การศึกษามาตรการปราบปรามการทุจริตด้วยกฎหมายภาษี พบว่า การนำมาตรการทางภาษีมาใช้จะสามารถเป็นเครื่องมือเสริมมาตรการทางอาญา และสามารถลดแรงจูงใจในการทุจริตและป้องกันความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแสได้
รายได้ประจําซึ่งได้รับจากการทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมายถูกกำหนดให้ต้องเสียภาษีตามมาตรา 40 (1) แต่รายได้จากการทุจริตกลับไม่ถูกประเมินเพื่อเสียภาษี จากกรณีดังกล่าวจะเห็นว่าการประเมินภาษีไม่เป็นธรรมสําหรับผู้ที่กระทําตามหน้าที่และถูกต้องตามกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงต้องการศึกษาเจตนารมณ์นโยบายของกฎหมายภาษีอากร วัตถุประสงค์ และการนํามาตรการทางภาษีมาใช้เพื่อปราบปรามการทุจริต โดยการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการศึกษาด้วยการทบทวนวรรณกรรม แนวคิด ทฤษฎีในลักษณะวิจัยเชิงสหวิทยาการเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีกับการทุจริต
ผลการศึกษา พบว่า การทุจริตเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความต้องการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และการลงโทษปรับหรือริบทรัพย์ไม่สามารถลดแรงจูงใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อเสนอคือ การใช้มาตรการทางภาษี เช่น การประเมินภาษีจากรายได้ที่ผิดกฎหมาย เพื่อเสริมมาตรการทางอาญาและลดแรงจูงใจในการทุจริต นอกจากนี้ การที่กระบวนการอาญาอาจถูกแทรกแซง ทำให้ผู้แจ้งเบาะแสบางครั้งถูกคุกคาม ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐและกรมสรรพากรควรร่วมมือกันอย่างจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายทั้งสองด้านเพื่อฟื้นฟูงบประมาณและส่งเสริมความเป็นธรรมทางสังคมในประเทศไทย
รูปแบบ APA
ติภัทร หอมละออ. (2566). มาตรการปราบปรามการทุจริตด้วยกฎหมายภาษี. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(1), 119-150.
นิติภัทร หอมละออ
หัวข้อ
โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ
งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น
โครงการเฝ้าระวังกฎระเบียบของรัฐ (Regulatory Watch)
เฝ้าระวังการออกกฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง
โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย
ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต


