รายงานการสังเคราะห์งานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2560 – 2565

จากปัญหาด้านความล่าช้าในการปราบปรามการทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า ควรมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอุปสรรคในการปฏิบัติงาน การพัฒนาการบริหารจัดการองค์การ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับงานคดี และการร่วมมือด้านการปราบปรามการทุจริตกับหน่วยงานอื่น

จากผลการสำรวจความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการปฏิบัติงานของสำนักงาน ป.ป.ช. และผลการประเมินโครงการ/กิจกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564)

พบว่า ภารกิจด้านการปราบปรามการทุจริตได้รับคะแนนน้อยที่สุดในสามภารกิจหลักของสำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้มีข้อเสนอแนะให้มีการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ทราบถึงความก้าวหน้าและผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ป.ป.ช จากสาเหตุดังกล่าว จึงนำมาสู่วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ คือ

  1. เพื่อสังเคราะห์วัตถุประสงค์ของงานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต
  2. เพื่อสังเคราะห์ระเบียบวิธีวิจัยของงานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต
  3. เพื่อสังเคราะห์ผลการวิจัยของงานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต
  4. เพื่อสังเคราะห์ข้อเสนอแนะของงานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต

ผลการศึกษา พบว่า การปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้านการปราบปรามการทุจริต มีประเด็นปัญหาสำคัญ คือ การดำเนินการทางคดีทุจริตที่ล่าช้า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น การชี้มูลความผิด การไม่สามารถเอาผิดทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เป็นต้น

แนวทางพัฒนาการดำเนินงาน ควรเน้นการบริหารงานคดีและงานบุคคล การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับวิเคราะห์งานคดีและเชื่อมโยงข้อมูล และการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงาน รวมทั้งการร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน

ส่วนประเด็นด้านการคุ้มครองพยานและการกันบุคคลไว้เป็นพยานในคดีทุจริต ควรออกกฎหมายที่ครอบคลุมและชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการและกลไกของการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส รวมถึงการคุ้มครองพยานที่มีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัย

  • ในช่วงปีพ.ศ. 2560 – 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. มีงานวิจัยเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริต แบ่งเป็น 5 กลุ่มงานวิจัย ได้แก่ กลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกและการบริหารจัดการด้านการปราบปรามการทุจริต กลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับการประเมิน/ปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามการทุจริต กลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมาย/ช่องโหว่ของกฎหมายด้านการปราบปรามการทุจริต กลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับการคุ้มครองพยาน/การกันบุคคลไว้เป็นพยานในคดีทุจริต และกลุ่มงานวิจัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้านการปราบปรามการทุจริต

สรุปข้อเสนอแนะจากงานวิจัย

  • สำนักงาน ป.ป.ช. ควรพิจารณาให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ด้านการปราบปรามการทุจริตในประเด็นการดำเนินการทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
  • สำนักงาน ป.ป.ช. ควรเพิ่มเติมข้อ 11/1 ของประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2561 โดยกำหนดให้มี หลักเกณฑ์และขอบเขตในการใช้ดุลพินิจคัดเลือกบุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหาที่จะถูกกันไว้เป็นพยานให้เหมาะสมและชัดเจน
  • สำนักงาน ป.ป.ช. ควรพิจารณาปรับปรุงกลไกกระบวนการของการปฏิบัติงานด้านการ ปราบปรามการทุจริตด้านการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่น และคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ท ควรมีการกำหนดแนวทางด้านการ ปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะในด้านของกฎหมายและวิธีการจัดการด้านการปราบปรามการทุจริต เพื่อให้มีแนวทางวิธีการและการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

ศิริชัย กาญจนาวาสี, จุฑารัตน์ สุวารี, อนัญญา แม้นโชติ, สยาม ธีระบุตร, ศักดินันท์ คุณเอนก, ธนพงษ์ ดิษยวณิช และ ศิรินทิพย์ แสงมิ่ง. (2566). รายงานการสังเคราะห์งานวิจัยด้านการปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. 2560 – 2565. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2566
ผู้แต่ง
  • ศิริชัย กาญจนาวาสี
  • จุฑารัตน์ สุวารี
  • อนัญญา แม้นโชติ
  • สยาม ธีระบุตร
  • ศักดินันท์ คุณเอนก
  • ธนพงษ์ ดิษยวณิช
  • ศิรินทิพย์ แสงมิ่ง
หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาต โดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต: การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกินและเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

เพื่อประมาณการต้นทุน รายรับ การขาดทุน ต้นทุนสวัสดิการสังคมของโครงการรับจํานําข้าวเปลือก และประมาณการผลตอบแทนส่วนเกินที่ตกแก่กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์การแสวงหาค่าเช่า และศึกษาการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ