KRAC The Experience | EP 2: Government & Open Data: The Key to Effective Governance

ข้อมูลเปิดสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาได้… แต่ทำอย่างไร ? วันนี้เรามีเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังกับ KRAC The Experience ตอน “Government & Open Data: The Key to Effective Governance

การเดินทางของ ผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) ไปยังสหรัฐอเมริกาผ่านการได้รับทุน Eisenhower Fellowships 2024

เป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความรู้และวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ในการใช้ข้อมูลเปิด (Open Data) เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชันและส่งเสริมความโปร่งใสในภาครัฐ การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ อาจารย์ต่อภัสสร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชันด้วยข้อมูลเปิด แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความคิดและประสบการณ์ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการบริหารจัดการในอนาคต

โดยพบว่าในแต่ละเมืองของสหรัฐฯ ได้ให้ความสนใจกับข้อมูลเปิดเป็นอย่างมาก เพราะสามารถนำข้อมูลเปิดต่าง ๆ ไปใช้ต่อยอดได้จริง อย่างเช่น เมืองซีแอตเทิล (Seattle) ซึ่งเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของเมืองที่มีการใช้ข้อมูลเปิดเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนานโยบายสาธารณะ เนื่องด้วยภายหลังจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางเทศบาลนครซีแอตเทิลได้มีการประเมินผลกระทบและเห็นถึงความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของเมือง จึงได้มีการนำข้อมูลเปิดมาใช้ในการวางแผนและออกแบบนโยบายสาธารณะ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ เช่น การจัดสรรทรัพยากรในการให้บริการสาธารณะในลักษณะที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนมากขึ้น ผ่าน โครงการ “The Open Data Program” (https://data.seattle.gov)

โครงการดังกล่าว ทำให้การใช้ข้อมูลเปิดในเมืองซีแอตเทิลมีความน่าสนใจที่การนำข้อมูลมาปรับใช้ในการพัฒนานโยบายแบบมีส่วนร่วม ซึ่งทำให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในกระบวนการตัดสินใจของเทศบาลนครซีแอตเทิลเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ การวิจัย และการปรับปรุงการจัดการประสิทธิภาพภายใน อีกทั้งยังทำให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นในภาครัฐเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ข้อมูลเปิดยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนและภาคการศึกษา ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ เมืองบอสตัน (Boston) ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลเปิดในการวิเคราะห์และพัฒนานโยบาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การใช้ข้อมูลเปิดในการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยมีแนวคิดว่าข้อมูลเปิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่การวิเคราะห์ข้อมูลให้ลึกซึ้งและสอดคล้องกับบริบทของเมืองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเปิดที่มีความแม่นยำ จะช่วยให้เมืองสามารถวางแผนและปรับปรุงนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชนและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัด คือ โครงการ “Analyze Boston” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลของภาครัฐจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ภาคการคมนาคมและการขนส่ง ภาคการศึกษาสาธารณะ ภาคสาธารณสุข ภาคสิ่งแวดล้อม และภาคความปลอดภัยสาธารณะ มาใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อการนำข้อมูลเปิดไปใช้ต่อยอดในการพัฒนาเมืองในด้านต่าง ๆ ตามที่มีการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานข้างต้น โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ มีส่วนช่วยทำให้เทศบาลนครบอสตันสามารถตัดสินใจและวางแผนการปรับปรุงพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะมีข้อมูลที่มีคุณภาพสูงในการช่วยสนับสนุนให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน

ความสำคัญของข้อมูลเปิดที่มีต่อการพัฒนา ไม่ใช่เพียงแค่การเปิดเผยข้อมูล แต่ยังต้องมีการวิเคราะห์และการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ การสร้างความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการตัดสินใจของภาครัฐก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยทำให้การบริหารจัดการและการพัฒนานโยบายสาธารณะมีความยั่งยืนและเป็นธรรมมากขึ้น โดยอาศัยการใช้ข้อมูลเปิดที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างมีคุณภาพ

ทั้งนี้ การนำแนวคิดและประสบการณ์จากสหรัฐฯ มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้การปรับปรุงกระบวนการทำงานของภาครัฐของไทยมีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อภาครัฐมากยิ่งขึ้น และทำให้การต่อต้านการคอร์รัปชันของประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน



ในครั้งนี้ อาจารย์ต่อภัสสร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลเปิด (Open Data) และการนำไปปรับใช้ในการพัฒนาเมืองผ่านโครงการต่าง ๆ แล้วประเทศอื่น ๆ จะมีเหตุการณ์หรือประเด็นเกี่ยวกับข้อมูลเปิดอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ? ติดตามตอนต่อไปได้ใน “KRAC The Experience” ที่ KRAC Corruption เพื่อร่วมเรียนรู้การนำข้อมูลเปิดมาใช้ในการต่อต้านคอร์รัปชันไปด้วยกัน

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
4 ตุลาคม 2567
ผู้แต่ง

ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ตัดจบปัญหาคอร์รัปชัน ผ่านการสร้าง Big Data

Big Data มีความสำคัญอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะสามารถนำข้อมูลการใช้จ่ายของรัฐที่ถูกจัดเก็บไว้มาวิเคราะห์หาความเสี่ยงในการคอร์รัปชันได้ หากใช้งานข้อมูลให้เป็น จะช่วยอุดช่องโหว่ความเสี่ยงคอร์รัปชันได้

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 3 มุมมองจากผู้รู้ สู่การแก้โกงจากการใช้ดุลยพินิจของรัฐ

เมื่อดุลยพินิจมากเกินไป แก้อย่างไรถึงจะเห็นผล ? ในการกำหนดนโยบายและการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของรัฐต่างก็ต้องมีคนที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเพื่อตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่หลายครั้งการวินิจฉัยกลับไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม หรือเป็นการวินิจฉัยที่เบี่ยงเบนไปตามความพึงพอใจ อคติ หรือเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง จนเกิดเป็นการ “ทุจริต”

KRAC The Experience | เรียนรู้เรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านโครงการ Eisenhower Fellowships

“KRAC The Experience” คอนเทนต์ใหม่แกะกล่องของ KRAC ! ที่จะพาทุกคนมาเรียนรู้เรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา ในโครงการ Eisenhower Fellowships 🌎✈️

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ