บทความวิจัย | อายุความในการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐในคดีทุจริต

อายุความในการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐในคดีทุจริต พบว่า ระยะเวลา 5 ปีตามกฎหมายในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน ดังนั้นจึงควรแก้ไขด้วยเพิ่มระยะเวลาโดยพิจารณาจากการนำบทกฎหมายที่มีการกำหนดเช่นเดียวกันมาเทียบเคียง 

 

จากพระราชบัญญัติของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งมีปัญหาในบทกฎหมายกรณีระยะเวลาในการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่เหมาะสมกับกระบวนการพิจารณาและการรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ตามเวลาที่กำหนด และเกิดความไม่เป็นธรรมต่อหน่วยงานภาครัฐหรือบุคคลธรรมดาที่ได้รับความเสียหาย

 

การศึกษานี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและวิเคราะห์แนวทางแก้ไขเกี่ยวกับกรณีการกำหนดระยะเวลาในการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐตามพระบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 โดยมีวิธีการศึกษาแบบทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ และหลักการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทุจริตของไทยและต่างประเทศ 

 

ผลการศึกษา พบว่า การกำหนดระยะเวลาเพียง 5 ปี นับแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันกล่าวหาเป็นระยะเวลาที่ไม่เพียงพอและไม่ได้สัดส่วนกับพฤติการณ์ในความเป็นจริง เนื่องจากมีหลายปัจจัยอันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความล่าช้าในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้เพียงพอต่อการพิสูจน์ความผิด เช่น ความซับซ้อนจากการใช้เทคโนโลยี

 

จึงควรแก้ไขบทบัญญัติเรื่องระยะเวลาในการรับคำกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 ให้มีระยะเวลายาวนานขึ้น โดยอาศัยบทกฎหมายที่มีการกำหนดเช่นเดียวกันมาเทียบเคียง เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐสามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่เพียงพอต่อการพิจารณา

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

พัทธนันท์ นาสวน. (2565). อายุความในการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐในคดีทุจริต. วารสารกฎหมายและสังคมรังสิต, 2(2), 116.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2565
ผู้แต่ง

พัทธนันท์ นาสวน

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

You might also like...

โมเดลทางทฤษฏีเชื่อมโยงดัชนี ITA ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและความคิดที่จะออกมาแจ้งเบาะแสการทุจริตในภาครัฐ

งานวิจัยชี้ว่า 3 ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความคิดของบุคคลที่จะออกมาแจ้งเบาะแสในหน่วยงาน ได้เเก่ จริยธรรมขององค์กรที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานเพื่อสาธารณะ ความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมของเเต่ละบุคคล และความรู้สึกปลอดภัยในการเเสดงความคิดเห็น

KRAC Update เล่าข่าวต้านคอร์รัปชัน I 90 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม !! ยูเครนผ่านการประเมินความโปร่งใสจาก OECD ได้อย่างไร แม้อยู่ในภาวะสงคราม ?

ยูเครนโชว์ศักยภาพความโปร่งใส ผ่านการประเมินมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันภายใต้แผน “Istanbul Anti-Corruption Action Plan” รอบที่ 5 จาก OECD แม้อยู่ในภาวะสงคราม ?

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | แก้คอร์รัปชันต้องเริ่มที่ปัจจัยไหน โครงสร้างหรือค่านิยมที่ผิด ?

ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่หาย แม้จะมีการก่อตั้งหน่วยงานและมีนโยบายออกมาป้องกันและปราบปรามมากมายแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก แล้วต้นเหตุของมันคืออะไร ? ชวนมาดูการวิเคราะห์ปัจจัยการคอร์รัปชันเชิงโครงสร้างภาครัฐ