
เบื้องหลังความจำเป็นในการฟื้นฟู กลับแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงของ “การทุจริต
“KRAC Extract” ประเดิมบทความแรกด้วยรายงาน “Türkiye: Corruption risks and anti-corruption measures for post-earthquake recovery” โดย Matthew Jenkins (2025)
รายงานนี้เผยให้เห็นว่าการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทว่าเบื้องหลังความเร่งรีบและความจำเป็นในการฟื้นฟู กลับแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงของ “การทุจริต” ที่อาจแทรกซึมได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการ
เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เงินทุนจำนวนมหาศาลจากรัฐและองค์กรต่างประเทศจะไหลเข้าสู่พื้นที่ประสบภัย ในขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นอาจไม่มีศักยภาพเพียงพอในการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส บวกกับแรงกดดันจากรัฐบาลให้เร่งดำเนินการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน อีกทั้งการใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉินที่มักมาพร้อมกับการผ่อนคลายมาตรการด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบทางการเงิน ทั้งหมดนี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงที่กระบวนการฟื้นฟูจะถูกแทรกแซงจากการทุจริต!
กรณีศึกษาจากตรุกีชี้ ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนของการฟื้นฟู
จากรายงานได้ยกกรณีศึกษาของประเทศตุรกีซึ่งสะท้อนภาพนี้ได้อย่างชัดเจน จากลักษณะโครงสร้างการปกครองที่รวมศูนย์สูง และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นไปในลักษณะของการอุปถัมภ์ กลายเป็นช่องทางให้การทุจริตแทรกตัวได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูหลังแผ่นดินไหว เช่น การก่อสร้าง การคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ ยังพบว่าหน่วยงานท้องถิ่นมีความเสี่ยงสูงต่อการทุจริต โดยพบความผิดปกติจำนวนมาก ทั้งในด้านบัญชี การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางในระบบการบริหารจัดการ อีกทั้งความเสี่ยงในการทุจริตยังสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการฟื้นฟู
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน โครงการฟื้นฟูหลังเหตุแผ่นดินไหวมีแนวโน้มจะถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ และอาจออกแบบโครงการให้เอื้อกับพวกพ้องของตนมากกว่าการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน
ขั้นตอนการกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ได้รับการช่วยเหลือ ผู้นำชุมชนหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาจพยายามแทรกแซงเกณฑ์และรูปแบบการจัดสรรทรัพยากรโดยแฝงจุดประสงค์ทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้บางกลุ่มประชากรไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม เช่น ประชากรกลุ่มเปราะบางที่มักไม่ได้รับการดูแลจากรัฐมากนัก
ต่อมาในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาวะฉุกเฉินหลังเกิดภัยพิบัติ ทำให้สามารถมอบสัญญาให้แก่บริษัทที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองได้ง่ายมากขึ้น
และในขั้นตอนการส่งมอบบริการ ภัยพิบัติอาจทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมของอำนาจระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการยักยอกทรัพย์สิน หรือการเรียกรับสินบน รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศเพื่อแลกกับการเข้าถึงความช่วยเหลือจำเป็นอีกด้วย
ทางออกลดความเสี่ยง ต้องเปิดพื้นที่ร่วมตรวจสอบ
ทางออกของปัญหาเหล่านี้ จำเป็นต้องกำหนดแนวทางความรับผิดชอบที่ชัดเจนระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ และควรมุ่งเน้นที่การสร้างกลไกความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องมีการบันทึกทุกขั้นตอนที่นอกเหนือไปจากระเบียบปกติ (โดยเฉพาะในด้านการจัดซื้อจัดจ้าง) และควรมีการดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังอย่างรัดกุม
นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในกระบวนการฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการวางแผนโครงการที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หรือการเปิดพื้นที่ให้ชุมชนร่วมติดตามตรวจสอบ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท้ายที่สุด ภัยพิบัติไม่ใช่แค่บททดสอบของระบบการจัดการ แต่ยังเป็นโอกาสในการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการท้องถิ่นใหม่ให้ตอบโจทย์ประชาชน โดยเฉพาะการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงประโยชน์จากนโยบายของรัฐต่อกลุ่มเปราะบาง และหากเราสามารถบริหารจัดการอย่างโปร่งใส มีส่วนร่วม และรับผิดชอบต่อกัน การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติจะไม่เพียงแต่เยียวยาผลกระทบเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนผ่านสู่สังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกว่าเดิมได้อย่างแท้จริงด้วย
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ลิงก์
คอลัมน์ “KRAC Extract” สกัดองค์ความรู้ที่จับต้องได้ผ่านการศึกษาสถานการณ์คอร์รัปชันโลกที่จะพาคุณไปสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชันในระดับสากล เจาะลึกรายงานจากแหล่งข้อมูลนานาชาติ และวิเคราะห์ประเด็น Hot ที่โลกกำลังจับตา เพราะคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัว และการเรียนรู้บทเรียนจากต่างประเทศคือหนึ่งในกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
Matthew Jenkins. (2025). Türkiye: Corruption risks and anticorruption measures for postearthquake recovery. Transparency International.
เรียบเรียงโดย ธนากาญจน์ กันต์ทอง
ผู้ช่วยนักวิจัย และฝ่ายสื่อสารองค์ความรู้
หัวข้อ
มาแล้ว !! โอกาสพัฒนาความรู้สู่การต่อต้านคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพ
KRAC ชวนทุกคนมาเรียน “หลักสูตรการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชันร่วมสมัย” ที่จะพาผู้เรียนมาทำความเข้าใจกับการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีเนื้อหาประยุกต์ไปกับหลายศาสตร์หลากมุมมองและมีตัวอย่างกรณีศึกษาให้เรียนรู้ สอดแทรกไปกับองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับองค์กรที่ทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันในปัจจุบัน
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ไขแนวคิด พิชิตความสำเร็จของหน่วยงานรัฐ ในการสร้างธรรมาภิบาล ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
สร้างความสำเร็จในหน่วยงานด้วย “หลักธรรมาภิบาล” ตามแผน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีตัวอย่าง 6 หน่วยงานรัฐไทยที่ไขแนวคิด พิชิตความสำเร็จในการสร้างธรรมาภิบาล…ปัจจัยความสำเร็จเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง ? และผลลัพธ์ของการมีธรรมาภิบาลจะเป็นเช่นไร ? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | โควิด-19 ส่งผลอย่างไรต่อสถานการณ์คอร์รัปชันและธรรมาภิบาล ?
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สุขภาพและเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การใช้อำนาจพิเศษของรัฐ ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มขึ้น และการจัดซื้อจัดจ้างแบบฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการทุจริต แล้วเราจะฟื้นฟูผลกระทบเหล่านี้ได้อย่างไร ?