KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ต้นเหตุการเสียงบประมาณรัฐหลักพันล้าน

“รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด” ปัญหาใหญ่บนท้องถนน

รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด” เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างรุนแรง เพราะถนนและสะพานที่รองรับน้ำหนักเกินพิกัดจะทำให้สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ชำรุดเร็วกว่าที่ควร นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนที่ใช้รถใช้ถนน ซึ่งการปล่อยให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดส่วนหนึ่งเกิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่รับสินบนและปล่อยปละละเลยรถบรรทุกเหล่านี้ 

 

เป็นที่มาของงานวิจัย เรื่อง “แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริต: ศึกษากรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด”  (2560) โดยทศพล ปิ่นแก้ว และคณะ ที่ได้ศึกษาและวิเคราะห์ความเสี่ยงการทุจริตของกระบวนการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุก โดยใช้เอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึก การอภิปรายกลุ่มย่อย การรับฟังความคิดเห็น และการเก็บข้อมูลทางสถิติ  

สินบนสะพัด เพราะกฎหมายยังมีช่องว่าง

จากการศึกษา พบว่า การทุจริตที่ปล่อยให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกินเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายสินบนหรือส่วยให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจชั่งน้ำหนัก เช่น การจ่ายส่วยรายเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจเพื่ออนุญาตให้รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินวิ่งผ่านไปโดยไม่ต้องตรวจสอบน้ำหนัก ทำให้ผู้ประกอบการที่จ่ายส่วยสามารถบรรทุกสินค้าจำนวนมากเกินกว่ากฎหมายกำหนดหลายเท่าตัว

 

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกฎหมายควบคุมน้ำหนักบรรทุกที่มีช่องว่างทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดย พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2549) ได้ระบุโทษสำหรับการบรรทุกเกินพิกัดไว้ในมาตรา 61 ผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่การบังคับใช้กฎหมายนี้ในทางปฏิบัติพบว่า ศาลมักใช้ดุลพินิจผ่อนผันโทษ เช่น อาจให้รอลงอาญาหรือสั่งให้ทำงานบริการสังคมแทนการจำคุก

 

โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นลูกจ้างที่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายจ้าง จึงทำให้โทษที่บังคับใช้ไม่สามารถควบคุมการบรรทุกน้ำหนักเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ​ และการลงโทษมักจำกัดเพียงแค่คนขับรถหรือผู้ควบคุมยานพาหนะ โดยไม่ครอบคลุมถึงเจ้าของบริษัทหรือผู้ประกอบการที่อยู่เบื้องหลังการสั่งให้บรรทุกน้ำหนักเกิน ส่งผลให้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในขณะที่ความเสียหายเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ​

งานวิจัยชี้ หากปล่อยไว้ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี

งานวิจัยได้ทำการคำนวณความเสียหายจากการบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างละเอียด โดยใช้ข้อมูลการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกในช่วงปี 2556-2558

 

พบว่า มีรถบรรทุกจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรถบรรทุกเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อถนนและสะพานรวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี

 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นทันทีแต่สะสมไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่รถบรรทุกเกินพิกัดวิ่งผ่าน จนกระทั่งถนนเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา โดยค่าใช้จ่ายนี้กลายเป็นภาระที่ผู้เสียภาษีต้องแบกรับแทนที่ผู้ประกอบการจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง  

ลดปัญหาการทุจริตโดยใช้ระบบตรวจชั่งน้ำหนักอัตโนมัติ 

จากความเสียหายที่เกิดขึ้น งานวิจัยได้นำเสนอแนวทางเพื่อลดปัญหาการทุจริตในการบรรทุกน้ำหนักเกินโดยการใช้ระบบตรวจชั่งน้ำหนักอัตโนมัติ Weigh-in-Motion (WIM) และ Bridge Weigh-in-Motion (B-WIM)

 

ระบบนี้ช่วยให้สามารถตรวจสอบน้ำหนักของรถบรรทุกในขณะที่เคลื่อนที่โดยไม่ต้องหยุดชั่งน้ำหนัก ซึ่งจะช่วยลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ ลดโอกาสในการเกิดการทุจริตและยังทำให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำสูง

 

อีกแนวทางที่แนะนำ คือ การเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการบรรทุกน้ำหนักเกินตามน้ำหนักจริงของการบรรทุก ซึ่งค่าธรรมเนียมที่เก็บจะถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพาน เพื่อให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ตนเองก่อ ซึ่งจะช่วยลดภาระการซ่อมแซมของรัฐและเพิ่มความยั่งยืนในการจัดการทรัพยากรสาธารณะ นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกับการเก็บข้อมูล GPS ที่บังคับใช้ในรถบรรทุกจะทำให้สามารถตรวจสอบการบรรทุกน้ำหนักเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมได้

 

เราจะเห็นว่าการบรรทุกน้ำหนักเกินไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก และเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งต้องแก้จากการปิดช่องว่างการทุจริตของเจ้าหน้าที่ และรัฐต้องมีแนวทางในการตรวจสอบ รวมถึงประชาชนอย่างเราก็ควรมีบทบาทในการช่วยสอดส่องเพื่อลดปัญหานี้ไม่ให้เกิดขึ้น

 

งานวิจัยเรื่อง “แนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริต: ศึกษากรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด” (2560) จัดทำโดยทศพล ปิ่นแก้ว และคณะ ยังมีข้อมูลรายละเอียดของความเสียหายหรือรายละเอียดของรูปแบบการทุจริตที่น่าสนใจ โดยสามารถอ่านสรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัยได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

คอลัมน์ “KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย” เป็นบทความเล่างานวิจัยไทยด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน ที่หยิบยกหนึ่งในประเด็นของงานวิจัยในมุมมองของผู้ปฏิบัติการ เพื่อปูพื้นฐานความรู้และความเข้าใจเรื่องการคอร์รัปชัน และการต่อต้านคอร์รัปชันในมิติต่าง ๆ ภายใต้บริบทของประเทศไทย

ที่มา

ทศพล ปิ่นแก้ว และอังคณาวดี ปิ่นแก้ว. (2560). รายงานวิจัย เรื่องแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริต : ศึกษากรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2568
ผู้แต่ง
  • ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค
หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ต้นเหตุการเสียงบประมาณรัฐหลักพันล้าน

“รถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด” เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างรุนแรง ซึ่งการปล่อยให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดส่วนหนึ่งเกิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่รับสินบนและปล่อยปละละเลยรถบรรทุกเหล่านี้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ปิดช่องโหว่ดุลพินิจ ปิดช่องทางทุจริตในไทย

“ดุลพินิจ” อำนาจรัฐ หรือช่องว่างที่ทำให้เกิดการทุจริต ? KRAC ชวนถอดบทเรียนการแก้ปัญหาโกงจากการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐจากกงานวิจัยเรื่อง การแสวงหาผลประโยชน์ จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ (2560)

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ประเทศมหาอำนาจ มีแนวทางแก้ปัญหาคอร์รัปชันท้องถิ่นอย่างไร ?

ชวนศึกษารูปแบบองค์กรปกครองท้องถิ่นสหรัฐฯ หนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกที่มีทั้งการเมืองที่มั่นคง เศรษฐกิจที่เข้มแข็ง รวมทั้งมีอิทธิพลต่อโลกในหลายด้าน เช่น วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการคอร์รัปชันได้ดีเป็นอันดับที่ 24 ของโลกจากการจัดอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริตขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ

You might also like...

KRAC The Experience | EP.9 Fight Together! : The Anti-Corruption Ecosystem

การสร้างระบบนิเวศเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชันมีความสำคัญอย่างไร ? ชวนดู แนวคิดความร่วมมือในการสร้างระบบนิเวศเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ กับ KRAC The Experience ตอน “Fight Together ! : The Anti-Corruption Ecosystem”

KRAC Insight | Data Standard: การสร้างมาตรฐานข้อมูล ที่ต่อยอดสู่การต่อต้านคอร์รัปชัน

KRAC ชวนฟังทีม Open Data ในเครือข่าย SEA-AC เล่าถึงการจัดการข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน (Data Standard) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงข้อมูลของบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง (PEPs)

KRAC Insight | สู่สังคมโปร่งใส ตรวจสอบได้ เกาหลีใต้ทำอย่างไรให้การคอร์รัปชันลดลง

KRAC ชวนดูบทเรียนว่าเกาหลีใต้ทำอย่างไรให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ กับ คุณเสกสรร อานันทศิริเกียรติ สมาคมไทยคดีศึกษาแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (KATS) ที่มาอธิบายสถานการณ์ทางการเมืองของเกาหลีใต้ในช่วง 2- 3 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงพาไปย้อนชมประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเกาหลีใต้ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้