บทความวิจัย | การต่อต้านการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากอาสาสมัครร่วมตรวจสอบการบริหารงาน: กรณีศึกษาเปรียบเทียบเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กับเทศบาลเมืองบัวขาว

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีการติดตามและตรวจสอบโดยผู้นำชุมชน ประชาชนทั่วไป และอสต. ขณะที่เทศบาลเมืองบัวขาวมีเพียงการดำเนินการตรวจสอบผ่านประธานชุมชน
 

บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการต่อต้านการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากบทเรียนอาสาสมัครร่วมตรวจสอบการบริหารงานระหว่างเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กับเทศบาลเมืองบัวขาว  โดยใช้วิธีการศึกษาจากการทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างจากกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์และเทศบาลเมืองบัวขาว 

 

ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบวิธีการทำงานของ อสต. ในการตรวจสอบการทำงานของเทศบาลนั้น จะมีการแบ่งหน้าที่การทำงานในแต่ละส่วนเพื่อทำการตรวจสอบการทำงานของเทศบาล มีการประเมินผลงานของเทศบาล ประเมินผลหน่วยงาน การติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการ ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นและเป็นประเด็นที่มีความเป็นรูปธรรมมากที่สุดในการทำงานของอสต. ของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

 

ในการเปรียบเทียบระหว่างเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กับเทศบาลเมืองบัวขาว พบว่า เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีการติดตามตรวจสอบผ่าน 3 ส่วนคือ จากผู้นำชุมชน ประชาชนทั่วไป และ อสต. ขณะที่เทศบาลเมืองบัวขาวนั้นไม่มี อสต. แต่การดำเนินการตรวจสอบผ่านประธานชุมชน ทั้งนี้ ทั้งสองเทศบาลมีผู้นำชุมชนที่มีความกระตือรือร้นในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและต่อต้านการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจากการศึกษาวิจัยในช่วงดังกล่าว ยังไม่ปรากฏการทุจริตในเทศบาลเมืองทั้งสองแห่ง

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

กตัญญู แก้วหานาม และ พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม. 2560. การต่อต้านการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากอาสาสมัครร่วมตรวจสอบ การบริหารงาน: กรณีศึกษาเปรียบเทียบเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กับเทศบาลเมืองบัวขาว. Local Administration Journal, 10(2), 17–43.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2560
ผู้แต่ง
  • กตัญญู แก้วหานาม
  • พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต: การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

เพื่อประมาณการต้นทุน รายรับ การขาดทุน ต้นทุนสวัสดิการสังคมของโครงการรับจํานําข้าวเปลือก และประมาณการผลตอบแทนส่วนเกินที่ตกแก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์การแสวงหาค่าเช่า และศึกษาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 4 แนวทางปลดล็อก “ผู้แจ้งเบาะแส” สู่สังคมที่โปร่งใส

กลไกการแจ้งเบาะแส (Whistleblowing)” คือ หนึ่งในกลไกสำคัญในการต่อต้านการทุจริตโดยมี “ผู้แจ้งเบาะแส” เป็นกุญแจสำคัญ แต่ความเป็นจริงแล้วการสนับสนุนให้คนเข้ามาแจ้งเหตุเป็นเรื่องยากมาก จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ถ้าสื่อไทยมีเสรีภาพมากขึ้น จะช่วยลดการคอร์รัปชันได้หรือไม่ ?

สื่อมวลชนไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่การรายงานข่าว แต่ยังสามารถร่วมแก้ไขปัญหาสังคมและปัญหาการคอร์รัปชันผ่านการเปิดโปงการกระทำผิดของหน่วยงานรัฐได้ ร่วมหาคำตอบว่าเสรีภาพสื่อมวลชนไทยส่งผลต่อระดับคอร์รัปชันในสังคมไทยอย่างไร

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน