KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 5 ความเสี่ยงทุจริตทรัพยากรไทย ช่องโหว่การรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้ในอำเภอม่อนแจ่ม

นายทุนไทยใช้ช่องว่างอย่างไรในการรุกล้ำป่า ?

ม่อนแจ่ม หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2545 และสร้างรายได้ในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม การเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ตามมาด้วยปัญหาต่าง ๆ มากมาย รวมถึงปัญหาการบุกรุกป่าที่เชื่อมโยงไปถึงการทุจริตด้วย

 

งานวิจัยเรื่อง “ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณี ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” (2566) โดยสำนักวิจัยและบริการวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 

ได้ทำการศึกษา “ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้” ซึ่งว่าด้วยหลายประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรป่าไม้ โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องของการบุกรุกโดยกลุ่มนายทุน

5 ความเสี่ยงทุจริตทรัพยากรไทย

ข้อมูลที่ศึกษาจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) พบว่า มีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่ม่อนแจ่มรวมทั้งสิ้น 122 ราย มีอย่างน้อย 36 รายที่ไม่เข้าเงื่อนไขของสิทธิการครอบครอง ได้แก่ การซื้อขาย เปลี่ยนมือ และการถือครองโดยนายทุนต่างชาติ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้พื้นที่จากภาคประชาชนเป็นเชิงพาณิชย์ในระดับทุนขนาดใหญ่

 

การที่กลุ่มทุนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนทั้งที่ขัดต่อกฎหมาย อาจส่อถึงการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งงานวิจัยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อการทุจริตในหลายจุด ดังนี้

  1. ความผิดปกติของเอกสาร: งานวิจัยพบความเสี่ยงจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรายชื่อในเอกสารต้นขั้ว หรือใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ใบหาง) โดยมีร่องรอยการลบชื่อเดิมและใส่ชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งอาจเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสารราชการ หรือปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ จนสร้างความเสียหายและเกิดข้อสงสัยจากชาวบ้านในพื้นที่
  1. ความเสี่ยงการทุจริตใช้งบสำรวจพื้นที่: ปี 2551 พบข้อสงสัยว่าการสำรวจพื้นที่ที่อ้างว่าใช้ในปี 2551 อาจไม่เกิดขึ้นจริง โดยหน่วยงานรัฐใช้แผนที่ที่ได้จากโครงการหลวงในปี 2546 แทนการสำรวจใหม่ ไม่มีการแจ้งชาวบ้านหรือจัดประชาคม ไม่มีลายเซ็นหรือเอกสารยินยอมจาก อบต. จึงมีความเสี่ยงต่อการทุจริตงบประมาณที่ใช้ในการสำรวจดังกล่าว
  1. ความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่: เจ้าหน้าที่ที่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่ป่าอาจเสี่ยงถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขณะเดียวกัน หากไม่ดำเนินการแก้ไขก็อาจถูกฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่อยู่ในภาวะเสี่ยงจากทั้งสองทาง
  1. ความเสี่ยงจากการละเว้นให้ทุนสร้างรีสอร์ต: มีการซื้อขายที่ดินโดยผิดวัตถุประสงค์ แล้วนำไปสร้างรีสอร์ตในพื้นที่ที่ห้ามเปลี่ยนมือกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐกลับไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อผู้กระทำผิด อันเนื่องมาจากการเรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์เพื่อละเว้นการดำเนินคดี ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะอ้างว่ามีกำลังคนไม่เพียงพอ แต่ข้อจำกัดนี้ไม่อาจเป็นเหตุผลในการละเว้นการดำเนินคดีหรือมองข้ามการกระทำผิดได้
  1. ความไม่ชัดเจนเรื่องแนวเขตและสิทธิในพื้นที่: ชาวบ้านหลายรายอยู่ในพื้นที่ก่อนประกาศเป็นเขตป่าสงวนในปี 2507 และมีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องตามโครงการหลวง แต่ภาครัฐใช้ข้อมูลการสำรวจจากปี 2546 โดยไม่สำรวจใหม่หรือรับรองสิทธิของผู้อยู่อาศัยรายอื่น ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งจากการบังคับใช้กฎหมาย และมีผู้ถูกดำเนินคดีแม้มีหลักฐานว่าใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาก่อนตามมติ ครม. ปี 2541

พิสูจน์สิทธิในที่ดิน ป้องกันความเสี่ยงการทุจริตได้

จากข้อค้นพบช่องทางการทุจริต งานวิจัยได้เสนอแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต โดยเสนอให้มีการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินของประชาชนอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับการจัดทำแผนแม่บทโดยเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

 

พร้อมกับการจัดทำแผนที่แนวเขตแบบบูรณาการ (One Map) มาตราส่วน 1:4,000 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ยังเสนอให้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารแจ้งครอบครองระหว่างที่รัฐและประชาชนถือไว้ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ รวมถึงการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อตรวจตราและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม

 

กรณีศึกษาทั้ง 5 ข้อข้างต้นเป็นเพียงหนึ่งในประเด็นที่เราได้หยิบยกมาเล่าเท่านั้น ในงานวิจัยเรื่อง “ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณี ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” (2566) ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น บทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนและควบคุมพื้นที่ท่องเที่ยว การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ป่าไม้ และข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อป้องกันการทุจริตในพื้นที่ป่าสงวน โดยสามารถอ่านสรุปงานวิจัยได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

คอลัมน์ “KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย” เป็นบทความเล่างานวิจัยไทยด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน ที่หยิบยกหนึ่งในประเด็นของงานวิจัยในมุมมองของผู้ปฏิบัติการ เพื่อปูพื้นฐานความรู้และความเข้าใจเรื่องการคอร์รัปชัน และการต่อต้านคอร์รัปชันในมิติต่าง ๆ ภายใต้บริบทของประเทศไทย

ที่มา

สำนักวิจัยและบริการวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริติ. (2566). ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2568
ผู้แต่ง

ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

เปลี่ยน Trainees เป็น Rookies ตัวท็อปของวงการ : ชวนอ่าน Anti-Corruption 101 เพื่อปูพื้นฐานการต่อต้านคอร์รัปชัน

ชวนอ่าน Anti-Corruption 101 ที่จะช่วยปูพื้นฐานความรู้ในเรื่องการคอร์รัปชัน ผ่านแนวคิดทางวิชาการ และเรียนรู้แนวทางการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีเนื้อหาเข้าใจง่ายสำหรับทุกคน

มาแล้ว !! โอกาสพัฒนาความรู้สู่การต่อต้านคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพ

KRAC ชวนทุกคนมาเรียน “หลักสูตรการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชันร่วมสมัย” ที่จะพาผู้เรียนมาทำความเข้าใจกับการต่อต้านคอร์รัปชันที่มีเนื้อหาประยุกต์ไปกับหลายศาสตร์หลากมุมมองและมีตัวอย่างกรณีศึกษาให้เรียนรู้ สอดแทรกไปกับองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับองค์กรที่ทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันในปัจจุบัน

คัดสรรงานวิจัยไทยต่อต้านคอร์รัปชัน ที่คุณอาจไม่รู้ (จัก) มาก่อน : ชวนอ่านสรุปงานวิจัยไทย 24 ชิ้น เพื่อทำความเข้าใจการต่อต้านคอร์รัปชัน

ชวนอ่านสรุปงานวิจัยไทยที่ KRAC คัดสรรมาให้คุณ เพื่อจะทำให้คุณเข้าใจปัญหา และวิธีการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันภายใต้บริบทของประเทศไทย

You might also like...

ความเสี่ยงต่อการทุจริตในปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ กรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พื้นที่ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

งานด้านการข่าว และ เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ เป็นเครื่องมือหรือกลยุทธ์ที่สามารถจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันที่ซับซ้อนได้ หากนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาปรับใช้ในสำนักงาน ป.ป.ช. ก็จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและได้ประสิทิผลมากขึ้น

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เสริมพลัง ป.ป.ช. จังหวัด แก้คอร์รัปชันให้ตรงจุด

“เปิดเลนส์ข่าวกรอง” ชวนสำรวจแนวทางสืบสวนคดีคอร์รัปชันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในคดีที่ซับซ้อน มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง หรือมีความพยายามปกปิดร่องรอยอย่างเป็นระบบ แต่ละประเทศมีแนวทางอย่างไรบ้าง มาดูกัน

KRAC Hot News I สินบนฝากครรภ์และคลอดบุตร: หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้

เจาะลึกสินบนในระบบการฝากครรภ์และการคลอดบุตร เเละเเนวทางเเก้ปัญหา เพื่อไม่ให้แม่คนต่อไปต้องถูกบีบให้จ่ายสินบน เพียงเพราะต้องการให้ลูกเกิดมาอย่างปลอดภัย