ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในวงการธุรกิจเอกชนไทย กับแนวทางแก้ไขและป้องกัน

ศึกษารูปแบบและแรงจูงใจของการคอร์รัปชันในภาคธุรกิจเอกชนไทย รวมทั้งศึกษาการทุจริตในต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหาและเสนอแนวทางการดําเนินการป้องกันการทุจริตในวงการธุรกิจเอกชนไทย

การศึกษาเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบ และแรงจูงใจของการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจเอกชนไทย และศึกษากรณีการทุจริตในรูปแบบต่าง ๆ ในต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์แนวทางแกไขปัญหาสําหรับประเทศไทย รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการดําเนินการป้องกันการทุจริตในวงการธุรกิจเอกชน โดยเป็นการสํารวจและวิเคราะห์พฤติกรรมในการทุจริตคอร์รัปชันในวงการธุรกิจเอกชนไทย รวมถึงองค์ประกอบสําคัญที่เอื้อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันและแรงจูงใจที่ทําให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าว

จากการศึกษา พบว่าการทุจริตในรูปแบบเดิม เช่น การยักยอกทรัพย์ การตกแต่งบัญชี ยังเป็นรูปแบบที่แพร่หลายในการทุจริตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปัจจุบัน ส่วนพฤติกรรมการหลบเลี่ยงภาษี ยังมีอยู่อย่างแพร่หลาย โดยมักดําเนินการควบคู่ไปกับการถ่ายโอนกำไร หรือการโอนย้ายเงิน เพื่อดําเนินธุรกิจแบบนอมินี กฎระเบียบที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีความเข้มงวด ไม่สามารถป้องกันปัญหาได้เท่าที่ควร ดังนั้น การแก้ไขปัญหา จึงควรดําเนินคดีกับผู้กระทําผิดอย่างรวดเร็วฉับไว และกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากการศึกษาแรงจูงใจในการทุจจริตในตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากการทุจริต มีมูลค่าสูงกว่าบทลงโทษตามกฎหมายค่อนข้างมาก และในทางปฏิบัติผู้ที่ได้รับโทษตามกฎหมาย มีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ถูกกล่าวโทษทั้งหมด

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ผลจากการศึกษา พบว่าประเทศไทยมีมาตรการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันค่อนข้างมาก เช่น การตรวจสอบทรัพย์สินก่อนและหลังการเข้ารับตําแหน่ง การกาหนดโทษยึดทรัพย์ฐานร่ำรวยผิดปกติ การบังคับใช้ กฎหมายฟอกเงิน รวมทั้งข้อห้ามไม่ให้ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ใช้ข้อมูลภายในเล่นหุ้น เป็นต้น แต่พฤติกรรมการปกปิดการถือหุ้นของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของตนกลับมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น
  • ผลจากการศึกษา พบว่าสําหรับการทุจริตในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ส่วนใหญ่มักเกิดจากการหลอกลวงผู้บริโภค หรือลูกค้า ซึ่งไม่มีความรู้และประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจเท่าที่ควร บทบาทของภาครัฐในการป้องกันการทุจริตและการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหาย ขึ้นอยู่กับการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแต่ละประเภท ว่าได้มีกฎหมายบังคับใช้โดยตรง และมีการระบุหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบผู้ประกอบการในธุรกิจนั้น ๆ  หรือไม่
  • ผลจากการศึกษาประสบการณ์ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในเกาหลีใต้และฮ่องกง แสดงให้เห็นว่าปัจจัยสําคัญที่นําไปสู่การเปลี่ยนเเปลง คือ แรงกดดันจากประชาชน ซึ่งในกรณีของฮ่องกง เกิดจากความรุนแรงและการแพร่กระจายของการทุจริตคอร์รัปชันที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล ในกรณีของเกาหลีใต้ แรงกดดันมาจากวิกฤตทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลทําให้รัฐบาลต้องดําเนินการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจ จากการที่ธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เรียกว่าแชโบลได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ และได้รับการผ่อนปรนจากข้อบังคับของกฎหมาย
  • ข้อเสนอเเนะต่อรูปแบบเชิงยุทธศาสตร์ของสํานักงาน ป.ป.ช. ในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในภาคเอกชน อาจดําเนินการได้ โดยการผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบ และวิธีการทํางานของหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในภาคธุรกิจเอกชน รวมทั้งการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนและนักลงทุนทั่วไปเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันในภาคเอกชน
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

เดือนเด่น นิคมบริรักษ์, วีรวัลย์ ไพบูลย์จิตต์อารี, พรชัย ฬิลหาเวสส และศิริกาญจน์ เลิศอําไพนนท์. (2554). ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในวงการธุรกิจเอกชนไทย กับแนวทางแก้ไขและป้องกัน. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2554
ผู้แต่ง
  • เดือนเด่น นิคมบริรักษ์
  • วีรวัลย์ ไพบูลย์จิตต์อารี
  • พรชัย ฬิลหาเวสส
  • ศิริกาญจน์ เลิศอําไพนนท
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

ศึกษาความพร้อมของไทยในการเข้าเป็นภาคีตามอนุสัญญาองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 

แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริต : ศึกษากรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด

วิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงต่อการทุจริตของกระบวนการควบคุมน้ำหนักของหน่วยงานรัฐ เเละเสนอมาตรการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกที่มีประสิทธิภาพ พร้อมแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

You might also like...

KRAC Extract | ทรัพย์สินที่ไม่ควรอยู่ในเงามืด: เมื่อความโปร่งใสคือพันธกิจของเจ้าหน้าที่รัฐ

หลายประเทศพัฒนาระบบเปิดเผยรายได้ ผลประโยชน์ และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ตรวจสอบได้ โปร่งใส และลดผลประโยชน์ทับซ้อน KRAC Extract สรุปงานวิจัย “Improving and Enforcing Income, Interest and Asset Declaration Systems” (2024) ที่ชี้แนวทางสร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบในภาครัฐอย่างยั่งยืน

KRAC Hot News I เปิดข้อมูลคาร์บอน หัวใจสำคัญแก้ปัญหามลพิษไทย

ข่าวดี! สภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด วาระ 3 แล้ว กฎหมายสำคัญที่ใช้หลักการ “ผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่าย” เพื่อแก้ PM 2.5 อย่างยั่งยืน หัวใจสำคัญคือการเปิดเผย “ข้อมูลคาร์บอน” ที่โปร่งใส มาตรฐานเดียว และเข้าถึงได้ เพื่อให้รัฐ เอกชน และประชาชนร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

KRAC Insights I การวัดระดับการคอร์รัปชันและอาชญากรรมสำคัญอย่างไร และมีไว้เพื่ออะไร

KRAC ชวนสำรวจวิธีการที่องค์การระหว่างประเทศอย่าง GI-TOC ใช้ในการวัดระดับการคอร์รัปชันในประเทศต่าง ๆ ผ่านการบรรยายพิเศษ โดยคุณ Kristina Amerhauser นักวิจัยอาวุโสจาก GI-TOC ในรายวิชา 2952336 Economics of Anti-corruption คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ