บทความวิจัย | การศึกษาสัญญาณเตือนการทุจริต: กรณีศึกษาสหกรณ์การเกษตรในเขตพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1

สหกรณ์มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน แต่มักจะเกิดปัญหาการทุจริตคอรัปชันของสหกรณ์เป็นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อระบบสหกรณ์ในภาพรวมเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 (สตท.1) ที่พบว่า สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่มีการทุจริตเกิดขึ้นหลายแห่งและมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

 

การศึกษาครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของสัญญาณเตือนการทุจริต กรณีศึกษาสหกรณ์การเกษตรในเขตพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 และเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยในการเกิดทุจริตของสหกรณ์การเกษตร โดยอ้างอิงจากทฤษฎีสามเหลี่ยมทุจริต โดยใช้การศึกษาแบบผสานวิธี (Mixed method) ซึ่งใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเป็นเครื่องมือการวิจัย จากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สอบบัญชีและผู้ช่วยผู้สอบบัญชีสหกรณ์การเกษตรที่เป็นข้าราชการในเขตพื้นที่ สตท.1 

 

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับสัญญาณเตือนการทุจริตในสหกรณ์การเกษตร โดยเฉพาะด้านโครงสร้างการบริหารงานและกิจกรรมดำเนินงาน โดยมีสามพฤติกรรมที่เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ได้แก่ 1) สภาพแวดล้อมและโครงสร้างการควบคุมภายในที่ไม่เพียงพอ 2) พฤติกรรมส่วนบุคคลของบุคลากร และ 3) สัญญาณการปฏิบัติงานด้านการเงินที่มีข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง การวิเคราะห์ปัจจัยการเกิดทุจริตพบว่ามาจากโอกาสที่เปิดกว้างและแรงจูงใจส่วนบุคคล

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

ขวัญกมล ใจกล้า และชนิดา ยาระณะ. (2563). การศึกษาสัญญาณเตือนการทุจริต: กรณีศึกษาสหกรณ์การเกษตรในเขตพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 9(1), 1226.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2563
ผู้แต่ง
  • ขวัญกมล  ใจกล้า
  • ชนิดา  ยาระณะ 
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการศึกษาพรมแดนและช่องว่างความรู้เรื่องคอร์รัปชันและธรรมาภิบาล เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2566-2570

ศึกษาพัฒนาการของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลในประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อแนวทางการสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยในประเด็นคอร์รัปชัน และธรรมาภิบาลในอนาคต

โครงการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบ กลไกและแนวทางการปลูกฝังเจตคติและวัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ศึกษาพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตที่มีผลต่อการป้องกันการทุจริตของไทย และศึกษากรณีของต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อไป

โครงการวิจัยการศึกษาแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

นำเสนอแนวคิดและกิจกรรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันผ่านกระบวนการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | โควิดเป็นเหตุ: สำรวจสถานการณ์ทุจริตที่เพิ่มขึ้นในช่วงโรคระบาด

การระบาดของโควิด-19 นำมาซึ่งวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทุกภาคส่วนทั่วโลก โดยพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าการให้และเรียกรับสินบนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ? อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “รังนก” ก็โกงได้ : ตรวจสอบช่องโหว่กลไกการให้สัมปทานรังนกไทย

ส่องกลไกสัมปทาน เมื่อการทุจริตรังนกอาจทำให้งบรั่วไหล หากไม่มีกลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ แล้วเราจะป้องกันปัญหานี้ได้อย่างไร ? โดย KRAC สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “กระบวนการและการตรวจสอบการให้สัมปทานรังนกในภาคใต้ของประเทศไทย” (2562)

คิดด้วยพลเมือง(See-Think-Cen’) : สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครกันแน่

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขและความชุ่มฉ่ำในเทศกาลแห่งความสุขอย่างเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย ที่เต็มไปด้วยความหมายด้านวัฒนธรรม สังคม วันที่ 13-14 เมษายน ก็ยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันครอบครัวไทยอีกด้วย โดยตลอดช่วงเวลานี้ของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมากมายได้เดินทางกลับบ้านกลับภูมิลำเนาเพื่อไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ไปรวมญาติที่ไม่ได้พบกันนาน หรือไปเล่นน้ำคลายร้อนกัน