โครงการวิจัยการศึกษาแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

นำเสนอแนวคิดและกิจกรรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันผ่านกระบวนการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

งานวิจัยเรื่องนี้ มุ่งศึกษาเพื่อสร้างความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ช. และภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม โดยใช้กรอบแนวคิดการอภิบาลผ่านการร่วมมือ (Collaboration Governance) เป็นกรอบทฤษฎีในการศึกษาเรื่องนี้ รวมถึงได้ศึกษาวิวัฒนาการความร่วมมือของสำนักงาน ป.ป.ช. กับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้การแสวงหาความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ยาก

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ในส่วนของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คณะผู้วิจัย ได้จัดทำขึ้นตามแนวทางการอภิบาลผ่านการร่วมมือ (Collaboration Governance) โดยนำ  K-PACT หรือ Korea Pact ซึ่งเป็นลักษณะสัญญาประชาคมที่จะมีการร่วมมือในสองระดับ คือ สภาระดับชาติ และสภาเครือข่ายของภาคส่วนต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในกรณีของไทยเป็น T-PACT หรือ Thailand Pact เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของไทย โดยรายละเอียดข้อเสนอของตัวแบบที่ได้ดำเนินการศึกษา ระบุว่าสำนักงาน ป.ป.ช.  ควรจะมีหน่วยงานเพิ่มขึ้นอีก 3 หน่วยงาน เพื่อทำหน้าที่นอกเหนือจากงานที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน ดังนี้
    1. งานด้านความร่วมมือ ได้แก่ (1) งานร่วมมือทั่วไป ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในรูปของสำนักเลขาธิการสภาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (2) งานร่วมมือในการจัดหาทุนให้กับกองทุนสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และ (3) งานร่วมมือในการจัดหางบประมาณ และแนวทางสร้างแรงจูงใจให้แก่พยานและผู้แจ้งเบาะแส เพื่อให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ สามารถปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้นโยบายของสำนักงาน ป.ป.ช.

    2. งานสารสนเทศ ได้เเก่ การดูแลเว็บไซต์กลาง เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและมีจำนวนมากพอที่จะจัดการกับกรณีทุจริตได้อย่างทันท่วงที

    3. งานวิชาการที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อเผยแพร่ให้สมาชิกในเครือข่ายทั้งหมดได้ทราบ

  • ผลจากการศึกษา ได้ระบุส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ การให้ความคุ้มครองแก่ผู้แจ้งเบาะแสและพยาน รวมทั้งการสร้างแรงจูงใจแก่พยาน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส และเข้ามาเป็นพยานมากขึ้น หากสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินงานได้ตามตัวแบบดังกล่าวนี้ทั้งหมด จะเป็นการสร้างความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็ง
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

อภิชัย พันธเสน. (2550). โครงการวิจัยการศึกษาแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต. สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2550
ผู้แต่ง

อภิชัย พันธเสน

หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

บทความวิจัย | การบริหารงานของวัดตามหลักธรรมาภิบาล

การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการวัดต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากวัด ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางรากฐานและรักษากฎระเบียบ รวมถึงควรมีการปฏิรูปวัดเพื่อให้เกิดการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบ และมีความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน

บทความวิจัย | กระบวนการขับเคลื่อนเครือข่ายการมีส่วนร่วมภาคประชาสังคม อปท. และสถานศึกษาในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลสู่สังคมปลอดคอร์รัปชันใน จ. นครราชสีมา

ศึกษากรณีศึกษาตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน และตำบลพระพุทธ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อหารูปแบบที่ปฏิบัติได้จริงในการสร้างสังคมปลอดคอร์รัปชัน พบว่า ต้องอาศัยการมีผู้นำที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และทุนทางสังคมที่เข้มแข็ง ได้เเก่ การมีธรรมนูญชุมชนและใช้นิทานคุณธรรมเพื่อปลูกฝังเยาวชน

การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการของกลุ่มประเทศสามเหลี่ยมทองคำ

ธรรมาภิบาลในสามเหลี่ยมทองคำ วิเคราะห์แนวทางการบริหารราชการของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพัฒนาระบบราชการไทย เสริมสร้างความร่วมมือชายแดน และรักษาเสถียรภาพภูมิภาคอย่างยั่งยืน

 การเพิ่มประสิทธิภาพภารกิจป้องกันการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด

การดำเนินภารกิจป้องกันการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค และป.ป.ช. ประจำจังหวัด มีความท้าทายในการดำเนินงานป้องกันการทุจริตโดยเผชิญปัญหาการวางแผน ประเมินผล และการวัดผลที่ไม่ตรงจุด ทำให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

You might also like...

บทความวิจัย | การบริหารงานของวัดตามหลักธรรมาภิบาล

การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการวัดต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากวัด ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางรากฐานและรักษากฎระเบียบ รวมถึงควรมีการปฏิรูปวัดเพื่อให้เกิดการบริหารที่มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบ และมีความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน

KRAC Hot News I จาก “ป้าข้างบ้าน” สู่การแจ้งเบาะแส โอกาสการต่อต้านคอร์รัปชันของไทย

คนไทยขึ้นชื่อว่าใส่ใจและช่างสังเกต แต่ที่ผ่านมาเรื่องราวการโกงมักจบแค่ซุบซิบกัน ไม่ได้ก้าวไปสู่การแจ้งจริง วันนี้กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก ของ ป.ป.ช. เข้ามาคุ้มครองผู้กล้าเปิดโปงทุจริต ป้องกันการฟ้องปิดปาก และช่วยเหลือด้านคดี ทำให้เราไม่ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป

KRAC Extract | ความกล้าหาญที่ไม่ควรถูกคุกคาม: เมื่อกลไกคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคือหลักประกันของสังคมโปร่งใส

การเปิดโปงคอร์รัปชันคือความกล้าหาญที่ต้องแลกด้วยความเสี่ยง ทั้งการถูกกีดกัน ข่มขู่ หรืออันตรายถึงชีวิต เราจะปกป้องผู้เปิดโปงและทำให้การรายงานทุจริตปลอดภัยได้อย่างไร ชวนอ่านจากรายงานเรื่อง Physical protection mechanisms for people who report corruption