บทความวิจัย | ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการสอบเข้ารับราชการตำรวจ: ศึกษาศูนย์ฝึกอบรม ตำรวจภูธรภาค 7 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

การศึกษายุทธศาสตร์การบริหารจัดการการสอบเข้ารับราชการตำรวจ พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินยุทธศาสตร์ คือ ปัจจัยด้านกฎหมายและปัจจัยด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษายุทธศาสตร์การบริหารจัดการการสอบเข้ารับราชการตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ประชากรผู้ให้ข้อมูล จำนวน 10 คนคัดสรรจากผู้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการสอบ ฝ่ายอำนวยการสอบ และนักเรียนนายสิบตำรวจ

  

ผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้ (1) กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่ดี ช่วยป้องปรามการทุจริต จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและปิดช่องโหว่การทุจริตการสอบ (2) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการสอบอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถตรวจสอบและป้องกันการทุจริตได้ สำหรับข้อเสนอแนะคือ ควรเสริมสร้างกฎหมายให้เข้มงวดขึ้น บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อรู้เท่าทันกลอุบายในการโกง

 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

อรุญ กันพร้อม. (2560). ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการสอบเข้ารับราชการตำรวจ: ศึกษาศูนย์ฝึกอบรม ตำรวจภูธรภาค 7 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 10(2), 1902-1913.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2560
ผู้แต่ง

อรุญ กันพร้อม

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

แนวทางการพัฒนาระบบตรวจสอบภายในกับธรรมาภิบาลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 8 จังหวัด ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน

วิเคราะห์หาแนวทางการพัฒนาระบบการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายใน ให้สามารถสนับสนุนการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีกรณีศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด

รูปแบบการทุจริตและปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ศึกษารูปแบบและปัจจัยเสี่ยงของการทุจริตคอร์รัปชันในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขหรือกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

รูปแบบการทุจริตและปัจจัยที่ก่อให้เกิดการทุจริตในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการทุจริตในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจประกอบด้วย ปัจจัยภายในคือการขาดความสุจริตในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และปัจจัยภายนอก เช่น รายได้ที่ไม่เพียงพอ ระบบอุปถัมภ์ การขาดการกำกับดูแลที่ดี และอิทธิพลของนักการเมือง

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ