การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

แสวงหาความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง ภูมิหลัง เเละพัฒนาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศึกษากระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้าง สาเหตุของการทุจริต รวมทั้งเสนอมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

งานวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง ภูมิหลัง เเละพัฒนาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกระบวนการและขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง สภาพปัญหา สาเหตุของการทุจริตที่เกิดขึ้นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเเละนำเสนอมาตรการป้องกันที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศไทย

โดยมีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 2 วิธี ได้เเก่ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ผลงานวิจัย หนังสือ ตำรา บทความ รวมทั้งฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องสำหรับการศึกษากรณีของต่างประเทศได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ผลงานวิจัย บทความของนักวิชาการไทยและต่างชาติที่ได้ศึกษาไว้ และการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ และการจัดเวทีประชุมระดมความคิดเห็นเป็นแหล่งที่มาของข้อมูล

โดยพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาเชิงลึกนี้ ได้มาจากข้อมูลเอกสารของสำนักปราบปรามการทุจริตภาคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับคดีที่มีการชี้มูลความผิดใน 4 ประเภทของการทุจริตตั้งแต่ปี พ.ศ.2547-2552 ซึ่งมีทั้งสิ้น 67 คดี หลังจากนั้น จึงนำมาทำการพิจารณาหลักเกณฑ์ และคัดเลือกพื้นที่ที่จะใช้ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งสิ้น 20 พื้นที่

สรุปประเด็นจากงานวิจัย

  • ผลการศึกษา พบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย ต้องดำเนินการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารงานบุคคล และการออกใบอนุญาต ภายใต้กฎหมายระเบียบข้อบังคับหลายฉบับ ซึ่งมีลำดับชั้นที่แตกต่างกันไป โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่วางหลักการโดยภาพรวม จากนั้นจึงมีการบัญญัติกำหนดรายละเอียดไว้ในพระราชบัญญัติและกฎหมายลำดับรองต่าง ๆ ที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทย หรือองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ ดังกล่าว ต้องอยู่ภายใต้ระบบการตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่หลายช่องทาง ได้แก่ การตรวจสอบโดยกลไกทางการเมือง การตรวจสอบโดยองค์กรผู้มีอำนาจกำกับดูแล การตรวจสอบโดยองค์กรที่มีบทบาทในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การตรวจสอบโดยองค์กรภาคตุลาการ และการตรวจสอบจากภาคประชาชน

  • ผลการศึกษาสภาพข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศไทย พบว่าองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นหน่วยงานที่ถูกร้องเรียน และถูกชี้มูลความผิดมากที่สุด ในขณะเดียวกัน การจัดซื้อจัดจ้างและการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน เป็นกิจกรรมที่พบว่ามีการกระทำการทุจริตมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อพิจารณาในเชิงพื้นที่ จะพบว่าในบางพื้นที่ เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่ไม่พบการชี้มูลความผิดในกรณีการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเลย

  • ผลการศึกษาสาเหตุของการทุจริต สามารถจำแนกได้เป็น 2 ส่วน คือ สาเหตุในภาพรวม ได้แก่ ระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย โครงสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจัยทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ความด้อยประสิทธิภาพในการตรวจสอบการทุจริตของหน่วยงานตรวจสอบ การถือปฏิบัติโดยยึดตามบรรทัดฐานจากส่วนกลาง และคุณภาพของบุคลากร และส่วนที่สอง คือ สาเหตุเฉพาะประเภทการทุจริต ประกอบด้วย (1) การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างและการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน มีสาเหตุมาจากกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่ใช้ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง (2) การทุจริตในเรื่องการบริหารงานบุคคล มีสาเหตุมาจากกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการบริหารงานบุคคล ให้อำนาจในการบริหารงานบุคคลแก่ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากจนเกินไป นำมาซึ่งการทุจริตโดยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามมา (3) การทุจริตในเรื่องการออกใบอนุญาต มีสาเหตุมาจากกฎหมายที่มีหลายฉบับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการออกใบอนุญาตส่วนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างเจ้าหน้าที่ และผู้ขออนุญาต รวมทั้ง ในระบบการบริหารราชการภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ

  • ผลการศึกษามาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่ามีพื้นฐานภายใต้หลักการเดียวกัน ได้แก่ หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน หลักความรับผิดชอบ และหลักการห้ามบุคคลากรเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับหน้าที่ของตน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรนำเอาหลักการดังกล่าว มาเสริมสร้างกระบวนการในการดำเนินการของท้องถิ่น เพื่อเป็นการป้องกัน หรือลดโอกาสในการทุจริตของเจ้าหน้าที่

เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

สมคิด เลิศไพฑูรย์, ศิรินทร์รัตน์ กาญจนกุญชร, วิไลลักษณ์ อยู่สำราญ, นิรมัย พิศแข และอัจจิมา ฉัตรแก้ว. (2555). การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2555
ผู้แต่ง
  • สมคิด เลิศไพฑูรย์

  • ศิรินทร์รัตน์ กาญจนกุญชร

  • วิไลลักษณ์ อยู่สำราญ

  • นิรมัย พิศแข

  • อัจจิมา ฉัตรแก้ว 

หน่วยงาน

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการประสานงานวิจัยและส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน

การออกแบบกระบวนการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จำเป็นจะต้องเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งจากมุมมองที่หลากหลาย และบริบทรอบด้านที่เป็นทั้งปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหานี้

แนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาลท้องถิ่นและการเฝ้าระวังติดตามการคอร์รัปชันโดยชุมชนมีส่วนร่วม กรณีศึกษา : พื้นที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน

เพื่อศึกษาบริบทของชุมชน ทุนทางสังคม และสถานการณ์ธรรมาภิบาลและการคอร์รัปชันในระดับพื้นที่ รวมถึงระบบและกลไกทางสังคมต่อการจัดการ และป้องกันปัญหาโดยชุมชนมีส่วนร่วม

แนวทางการพัฒนาระบบตรวจสอบภายในกับธรรมาภิบาลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 8 จังหวัด ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน

วิเคราะห์หาแนวทางการพัฒนาระบบการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายใน ให้สามารถสนับสนุนการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีกรณีศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด

You might also like...

KRAC The Experience | EP 4 “Tales of Transparency : Lesson learns from Georgia”

เปิดเผยข้อมูลแบบโปร่งใสอย่างสุดโต่ง คืออะไร ? วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับข้อมูลเปิด (Open Data) มาเล่าให้คุณฟังกับ KRAC The Experience ตอน “Tales of Transparency : Lesson learns from Georgia”

คิดด้วยพลเมือง(See-Think-Cen’) : ‘อาหรับสปริง’ จุดเริ่มต้นจาก 1 ประชาชน สู่การปฏิวัติกว่า 15 ประเทศ

ไม่ว่าใครก็อยากเห็นประเทศของตัวเองดีขึ้น… ไม่ว่าใครก็อยากเห็นประเทศตัวเองมีความยุติธรรม… ไม่ว่าใครก็อยากเห็นประเทศตัวเองไม่มีการคอร์รัปชัน… แต่หลายคนมองว่าเราเป็นเพียงประชาชนตัวเล็กๆ คนหนึ่งไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ การเปลี่ยนแปลงสังคมเป็นเรื่องไกลตัวที่ไม่มีทางที่คนหนึ่งคนจะทำได้จริง แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประเทศตูนิเซียมีชายขายผักที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์การลุกฮือปฏิวัติในประเทศอาหรับมากกว่า 15 ประเทศ

คิดด้วยพลเมือง(See-Think-Cen’) : หมูเด้งดัง แต่ตังค์อาจไปเข้าหมูไหน?

ปฏิเสธไม่ได้กับความดังระดับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกของลูกฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” แห่งสวนสัตว์เขาเขียว ที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นดาวก็ไม่ผิดด้วยอายุเพียง 3 เดือนกับปรากฏการณ์ “หมูเด้งฟีเวอร์” ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารัก ขัดกับนิสัยที่ดูเกรี้ยวกราดโดยภาพที่ปรากฏออกมาในการไล่งับขาของผู้ดูแลทั้งที่ฟันก็ยังไม่ขึ้นนั้นได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ โดยความดังนั้นไม่ได้หยุดเพียงแค่ในประเทศไทยแต่ดังไปไกลถึงระดับโลก การันตีด้วยการขึ้นเป็นพาดหัวข่าวในสื่อชื่อดังอย่าง Time Magazine และ The New York Times