การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นธรรมในสังคมไทยภาครัฐต้องปรับปรุงการดำเนินการทั้งในเชิงของกฎหมาย การออกแบบระบบการบริหารจัดการ ด้วยการนำหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชนมาประยุกต์ใช้เพื่อลดปัญหาความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้ พบว่า โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับปัญหาความไม่เท่าเทียมทางสังคม โดยเฉพาะในด้านการกระจายรายได้และการเข้าถึงบริการสาธารณะ
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการตั้งค่าสัมปทานและระบบผูกขาดในหลายภาคส่วน ก่อให้เกิดค่าเช่าทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการเสนอแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยเน้นการสร้างความเป็นธรรมในกระบวนการจัดการทรัพยากรและบริการของรัฐ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการที่เหมาะสมได้อย่างเท่าเทียมกัน จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างสวัสดิการทางสังคมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยในกระบวนการปฏิรูปการเมืองใหม่ มีการเสนอโปรเจกต์ปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นธรรมทางสังคม ประกอบด้วยสองโครงการย่อย ได้แก่ 1) การทำแผนที่และวิเคราะห์ผลตอบแทนส่วนเกินทางเศรษฐกิจ และ 2) มาตรการการคลังที่ส่งเสริมความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม
สรุปประเด็นสำคัญของงานวิจัย
งานวิจัยนี้ ได้ทำการศึกษาการทำแผนที่และกายวิภาคของผลตอบแทนส่วนเกินทางเศรษฐกิจ พบว่า ประเทศไทยมีปัญหาในด้านโครงสร้างและลักษณะของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทยเอื้อให้เกิดการผูกขาด การแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร การใช้ระบบสัมปทาน การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การใช้อิทธิพลในการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ และการทุจริตในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องอาศัยการกำกับดูแลที่เหมาะสม การลดความยุ่งยากและความล่าช้าในการสืบสวนเมื่อเกิดเหตุสงสัย และควรนำหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชนเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการและการดำเนินโครงการ จึงจะสามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้นและทำให้ภาครัฐสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
งานวิจัยนี้ ได้ทำการศึกษามาตรการการคลังกับความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ควรมีการปรับภาษีอย่างก้าวหน้าเพื่อเก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูงมากขึ้น และนำไปสู่การสนับสนุนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย การจัดสรรงบประมาณควรเน้นไปที่การปรับปรุงบริการสาธารณะ เช่น การศึกษาและสุขภาพ เพื่อช่วยลดความไม่เท่าเทียม นอกจากนี้ ควรสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ และสร้างความโปร่งใสในกระบวนการใช้งบประมาณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน การประเมินผลกระทบทางสังคมของมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจะช่วยตรวจสอบความเป็นธรรมและประสิทธิภาพของนโยบายได้ดียิ่งขึ้น
พนธ์ พัวพงศกร, เดือนเด่น นิคมบริรักษ์, สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์, อดิศร อิศรางกูร ณ อยุธยา, อภิวัฒน์ รัตนวราหะ, โสภณ ชมชาญ, สฤณี อาชวานันทกุล, พอพล แข่งเพ็ญแข, วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์, อมรเทพ จาวะลา, ชัยสิทธิ์ อนุชิตวรวงศ์, สมชัย จิตสุชน, วิโรจน์ ณ ระนอง และสุเมธ องกิตติกุล. (2554). โครงการการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นธรรมในสังคม. สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
- นิพนธ์ พัวพงศกร
- เดือนเด่น นิคมบริรักษ์
- สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์
- อดิศร อิศรางกูร ณ อยุธยา
- อภิวัฒน์ รัตนวราหะ
- โสภณ ชมชาญ
- สฤณี อาชวานันทกุล
- พอพล แข่งเพ็ญแข
- วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์
- อมรเทพ จาวะลา
- ชัยสิทธิ์ อนุชิตวรวงศ์
- สมชัย จิตสุชน
- วิโรจน์ ณ ระนอง
- สุเมธ องกิตติกุล
หัวข้อ
โครงการศึกษาพรมแดนและช่องว่างความรู้เรื่องคอร์รัปชันและธรรมาภิบาล เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2566-2570
ศึกษาพัฒนาการของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลในประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อแนวทางการสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยในประเด็นคอร์รัปชัน และธรรมาภิบาลในอนาคต
โครงการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบ กลไกและแนวทางการปลูกฝังเจตคติและวัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ศึกษาพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตที่มีผลต่อการป้องกันการทุจริตของไทย และศึกษากรณีของต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อไป
โครงการวิจัยการศึกษาแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
นำเสนอแนวคิดและกิจกรรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันผ่านกระบวนการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด