วันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา Integrity Authority หน่วยงานอิสระในประเทศฮังการี ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินของรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) ได้แถลงรายงานประจำปี 2024 ซึ่งกล่าวถึงความสำเร็จตลอดปีที่ผ่านมา รวมถึงแผนการนำ AI มาใช้ในการต่อต้านคอร์รัปชันในอนาคต
ในแถลงการณ์ Integrity Authority ได้รายงานว่า ปี 2024 ที่ผ่านมา หน่วยงานได้รับเรื่องและตรวจสอบกรณีทุจริตมากมายซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากมีการจัดการคดีเกี่ยวกับการทุจริตและการใช้งบประมาณจากสหภาพยุโรปอย่างไม่ถูกต้องเพิ่มเป็นสองเท่าจากปีที่ผ่านมา
โดยตลอดปี 2024 Integrity Authority ได้ดำเนินการการสอบสวนคดีใหม่ 25 คดี และปิดคดีไปแล้ว 21 คดี โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเงินทุนจาก EU มูลค่ากว่า 280 ล้านยูโร รวมถึงมีการตรวจสอบความผิดปกติ (ที่ยังไม่เปิดเป็นการสอบสวนเต็มรูปแบบ) เพิ่มเติมอีก 26 คดี รับเรื่องร้องเรียน 9 คดี อีกทั้งยังเสนอข้อแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตต่อรัฐบาลรวมทั้งสิ้น 89 ข้อ
นอกจากนี้ หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจในรายงานคือ การลงทุนพัฒนา “ระบบตรวจสอบการทุจริตด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ซึ่งออกแบบและควบคุมโดย Integrity Authority เองอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบไอทีจากหน่วยงานรัฐอื่น
AI ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาในปี 2024 และถูกออกแบบให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้แบบกึ่งเรียลไทม์ คาดการณ์ความเสี่ยงจากพฤติกรรมฮั้วประมูล หรือจับราคากลางที่ผิดปกติจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
จุดเด่นของระบบนี้ไม่ใช่เพียงการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือการที่หน่วยงานตรวจสอบสามารถควบคุมระบบได้อย่างอิสระ ไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลหรือระบบจากกระทรวงอื่นซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับผู้ถูกตรวจสอบโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงจากการแทรกแซง และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกระบวนการสอบสวน
แม้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่การประกาศสร้างระบบ AI พร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตนเอง ถือเป็นก้าวสำคัญของ Integrity Authority ในการสร้างเครื่องมือที่ไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานรัฐอื่น และเตรียมพร้อมรับมือกับการคอร์รัปชันอนาคต
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันเราก็มีแพลตฟอร์มที่เริ่มนำ AI มาใช้ในการป้องกันการทุจริตเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ACT AI ซึ่งเปิดให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลโครงการภาครัฐ และใช้ฟังก์ชันตรวจจับโครงการที่มีความเสี่ยงผิดปกติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและร้องเรียนโครงการได้โดยตรง
เพราะในโลกที่คอร์รัปชันปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างรวดเร็ว การตามทันเทคโนโลยีอย่าง AI และนำมาปรับใช้ในการต่อต้านการทุจริต จึงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างสังคมที่โปร่งใสในอนาคต
MTI-Hungary Today – Integrity Authority Uses AI-based Monitoring to Fight Corruption (June 5, 2025)
ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค
หัวข้อ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ตัดจบปัญหาคอร์รัปชัน ผ่านการสร้าง Big Data
Big Data มีความสำคัญอย่างมากในการต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะสามารถนำข้อมูลการใช้จ่ายของรัฐที่ถูกจัดเก็บไว้มาวิเคราะห์หาความเสี่ยงในการคอร์รัปชันได้ หากใช้งานข้อมูลให้เป็น จะช่วยอุดช่องโหว่ความเสี่ยงคอร์รัปชันได้
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | การต่อต้านการทุจริตอาจต้องเริ่มที่ความเข้าใจของประชาชน
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิการรับรู้ข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช. จำนวน 1,041 คน ในปี 2562 ชี้คนไทยครึ่งประเทศไม่รู้ว่า ตัวเองมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสำนักงาน ป.ป.ช.
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 3 มุมมองจากผู้รู้ สู่การแก้โกงจากการใช้ดุลยพินิจของรัฐ
เมื่อดุลยพินิจมากเกินไป แก้อย่างไรถึงจะเห็นผล ? ในการกำหนดนโยบายและการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของรัฐต่างก็ต้องมีคนที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเพื่อตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่หลายครั้งการวินิจฉัยกลับไม่เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม หรือเป็นการวินิจฉัยที่เบี่ยงเบนไปตามความพึงพอใจ อคติ หรือเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง จนเกิดเป็นการ “ทุจริต”