ถอดบทเรียน ร่วมมือต้านคอร์รัปชันกับนานาชาติอย่างไรให้สำเร็จแบบ USAID
คอร์รัปชันยังคงเป็นปัญหารุนแรงที่เกิดกับหลายประเทศทั่วโลก โดยการจัดอันดับประเทศที่มีความโปร่งใสโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ในปีล่าสุด (2566) พบว่ามีเพียง 28 จาก 180 ประเทศเท่านั้น ที่สามารถแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันให้ดีขึ้นได้ช่วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน จึงมีหลายหน่วยงานที่พยายามทำหน้าที่ในการสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชันในระดับนานาชาติ หนึ่งในนั้นคือ USAID หรือ หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (United States Agency for International Development) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ถูกจัดตั้งโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาในระดับนานาชาติในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน รวมถึงการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งในปี 2567 Benjamin Cardin ประธานคณะกรรมการ USAID ก็ได้ออกมาประกาศถึงแนวทางการต่อต้านการคอร์รัปชันที่ USAID ทำมาตลอดสามปีที่ผ่านมา ดังนี้
1. ปัจจุบัน USAID มี “นโยบายการป้องกันการขนย้ายเงินทุจริตข้ามชาติ” ซึ่งแนวทางนี้ยังรวมไปถึงการตรวจสอบและติดตามเงิน เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ตัวอย่างเช่น USAID ได้ทำการสนับสนุนประเทศในยุโรปตะวันออกในการต่อต้านการขนย้ายเงินทุจริตข้ามชาติที่มาจากกรุงมอสโกในประเทศรัสเซีย
2. USAID ได้ “สนับสนุนเครือข่ายนักข่าวสายสืบสวน” เพื่อเปิดโปงเรื่องคอร์รัปชันทั่วโลกทำให้พบหลายเบาะแสการทุจริต เช่น พบว่าในลาตินอเมริกามีกองทุนสาธารณะที่มีการจัดการที่ล้มเหลวและสร้างความเสียหายมูลค่า 36.6 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะนำไปสู่การจับกุม
3. USAID “ปกป้องนักข่าวสายสืบสวนที่ถูกคุกคามจากอำนาจและอิทธิพลทางกฎหมายของรัฐ” โดยจัดตั้งโครงการ Reporters Shield ที่เปิดรับสมัครองค์กรสื่อกว่า 45 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว 25 องค์กร ตัวอย่างเช่น ใน Republika Srpska ที่มีการออกกฎหมายหมิ่นประมาทที่ส่งผลต่อเสรีภาพการทำงานของสื่อ ซึ่ง USAID ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือองค์กรสื่อต่าง ๆ ในการต่อสู้ด้านกฎหมาย
4. USAID จัดทำหลายโครงการเพื่อ “เพิ่มศักยภาพให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการ และภาคประชาสังคม ในการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน” ตัวอย่างเช่น USAID ได้สนับสนุนรัฐบาลประเทศไลบีเรียในการสืบสวนคดีคอร์รัปชันด้านเภสัชกรรม และเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งในการติดตามเส้นทางการแจกจ่ายเวชภัณฑ์เพื่อส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส
5. USAID สนับสนุนการต่อต้านคอร์รัปชันในทุกมิติ ตัวอย่างเช่น ในด้านสาธารณสุขที่เกิดความเสียหายทั่วโลกปีละ 500 ล้านดอลลาร์ USAID ได้ร่วมมือกับ Global Health ในการเข้าไปช่วยเหลือองค์กรสาธารณสุขในแอฟริกากว่า 9 แห่ง เพื่อตรวจหาการจำหน่ายยาปลอม การซื้อขายยาอย่างผิดกฎหมาย และการทุจริตด้านเวชกรรมเพื่อไม่ให้มีคนฉวยโอกาสจากปัญหาสุขภาพของผู้อื่น
นอกจากนี้ USAID ยังมีโครงการอีกมากมายในการต่อต้านการทุจริต ไม่ว่าจะเป็น Project Grand Challenge ครั้งที่ 12 ที่ได้ชวนผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมระดมความเห็นในการแก้ปัญหาการคอร์รัปชันข้ามชาติ สนับสนุนแพลตฟอร์ม I-KEEP ที่ช่วยให้ประชาชนข้อมูลจัดซื้อจ้างของรัฐได้ง่ายขึ้นเพื่อนำมาสู่ความโปร่งใส
เห็นได้ชัดว่าหลายแนวทางและกระบวนการของ USAID ช่วยสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับนานาชาติ นี่จึงอาจเป็นโอกาสให้กับองค์กรในหลายประเทศที่จะทำการศึกษาแนวทางทำงานร่วมกันเพื่อต่อต้านคอร์รัปชันระหว่างประเทศ และสร้างประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันระดับนานาชาติ
- ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค
หัวข้อ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย I ในสังคมที่มีความร่วมมือหรือความไว้เนื้อเชื่อใจกันสูง รัฐจะสร้างประโยชน์จากข้อค้นพบนี้อย่างไร ?
มุมมองของประชาชนต่อหน่วยงานรัฐ หนึ่งกลุ่มจ่ายภาษี อีกกลุ่มเข้ามาทำหน้าที่พัฒนาบริการสาธารณะให้เกิดประโยชน์ แต่มีหลายครั้งที่โครงการไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น ศาลาสร้างทิ้งไว้ไม่มีคนใช้ จนบางครั้งประชาชนต้องลงแรงทำกันเอง
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | หลังฉากความสำเร็จการพัฒนาโครงการ งบประมาณถึงมือชาวบ้านหรือมือใคร ?
ทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกหลายโครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการพัฒนาชุมชน แต่กลับสูญเปล่า หรือไม่คุ้มค่ากับที่ตั้งใจไว้ ทำให้ชาวบ้านที่ฝันไกลว่าอยากให้ชุมชนพัฒนาแค่ไหน แต่งบประมาณกลับไปไม่ถึง
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ลดการโกง ผ่านการสร้างวัฒนธรรมชุมชนที่ดี
หากกล่าวถึง “สาเหตุของคอร์รัปชัน” สิ่งแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงอาจเป็น นักการเมืองที่จ้องจะโกงหรือตัวกฎหมายที่มีช่องว่างให้คนโกง แต่จริง ๆ แล้วเรื่องใกล้ตัวอย่าง “วัฒนธรรมชุมชน” ก็เป็นหนึ่งในกลไกที่เอื้อให้เกิดการคอร์รัปชันได้เช่นกัน