โครงการเฝ้าระวังกฎระเบียบของรัฐ (Regulatory Watch)

เฝ้าระวังการออกกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง

จุดมุ่งหมายของโครงการนี้ คือการเฝ้าระวังการออกกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทในการกํากับดูแล และกฎระเบียบ (regulation) ตลอดจนเงื่อนไขของสัญญาสัมปทาน (concession) หรือใบอนุญาต (license) เนื่องจากมีส่วนสําคัญอย่างยิ่ง ต่อการกำหนดกติกาการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรมในตลาด รวมถึงการคุ้มครองผู้บริโภค หรือการให้บริการสาธารณะ ซึ่งมีผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ การเฝ้าระวังกฎระเบียบของหน่วยงานการกํากับดูแลโดยภาควิชาการ จึงน่าจะเป็นกลไกหนึ่งในการปรับปรุงให้กฎระเบียบของหนวยงานการกำกับดูแลเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะมากยิ่งขึ้น 

โดยมีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ดังนี้ 

  1. ติดตามตรวจสอบการออกกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และลดความเสี่ยงจากการที่หน่วยงานกำกับดูแล ถูกยึดกุม และครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์ และติดตามตรวจสอบการออก กฎระเบียบต่าง ๆ ของหน่วยงานกำกับดูแล และการกำหนดเงื่อนไขสัมปทาน หรือใบอนุญาตที่สอดคล้องกับหลักการที่กำหนดในพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  2. แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการนำเอาหลักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มาใช้ในการวิเคราะห์กฎหมาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในวงการการศึกษาในด้านดังกล่าวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
  3. นำเสนอข้อเสนอแนะทางนโยบายในการจัดองค์กรกำกับดูแล และกระบวนการออกกฎระเบียบ ที่มีความโปร่งใส มีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้เสียฝ่ายต่าง ๆ และมีกระบวนการที่ได้มาตรฐาน

คณะผู้วิจัย ได้ดำเนินการเฝ้าระวังการออกกฎระเบียบขององค์กรกํากับดูแลอิสระที่ถูกตั้งขึ้นตามกฎหมาย และองค์กรกํากับดูแลที่เป็นองค์กรภายใต้ฝ่ายบริหาร ดังนี้

  1. คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งมีหน้าที่กํากับดูแลกิจการโทรคมนาคม
  2. คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ซึ่งมีหน้าที่กํากับดูแลบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว 
  3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัด และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีหน้าที่กํากับดูแลด้านการขนส่ง และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีหน้าที่ป้องปรามการผูกขาดทางการค้า

โดยได้จัดทําเป็นรายงาน “เฝ้าระวังกฎระเบียบของรัฐ” จํานวน 21 เรื่อง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับสมบูรณ์ 

เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์, สฤณี อาชวานันทกุล, สมชัย จิตสุชน และเดือนเด่น นิคมบริรักษ์. (2551). เฝ้าระวังกฎระเบียบของรัฐ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2551
ผู้แต่ง
  • สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์
  • สฤณี อาชวานันทกุล
  • สมชัย จิตสุชน
  • เดือนเด่น นิคมบริรักษ์
หน่วยงาน
หัวข้อ
Related Content

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

ศึกษาความพร้อมของไทยในการเข้าเป็นภาคีตามอนุสัญญาองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

You might also like...

KRAC Insight | เมื่อวัดต้องมีระบบ: เพราะศรัทธาต้องการมากกว่าแค่ความเชื่อ

ตั้งแต่เรื่องเงินวัด สีกา ยันการทุจริต “วัดควรบริหารจัดการอย่างไรให้โปร่งใส?” และ “ใครควรรับผิดชอบ?” ชวนหาคำตอบไปกับ KRAC Expert “คุณสุภอรรถ โบสุวรรณ”

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | จากศรัทธาสู่เงินทอน เมื่อวัดกลายเป็นแหล่งฟอกเงินทุจริต

เมื่อศรัทธาและเงินสนับสนุนกลายเป็นช่องทางฟอกเงิน ค้นพบเบาะเเสสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงในการหมุนเวียนเงินผ่านบัญชีวัดเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบได้ในบทความนี้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “เดนมาร์ก” ประเทศที่ยืนหนึ่งเรื่องความโปร่งใส แบบไม่พึ่งพาหน่วยงานต่อต้านทุจริต

หากพูดถึงการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน หลายคนคิดว่าจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่นี้โดยตรง แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในประเทศที่ติดอันดับโปร่งใสเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง “เดนมาร์ก” กลับไม่มีหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชัน โดยเฉพาะแบบประเทศไทย