KRAC Update เล่าข่าวต้านคอร์รัปชัน I คริปโทเคอร์เรนซี ช่องทางเสี่ยงคอร์รัปชัน

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเกาหลีใต้เร่งตรวจสอบคริปโทเคอร์เรนซีนักการเมือง

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ACRC (Anti-corruption & Civil Rights Commission) หรือคณะกรรมการต่อต้านการทุจริต และสิทธิพลเมืองเกาหลีใต้ได้แถลงการณ์ถึงความตั้งใจที่จะตรวจสอบทรัพย์สินดิจิทัลรูปแบบ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ของนักการเมือง รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายทุกคน

โดยเหตุผลที่ ACRC หันมาสนใจทรัพย์สินประเภทคริปโทเคอร์เรนซีเป็นผลมาจากข่าวฉาวของ Kim Nam-kuk อดีตสมาชิกผู้แทนราษฎรพรรค Democratic Party of Korea (DPK) ที่พบว่ามีทรัพย์สินคริปโทเคอร์เรนซีที่ถือครองไว้มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านวอน หรือประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินจำนวนนี้ไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน หรืออาจเข้าข่ายที่เรียกว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยคริปโทเคอร์เรนซีเป็นทรัพย์สินดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่พึ่งเริ่มเป็นที่นิยมไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังไม่มีการจัดการที่ครอบคลุมและอาจทำให้เกิดช่องว่างในการฟอกเงินหรือการพยายามปิดบังทรัพย์สินได้

Jeon Hyun-heui ประธานคณะกรรมการ ACRC ได้ประกาศว่า ACRC มีความมุ่งมั่นที่จะสอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนอื่น ๆ ด้วยมาตรการเชิงรุก แต่ถึงอย่างนั้นการเปิดข้อมูลทรัพย์สินก็ต้องได้รับความร่วมมือจากนักการเมืองที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งการเข้าถึงทรัพย์สินประเภทคริปโทเคอร์เรนซียังมีระบบปกปิดข้อมูลส่วนตัวค่อนข้างสูง ทำให้การเปิดข้อมูลในส่วนนี้เป็นเรื่องยาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเกาหลีใต้ได้มีการผ่านกฎหมาย “Kim Nam-kuk Prevention Act” ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้มีการเปิดข้อมูลทรัพย์สินดิจิทัลประเภทคริปโทเคอร์เรนซีของนักการเมืองและข้าราชการผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมาย และในส่วนของนาย Kim Nam-kuk ปัจจุบันได้ถูกขับออกจากตำแหน่งสมาชิกผู้แทนราษฎรแล้ว และการดำเนินคดีตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของ ACRC ที่ยังคงต้องติดตามกันต่อไป

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2566
ผู้แต่ง
  • ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค
หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ส่องการตรวจสอบทรัพย์สินเจ้าหน้าที่รัฐ : บทเรียนจาก 3 ชาติ

ความโปร่งใสในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน KRAC จึงอยากชวนมาดูกลไกการตรวจสอบทรัพย์สินของสหรัฐฯ จอร์เจีย และฮ่องกง พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางการปรับใช้ในบริบทของประเทศไทย

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | How to โปร่งใส : แก้ปัญหาทุจริตเชิงนโยบายสไตล์ญี่ปุ่น

“ทำลายจุดอ่อนเสริมจุดแข็ง” KRAC ชวนดูวิธีการปฏิรูประบบการบริหารราชการและการกำหนดนโยบาย รวมถึงการดำเนินการทางกฎหมายกรณีทุจริตเชิงนโยบายของประเทศญี่ปุ่น

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | 4 ชาติ 4 แนวทาง หยุดทุจริตเชิงนโยบาย

เคยได้ยินชื่อของ “คดีทุจริตคลองด่าน” กันไหม ? นี่คือหนึ่งในคดีทุจริตครั้งใหญ่ของประเทศไทยที่สร้างความเสียหายเป็นเงินกว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งการทุจริตที่ทำกันอย่างเป็นระบบจากคนหลายฝ่าย แบบนี้เราเรียกว่าการทุจริตเชิงนโยบาย

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | แก้คอร์รัปชันต้องเริ่มที่ปัจจัยไหน โครงสร้างหรือค่านิยมที่ผิด ?

ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่หาย แม้จะมีการก่อตั้งหน่วยงานและมีนโยบายออกมาป้องกันและปราบปรามมากมายแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก แล้วต้นเหตุของมันคืออะไร ? ชวนมาดูการวิเคราะห์ปัจจัยการคอร์รัปชันเชิงโครงสร้างภาครัฐ

แนวทางการป้องกันและลดความสูญเสียงบประมาณจากการทุจริต

การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับเจตจํานงของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และค่านิยมของประชาชนที่ไม่เพิกเฉยต่อการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ

KRAC Update เล่าข่าวต้านคอร์รัปชัน I เคนยาไม่มองข้ามเยาวชน หน่วยงานรัฐร่วมเซ็น MOU ผลักดันเยาวชนแก้ปัญหาทุจริต

คณะกรรมการจริยธรรมและต่อต้านการทุจริตประเทศเคนยา (Ethics and Anti‑Corruption Commission: EACC) จับมือกับเยาวชนเพื่อหนุนเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่จะคิดค้นแนวทางแก้ปัญหาใหม่ ๆ เพื่อต่อสู้กับคอร์รัปชัน