อออกไปให้ประชาชนหันมาสนใจในเรื่องคอร์รัปชันมากขึ้น นอกจากการใช้ข้อความแล้วยังมีอีกหลากหลายองค์ประกอบที่สามารถช่วยส่งเสริมการสื่อสารได้ การแสดงท่าทางที่สามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้กับผู้คนให้มาสนใจเรื่องคอร์รัปชันได้นั้นก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้การสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันสามารถพัฒนาไปได้ไกลมากขึ้น สุดท้ายนี้ผมอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในการ “แฉ” เรื่องคอร์รัปชันด้วยตัวของพวกคุณเองผ่านการแจ้งเบาะแสข้อมูลการคอร์รัปชันใน Facebook Page : ต้องแฉ และ Line Chatbot “ฟ้องโกงด้วยแชตบอต” @corruptionwatch ไปพร้อม ๆ กัน
กฤชณรงค์ ดู่อุด
หัวข้อ
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : โอกาสและความสำคัญของการกลับคืนเป็นภาคี TI Thailand
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับภูมิภาคของ Transparency International (TI) การเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้มีนัยสำคัญ แม้ปัจจุบันไทยจะไม่มีภาคีประจำประเทศอย่างเป็นทางการ …
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : เมื่อ ‘งบก่อสร้าง’ ไม่ได้สร้างแค่ถนน แต่สร้างรายได้พิเศษให้บางคนด้วย
จากที่ผมได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในนามนักวิชาการอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ผมถือว่าหน้าที่นี้คือโอกาสสำคัญที่จะได้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และทรัพยากรของประเทศมีอยู่อย่างจำกัด
แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : อัปเดตประชุมวิชาการโลกเรื่องคอร์รัปชัน
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค Co-Founder บริษัท HAND Social Enterprise ได้รับเชิญไปบรรยายในงานประชุมทางวิชาการ Cambridge Economic Crime ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 40 แล้ว ซึ่งงานนี้ถือได้ว่าเป็นงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคอร์รัปชันที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง โดยผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ได้เข้าร่วมบรรยายเกี่ยวกับผลงานวิจัยเรื่องประสิทธิภาพที่แท้จริงของความโปร่งใสในการต่อต้านคอร์รัปชัน ผ่านการศึกษาผลกระทบจากโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Infrastructure Transparency: CoST)